นายและนาง Blue Angel อาสาสมัครพิทักษ์ใจในโรงพยาบาล 2


ทำแล้วได้อะไร ....ผลที่ได้มันเป็นเรื่องของใจ ที่ใครไม่เคยช่วยเหลือคนอื่นไม่รู้หรอกว่า...ความรู้สึกอิ่มใจที่ได้ช่วยเหลือนั้นเป็นอย่างไร

                   เช่นเดียวกับ “วิไลรัตน์ อินคาฤทธิ์” เจ้าหน้าที่ธุรการสาว บอกขณะปฏิบัติงาน Blue Angel ว่า สิ่งที่ทำคืองานให้บริการ เวลาผู้ป่วยเดินมาก็จะคอยถามผู้ป่วย ว่าจะไปแผนกไหน ว่ามีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า ให้คำแนะนำผู้ป่วย พาเดินไปส่งต่อให้กับ Blue Angel ในจุดนั้น ๆ รับช่วงต่อ

 

             “วิไลรัตน์” บอกว่า ไม่ว่างานธุรการที่เป็นงานประจำกับการมาเป็น Blue Angel เป็นงานให้บริการผู้ป่วยเหมือนกันแต่คนละรูปแบบ และไม่ได้รู้สึกเหนื่อยเพราะชอบและอาสามาทำเอง ความสุขคือการได้เห็นผู้ป่วยที่เจ็บป่วยมาโรงพยาบาลแล้วเราสามารถทำให้จิตใจเขาดีขึ้น

               อย่างกรณีคนไข้เด็กรายหนึ่งที่กำลังอาการแย่ ญาติอุ้มมาโดยที่ไม่รู้ว่าคนไข้อาการหนัก เราเห็นเข้าก็รีบเข้าไปช่วยเหลือโดยรีบไปแจ้งพยาบาล สุดท้ายเด็กก็ปลอดภัย ญาติคนไข้เราก็ประทับใจเรา เราก็ประทับใจที่ได้ช่วยเหลือให้เขาได้รับการรักษาทันท่วงที คนไข้บางคนพอหายแล้วเขาก็กลับมาเยี่ยม ซื้อขนมมาฝาก กลายเป็นแฟนคลับ แม้เราจะบอกว่าไม่ได้ต้องการอะไร เราเต็มใจทำ อยากช่วย แต่ผู้ป่วยก็อยากตอบแทนที่เราช่วยเหลือเขาอย่างเต็มที่

          หรืออย่างกรณี ผู้ป่วยหญิงคนหนึ่งนั่งญาติที่กำลังไปซื้อยา อยู่หน้าตึกฉุกเฉิน เขาลุกขึ้นก็เซจะเป็นลม เราเข้าไปช่วยจึงรู้ว่าเป็นเบาหวาน มาตรวจตั้งแต่เช้าและหิวข้าวมาก เลยบอกให้นั่งรอแล้วรีบวิ่งไปซื้ออาหารมาให้เขากิน เมื่อญาติเขากลับมาก็มีปัญหาเรื่องยา เขาเป็นข้าราชการสายตรงแต่ว่าเพิ่งทำบัตรชื่อยังไม่เข้าระบบ จึงยังไม่ได้สิทธิ จึงพาไปติดต่อการเงินให้คุยกับหัวหน้าการเงิน แล้ววันนั้นเขาก็รับยาได้ เขาดีใจมาก

           วิไลรัตน์ บอกว่า Blue Angel ทุกคน ถ้าใจไม่รักจริง ๆ ทำได้ยาก เพราะบางครั้งต้องรองรับอารมณ์ผู้ป่วยหรือญาติซึ่งอาจอารมณ์เสียมาจากแผนกอื่น เราต้องอดทนพยายามฟังเขา เปิดโอกาสให้เขาได้พูดในสิ่งที่เขาอึดอัด รับฟังเขาโดยไม่มีการโต้ตอบ Blue Angel ทุกคนไม่มีคำว่าไม่รู้ ต้องหาคำตอบให้ “คนไข้” ให้ได้

 

           นายณรงค์ กองปัญญา เจ้าหน้าที่จากส่วนงานบริหารทรัพยากรสุขภาพ สำนักงานคณบดี อีกหนึ่ง Blue Angel ยืนยันเช่นกันว่า Blue Angel ไม่ใช่งานประจำ คนที่มาทำคือคนที่จิตอาสาจะมาช่วยบริการคนไข้ ทุกคนจะทำด้วยความมุ่งมั่น ด้วยความตั้งใจ มีจิตใจ อารมณ์ดี เอาใจเขามาใส่ใจเรา คนที่จะมาอยู่จุดนี้จะต้องมีการคัดกรองคนที่มีจิตใจมุ่งมั่นจริง ๆ มาทำ เพราะจิตใจจะบ่งบอกมาเป็นการกระทำ เมื่อตั้งใจบริการการกระทำก็จะออกมาโดยไม่เสแสร้ง คนไข้เขาก็รับรู้ได้ว่าตั้งใจช่วยจริง ๆ การที่ทุกคนกระฉับกระเฉง ยิ้มแย้มในการให้บริการ เพราะเป็นการทำโดยออกมาจากใจ ทำโดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย ให้เขาทำ 2 ชม.เขาก็ทำ 3 ชม.หรือจนกว่าคนไข้หมด

            “Blue Angel เขาจะมีความภาคภูมิใจในตัวเองในการกระทำ ว่าได้กระทำความดีลงไปเพื่อคนไข้ และคนไข้สนองตอบเขาก็ดีใจเป็นความภาคภูมิใจ และทำอย่างทุ่มเท Blue Angel ไม่ได้ทำได้ทุกคน ทำได้เป็นบางคนเท่านั้น ต้องเป็นคนที่มีใจรักจริง ๆ อย่างตนเองทำงานมา 15 ปี ทำ Blue Angel มา 3 ปี เวียนไปทุกจุดบริการ ความประทับใจในการทำงานคือการได้ช่วยเหลือคนไข้ ถ้าใครได้ช่วยเหลือคนไข้ จะรู้ว่าการพูดด้วยวาจาที่เป็นมิตร เอื้ออาทร ตั้งใจจะช่วย ความป่วยของเขาก็แทบจะหายไปแล้วครึ่งหนึ่งแล้ว”

          

 

สุธาทิพย์ ศิริวรรณ์ เจ้าหน้าที่ธุรการ วัย 41 ปี และเป็น Blue Angel รุ่นบุกเบิก บอกว่า การได้มาเจอคนไข้เยอะ ๆ ทำให้รู้สึกว่าคนไข้น่ารักโดยเฉพาะคนแก่ ๆ ที่มาจากต่างจังหวัด เขาประทับใจเราและเราก็ประทับใจเขา บางคนเห็นชุดสีฟ้าก็ตรงมาถามเลยเพราะรู้ว่าช่วยเขาได้ หรือบางทีไม่ได้อยู่ในชุด Blue Angel ผู้ป่วยจำได้ก็เข้ามาทักทายเราก็พร้อมให้บริการจนติดเป็นนิสัย กว่า 3 ปีที่มาทำหน้าที่ตรงนี้รู้สึกภูมิใจตัวเองมาก จากเมื่อก่อนเคยเป็นคนใจร้อนมาก พอมาอยู่ด้านนี้ทำให้ใจเย็นขึ้นและรักคนรอบข้างมากขึ้น พร้อมจะช่วยเหลือเขา คุยกับพยาบาลว่าทำงานด้านนี้ต้องยิ้มต้องพร้อมจะให้บริการเขา ช่วยแนะนำรุ่นน้องที่เข้ามาใหม่ ๆ ว่างานให้บริการต้องวิ่งไปหาคนไข้อย่าให้คนไข้วิ่งหา บางคนพอเหนื่อยก็ไม่ค่อยใส่ใจ เรามีคัดออกไปบ้างมีแต่น้อยมาก ประสบการณ์มางานนี้เมื่อไปเล่าให้ครอบครัวและคนแถวบ้านฟัง เขาก็ประทับใจเอาไปคุยต่อว่าที่นี่ดีที่มีชุดสีฟ้าคอยอำนวยความสะดวก(อ่านต่อบันทึกหน้า)

 บทความเผยแพร่โดย งานสื่อสารสาธารณะ แผนงานพัฒนาจิตเพื่อสุขภาพ มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์

หมายเลขบันทึก: 105958เขียนเมื่อ 24 มิถุนายน 2007 18:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:10 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

สมัยที่ยังไม่ใช่คนของโรงพยาบาล  จำได้ว่าเวลาเดินเข้าโรงพยาบาล วินาทีแรกคืองง  ไม่รู้จะไปทางไหน  ถึงรู้ภาษาไทยก็ไม่มีอารมณ์อ่านป้าย   อยากร้องไห้และอยากตายมากกว่าไปยืนเข้าแถวรอคิว 

ในวินาทีนั้นถ้ามีใครสักคนเข้ามาช่วยบอกทาง  บอกวิธี  เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้มีกำลังใจทำบัตร  รอคิวต่อครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท