Road Show ที่จังหวัดหนองคาย


Road Show ที่จังหวัดหนองคาย

เนื่องจากผู้เขียนถูกแซวว่าให้เขียนออกนอกกรอบซะบ้าง....ไม่ต้องเน้นวิชาการ...บังเอิญสัปดาห์นี้ผู้เขียนมีโอกาสไปที่จ.หนองคาย เลยได้หัวข้อที่จะมาเล่าสู่กันฟังสบายๆเกี่ยวกับประสบการณ์ครั้งหนึ่งที่ได้ไปที่ จ.หนองคายเพื่อเป็นการแบ่งปันความรู้แต่ขอออกตัวก่อนว่าคงไม่ใช่นำมะพร้าวมาขายสวนนะคะ ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยก่อนคะ
- วันที่ 22 มิถุนายน 2550 ผู้เขียนได้เดินทางไปที่จ.หนองคาย กับผศ.ดุษฎี ซึ่งเป็นรองคณบดีฝ่ายวิชาการ  โดยผู้เขียนต้องเป็นวิทยากรบรรยายเกี่ยวกับหลักสูตรบัญชีบัณฑิต e-Learnning ของคณะบัญชี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย  โดยขึ้นเครื่องบินของการบินไทยเที่ยวบินเวลา 18.00 น. ถึงสนามบินอุดรธานีเวลา19.00 น. จากนั้นก็จะมีรถตู้ของบริษัทที่รับจัด Road show มารับและไปถึงจ.หนองคาย  เวลาประมาณ 20.20 น. จากนั้นได้พักที่โรงแรมรอยัล โขง หนองคาย ซึ่งที่โรงแรมนี้จะมองเห็นแม่น้ำโขง บรรยากาศเงียบสงบดีเพราะแขกที่มาพักส่วนใหญ่จะเป็นคนไทยและเป็นกลุ่มที่มาสัมมนา..ห้องพักก็ราคาพอได้ค่ะ...เวลาประมาณ 21.00 น. ก็ไปรับประทานอาหารเย็นที่ร้านแพ 12 ราศรีซึ่งเป็นแพร้านอาหารอยู่ริมแม่นำโขง..ทำให้มองเห็นฝั่งประเทศลาว..เงียบสงบดี..ดูๆไปเหมือนนั่งรับประทานอาหารริมฝั่งแม่นำเจ้าพระยา..อาหารรสชาติอร่อย แซบหลายค่ะ....ร้านอาหารอยู่ภายในบริเวณวัดแต่จำชื่อไม่ได้ว่าชื่อวัดอะไร..กลับถึงที่พักประมาณ 22.30 น.ก็นิทราราตรีสวัสดีเวลา 24.00น.ค่ะ
- วันที่ 23 มิถุนายน 2550 ผู้เขียนและผศ.ดุษฎี ตื่นแต่เช้าเพื่อต้องการไปเก็บภาพบริเวณรอบๆโรงแรมที่พักซึ่งติดกับแม่นำโขง...เดินไปก็สดุดกับป้ายที่เขียนว่า ต้นไม้กลายเป็นหิน และก็มีก้อนหินสีนำตาลเหมือนตอต้นไม้ใหญ่..จากนั้นก็รับประทานอาหารเช้า...และเตรียมCheck out ออกจากโรงแรมเพื่อเตรียมเดินทางไป อบจ.จ.หนองคาย และไปถึงห้องประชุมที่ อบจ.หนองคาย เวลา 9.30 น.ซึ่งมีผู้เข้าร่วมฟังบรรยายค่อยๆทยอยมาเรื่อยๆ จนถึงเวลา 10.00 -12.00 น. จึงเสร็จสิ้นการบรรยาย..จากนั้นจึงต้องเดินทางกลับกรุงเทพในวันนี้เพื่อให้ทันขึ้นเครื่องบินเที่ยวบินเวลา 15.00 น. ก่อนเดินทางมาสนามบินได้แวะซื้อของก่อนโดยผู้เขียนสอบถามคนขับรถซึ่งเป็นคนจ.หนองคาย ได้แนะนำว่าของฝากของจ.หนองคาย ได้แก่ แหนมเนือง (ร้านแดง)  หมูยอ (ป้าถ้วน) และแวะดูและซื้อของที่ ท่าเสด็จ ซึ่งเป็นพวกเครื่องจักรสาน  ผ้าทอ และเครื่องเงิน จากประเทศลาว จากนั้นจึงแวะมนัสการหลวงพ่อพระใสที่วัดโพธิ์ชัย จ.หนองคาย และเวลา 13.00 น.จึงออกเดินทางจากจ.หนองคาย มาถึงสนามบินอุดรธานีเวลา 14.10 น. ก็เตรียมขึ้นเครื่องบินกลับมาถึงสนามบินดอนเมืองในเวลา 16.00 น.ซึ่งที่กรุงเทพฝนตกมากค่ะ ผิดกับที่จ.หนองคายซึ่งร้อนมาก
จากการเดินทางในครั้งนี้จึงได้เรียนรู้เกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่  การศึกษา  ธุรกิจและของฝากจังหวัดหนองคาย...จึงเขียนมาเล่าสู่กันฟังค่ะ...


