เธอโยนลูกลงมาจากระเบียงคอนโดฯ ชั้น 8 ทีละคน แล้วตัวเองกระโดดตามลงมา ร่างกายแหลกเหลวอยู่บนพื้นปูนสามคนแม่ลูกถ้าคนเราเกิดมาเพื่อใช้กรรมจริง บัดนี้ภาระหน้าที่ของคุณสุคนธาสิ้นสุดลงแล้ว
ขอให้เธอมีความสุขในภพใหม่เถิดวันนี้มีปาฐกถาธรรม เรื่อง “อยู่กันด้วยความรัก” จากวัดชลประทานฯ มาฝากคุณผู้อ่าน “กรรมกำหนด”
พระพุทธเจ้าสอนให้เราถือว่าสัตว์ทั้งหลายเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น จึงควรคิดขอให้เขาทั้งหลายมีความสุขความเจริญ ไม่เบียดเบียนริษยาอาฆาต จองเวรกันไม่ว่าคนนั้นจะเป็นคนดี หรือเป็นคนเสีย
ถ้าเป็นคนดี เราก็ดีใจกับเขา
ถ้าเป็นคนเสีย เราก็เสียใจกับเขา พร้อมกันนั้นเราก็ตั้งใจขอให้เขาเป็นคนดี ขอให้พ้นจากความชั่วร้ายในชีวิตประจำวันด้วยเถิด
อย่าโกรธใคร อย่าเกลียดใคร ให้นึกถึงอกเขาอกเราว่า เราต้องการความสุขอย่างใด เขาก็ต้องการความสุขอย่างนั้น
เราเกลียดความทุกข์อย่างใด เขาก็เกลียดความทุกข์อย่างนั้นสิ่งใดเราไม่ชอบ สิ่งนั้นเขาก็ไม่ชอบเหมือนกันเวลาพบใคร เราควรนึกว่า ขอให้คุณเป็นสุขๆ ขอให้คุณปราศจากความทุกข์เดือดร้อน ขอให้คุณมีความเจริญก้าวหน้าในชีวิต ในการงาน
เพียงแค่คิดเท่านั้น เราก็สบายใจแล้ว เพราะเป็นความคิดที่แผ่เมตตาปรารถนาดีต่อเขา
ลองพิจารณาที่ตัวเองขณะใดที่เราโกรธ เกลียดคนอื่น ความรู้สึกในใจเป็นอย่างไร เราย่อมรู้ได้ด้วยตนเองว่าใจของเราร้อนมืดมัววุ่นวาย ไม่มีความสงบ
เราจึงควรอยู่กันด้วยความรักหากมีเรื่องผิดพ้องหมองใจกับใคร ก็จงเลิกคิด เลิกโกรธ เลิกเกลียดเขาเสียเถิด
แต่ถ้ายังโกรธเกลียดอยู่ ก็จงถามตัวเองว่า ตั้งแต่โกรธเขา เกลียดเขา มันมีอะไรดีขึ้นในชีวิตของเราบ้าง
ไม่เห็นมีอะไรดีขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย ซ้ำเกิดความทุกข์เพราะหวาดระแวงภัยอยู่ตลอดเวลา ว่าเขาจะมาทำร้ายเรา เบียดเบียนเรา สร้างความทุกข์ความเดือดร้อนให้แก่เรา
เมื่อเป็นอย่างนั้น มันจะมีความสุขที่ตรงไหนไม่มีความสุขหรอก เพราะมันเป็นความคิดที่เบียดเบียน
ตรงกันข้าม ถ้าเราไม่เบียดเบียนใคร ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน เราก็จะมีแต่ความสุข ตามที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
“อัพพะยาปัชฌัง สุขัง โลเก”
การไม่เบียดเบียนกัน เป็นความสุขในโลกเมื่อตัดความโกรธและการเบียดเบียนกันเสียได้ ความมีเมตตาก็ย่อมอุบัติขึ้นในดวงจิต ดังพุทธพจน์ที่ว่า
“จงมีเมตตาในสัตว์ทั้งปวงในที่ทุกสถานเหมือนบุคคลเมตตาบุตรอันเป็นที่รักคนเดียว”เก่งจังครับ