หลวงพ่อพระใส เป็นพระพุทธรูปขัดสมาธิราบ ปางมารวิชัย หล่อด้วยทองสีสุก มีพระรูปลักษณะงดงามมาก ขนาดหน้าตักกว้าง 2 คืบ 8 นิ้ว ส่วนสูงจากองค์พระเบื้องล่างถึงยอดพระเกศ 4 คืบ 1 นิ้ว ประดิษฐานอยู่ที่วัดโพธิ์ชัย ซึ่งเป็นพระอารามหลวง ตั้งอยู่ที่ถนนโพธิ์ชัย ในเขตเทศบาลเมือง เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ชาวเมืองหนองคายนับถือมาก มีประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของชาติไทยหลายตอน เสด็จในกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงสันนิษฐานไว้ในหนังสือประวัติพระพุทธรูปสำคัญซึ่งพิมพ์แจกในงานทอดกฐินพระราชทาน พ.ศ. 2468 ว่า หลวงพ่อพระใส เป็นพระพุทธรูปหล่อในประเทศล้านช้าง และตามตำนานที่เล่าสืบต่อกันมาว่า พระธิดา 3 องค์ แห่งกษัตริย์ล้านช้างเป็นผู้สร้าง บางท่านก็ว่าเป็นพระราชธิดาของพระไชยเชษฐาธิราช ได้หล่อพระพุทธรูปขึ้น 3 องค์ และขนานนามพระพุทธรูปตามนามของตนเองไว้ด้วยว่า พระเสริมประจำพี่ใหญ่ พระสุกประจำคนกลาง พระใสประจำน้องสุดท้อง มีขนาดลดหลั่นกันตามลำดับ....พ.ศ. 2321 พระเจ้าธรรมเทววงศ์ได้อัญเชิญไปไว้ ณ เวียงจันทน์ และในสมัยรัชกาลที่ 3 ได้อัญเชิญมาฝั่งไทย แต่เกิดพายุ พระสุกจมน้ำอยู่ที่ปากงึ่ม (เวินพระสุก) ส่วนพระเสริมและพระใส ประดิษฐานไว้ที่วัดโพธิ์ชัยและวัดหอกล่อง ต่อมาในรัชกาลที่ 4 ได้อัญเชิญพระเสริมลงมาประดิษฐานที่กรุงเทพฯ ส่วนพระใสประดิษฐานอยู่ที่วัดโพธิ์ชัย จังหวัดหนองคาย ทุกปีในวันเพ็ญกลางเดือน 7 ชาวเมืองหนองคายจะมีงานประเพณีบุญบั้งไฟบูชาพระใสที่วัดโพธิ์ชัยเป็นประจำ


ตลาดท่าเสด็จหรือตลาดอินโดจีน อยู่ในเขตเทศบาลเมือง เป็นท่าเรือโดยสารข้ามแม่น้ำโขงไปยังฝั่งลาว มีด่านตรวจคนเข้าเมืองและร้านค้าจำหน่ายสินค้าจากนานาประเทศที่ส่งผ่านเข้ามาจากฝั่งลาว สินค้าที่จำหน่ายได้แก่ เครื่องไม้ฝังมุก เครื่องไฟฟ้า นาฬิกา อาหาร ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีบริษัททัวร์ที่รับจ้างทำใบผ่านแดนและนำเที่ยวประเทศลาวอีกด้วย
ที่มา :http://www.thai-tour.com


หนมเนือง

คำสำคัญ (Tags): #road show
หมายเลขบันทึก: 105776เขียนเมื่อ 24 มิถุนายน 2007 00:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 พฤษภาคม 2012 05:27 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

สวัสดีค่ะ

คอยอ่านเรื่องของอาจารย์อยู่ค่ะ

ต้นไม้กลายเป็นหิน

ต้นไม้กลายเป็นหิน ต้องเป็นต้นไม้ที่อายุมากๆจริงๆ เคยไปเที่ยวที่Red Woodมีมากมาย และเขาเอาไม้เหล่านี้มาทำเป็นของใช้ เช่นที่เขี่ยบุหรี่ด้วยค่ะ

จะเข้ามาอ่านบ่อยๆนะคะ

ขอบคุณทุกท่านมากค่ะ..ทีแวะมาทักทายและเยี่ยมชม Onruedee's blog ....ยินดีแบ่งปันความรู้ค่ะ

  • ชอบจังเลยครับ
  • ยังไม่มีโอกาสได้ไปครับอาจารย์
  • คาดว่าไม่นานคงได้ไปที่หนองคาย
  • มีที่เที่ยวหายที่เลยนะครับ
  • พี่อร อ่านแล้วเห็นภาพเลยค่ะ  โดยเฉพาะตรงที่บอกว่า "แซ่บหลาย " เนี่ยแหละ
  • ปี่ไปคุมสอบคราวที่แล้ว ไม่ได้ไปไหนเลยค่ะ อยู่แต่ในอุดร อยากไปหนองคายจังเลย

น้องปี่...ถ้ามีผู้สนใจเรียนที่หนองคายและคณะอนุมัติให้เปิดศูนย์ที่หอการค้าหนองคายได้...พี่จะให้ปี่ประสานงานการสอบนำร่องเป็นคนแรกค่ะ.....

สวัสดีค่ะ อาจารย์

  • ยินดีต้อนรับสู่หนองคายค่ะ หวังว่าคงชอบหนองคายนะคะ
  • หนองคายเป็นจังหวัดเล็กๆค่ะ แต่เต็มไปด้วยผู้คนที่มีน้ำใจค่ะ
ดีใจจัง วันนี้พี่อรมาอยู่แถว ๆ กรอบแล้ว เหลือแต่จะโดดออกมาแบบกระชากวัยมัย  ครั้งหน้าให้ใช้ชื่อเล่น อย่างเดียวนะ  ห้ามใช้ผู้เขียน เพราะว่าผิด จริง ๆ ต้องบอกว่าผู้พิมพ์ตากหาก  เรื่องนี้ต้องให้ อ.ขจิตมา แสดงความคิดเห็นว่าถูกต้องอะเป่า....
  • เหมือนใครบ่นถึงเลยรีบมาฮ่าๆๆ
  • ถ้าใช้ชื่อเล่น
  • น่าจะกระชากวัยมากกว่าใช่ไหมครับ
  • ไม่เชื่อถามป้าแดงข้างบนนะครับ
  • ฮ่าๆๆๆๆ
  • ขอบคุณค่ะ พี่อร ที่คิดถึงปี่
  • แต่ว่าคุมสอบรอบนี้ ขอตัวน่ะค่ะ เพราะว่าต้องทำงานแทนผู้มีพระคุณ (คุณพ่อ) สัญญากับท่านไว้นานแล้ว เดี๋ยวมีโกรธ ปี่จะขอเอ้ย ผิด ยืมตังค์ท่านไม่ได้

 

  • ขอบคุณแม่น้องปลื้มกับเปรมที่แวะมาทักทายค่ะ
  • เราว่าใช้นามผู้เขียนดูเป็นกลางๆดีเพราะถ้าใช้พื่อร..เราออกจะเขินๆนะ..เดี๋ยวจะกระชากวัยเป็นวัยรุ่นไปนะคะ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท