ถนนสุขภาพ
การรับน้องใหม่ของสถาบันศึกษาในทุกๆปีการศึกษา เป็นที่จับตามองของคนวงนอก ในอดีตและปัจจุบันที่ผ่านมามีการสูญเสีย เมื่อมีการเฝ้ามองของสังคม ที่กำลังสอบถามนักศึกษาว่า “กำลังทำอะไร...กันอยู่....อยู่ในวิสัยของควรกระทำหรือไม่ หรือเป็นวัฒนธรรมที่เป็นที่รู้กันภายในระหว่างนักศึกษากับผู้บริหาร โดยขาดการเอาใจใส่” จนเกิดอุบัติเหตุถึงขั้นสูญเสียทรัพยากร .....และมีคำสรุปว่า “เสียใจ”
ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่เป็นเรื่องที่ต้องทบทวนภาระกิจของนักศึกษา คือ การศึกษา โดย มีกิจกรรมเป็นตัวเสริมทำให้นักศึกษาพัฒนาเป็นบัณฑิตที่พึงประสงค์ ดังนั้น จุดขายแต่ละสถาบันจึงต่างกัน ทำไมคนนั้นอยากเป็นลูกพระเกี้ยว คนนี้อยากเป็นลูกแม่โดม ฯลฯ ซึ่งที่ผ่านมาพี่ๆนักศึกษาต่างลืมเรื่อ ง”สุขภาพดีถ้วนหน้า”
การมีสุขภาพดีเป็นตัวชี้วัดถึงมีคุณภาพที่ดี ไม่ต้องไปรักษาพยาบาล และแสดงว่า บุคคลผู้นั้นมีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง ไม่เจ็บไม่ป่วยไม่ไข้ สุดท้ายไม่เสียสตางค์ นักศึกษาก็เช่นกันต้องมีสมรรถภาพทางกายที่สมบูรณ์แข็งแรง แต่ถ้าปลุกหอกันดึกๆทุกคืนก็พัง เพราะการพักผ่อนของน้องๆนักศึกษาไม่มี ก็เปรียบเหมือนรถยนต์ที่วิ่งตลอดเวลาไม่มีการพักก็พัง
การมีสุขภาพดีถ้วนหน้าเป็นเรื่องของตัวบุคคล ซึ่งสมรรถภาพในตัวบุคคลต้องประกอบด้วย
1.สมรรถภาพทางอารมณ์ (EMOTION FITNESS) อาจรวมถึงความรู้สึกด้านสังคมและสวัสดิภาพ ด้านเศรษฐกิจ ความพึงพอใจในตนเอง ลักษณะสมรรถภาพด้านอามรมณ์ ได้รับความช่วยเหลือจากสมรรถภาพทางกาย เมื่อสมรรถภาพทางกายไม่สมบูรณ์ด้านอารมรณ์ ก็จะได้รับการกระทบกระเทินไปด้วยทำให้อารมณ์แปรปรวน
2. สมรรถภาพด้านสมอง (MENTRAL FITNESS) สมองจะคิดดีทำดีได้ต้องมีรากฐานนำไปสู่รูปแบบของการกระทำในสังคม สามารถใช้ความรู้ทักษะด้านต่างๆได้อย่างเหมาะสมและพึงพอใจ มีศีลธรรม สามารถฟังและสังเกตุนำมาพัฒนาหรือประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ ความสามารถด้านสมองจะช่วยทำให้เกิดสวัสดิภาพในสังคมและสังคมจะไม่วุ่นวายเช่น ป
3. สมรรถภาพทางสังคม (SOCIAL FITNESS) บุคคลที่มีสมรรถภาพทางสังคมดี สามารถปรับตัวให้เข้ากับสังคมในสภาพต่างๆ ฉะนั้นบุคคลจึงมีความจำเป็นต้องเรียนรู้พฤติกรรมที่ดีของสังคม สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ รู้คุณค่าของสิ่งที่ดี มีความอดทนต่อปัญหารักความยุติธรรม
4. สมรรถภาพทางกาย(PHYSICAL FITNESS)
สมรรถภาพทางกาย(PHYSICAL FITNESS) สามารถช่วยประกอบการกิจและดำรงชืวิตอย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุข เพราะคนเราจะมีสมรรถภาพทางกายสูงนั้น สามารถทำงานหนักๆได้นานและมีประสิทธิภาพดีกว่าคนที่มีสมรรถภาพทางกายต่ำ และคงจะทราบกันดีแล้วว่า การมีกล้ามเนื้อหลังที่อ่อนแอก็จะให้เกิดการปวดหลังอยู่เสมอๆ และการที่มีสมรรถภาพทางกายสูงจะช่วยให้อาการเหล่านี้หายไป นอกจากนี้ยังทำให้เป็นผู้ที่มีบุคลิกดี ความรู้สึกที่มีตนต่อเองหรือบุคคลที่มีต่อตัวเราดีขึ้นด้วย การออกำลังกายอยู่เวมอๆยังช่วยให้มีสุขภาพดี ได้แก่
1. ช่วยให้บุคคลมีสุขภาพทางกายและทางจิตดี
2. ช่วยให้มีความเชื่อมั่นในตนเอง
3. ช่วยให้มีอารมณ์สุขุมรอบคอบ
4. ช่วยให้มีสติปัญญาดี
5. ช่วยให้มีความคิดริเริ่มสร้าวสรรค์
6. ช่วยในการปรกอบอาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ
7. ช่วยส่งเสริมความสมบูรณ์ในครอบครัว
8. ช่วยให้ประเทศชาติมีคุณภาพที่ดี่
ลักษณะของผู้มีสมรรถภาพทางกายดีเป็นอย่างไร ?
1. ต้องมีความแข็งแรงและทนทานในการปฏิบัติงาน หรือประกอบกิจกรรมประจำวันให้ลุล่วงไปโดยสะดวก โดยที่ร่างกายไม่เกิดความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าและอ่อนเพลียเกินไป
2. สามารเผชิญกับเหตุการณเฉพาะหน้าต่างๆโดยสามารถควบคุมดูแลได้อย่างดี และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
3. มีความคล่องแคล่วว่องไวในการเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างรวดเร็วและได้ผลแน่นอนในการประกอบกิจกรรม
4. อวัยวะต่างๆมีความยืดหยุ่นได้และอ่อนตัวได้อย่างเพียงพอ
5. ร่างกายมีทักษะในการเคลื่อนไหวเบื้องต้นได้อย่างดี
6. มีทรวดทรงที่ดี
ถนนสุขภาพ..........จะนำไปสู่การมีสุขภาพดีถ้วนหน้า โดยเฉพาะกิจกรรมน้องใหม่ สามารประพฤติปฏิบัติ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมวัฒนธรรมให้สอดคล้องกับถนนสุขภาพ เช่น ให้น้องใหม่พักผ่อนอย่าเพียงพอ จัดทดสอบสมรรถภาพทางกายเพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐาน จัดเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพ จัดกิจกรรมเช้านี้สดใส..หัวใจเบิกบาน ด้วยการให้น้องใหม่ตื่นเช้าออกกำลังกายทุกเช้าเป็นระยะเวลา 1 เดือน ดีกว่าทำกิจกรรมในเวลาพักผ่อนจนพลาด
มาเถอะมาออกกำลังกายมาสร้างถนนมุ่งสู่สุขภาพดี ถ้วนหน้า ดีกว่าไปทำอะไรที่ไร้สาระ เพราะว่าคนเราต้องคิดใหม่ทำใหม่ อย่าทำเลยแบบเดิมๆมีแต่เสียกับเสีย
ความเห็น (5)
สวัสดีพี่ชำนาญ และท่านผู้อ่านทุกท่าน
ขอร่วมแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับการปฏิบัติตนของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยในปัจจุบัน ซึ่งจะพบว่าส่วนใหญ่ นักศึกษาชายที่เรียน จะแต่งกายไม่ถูกระเบียบ นักศึกษาหญิง จะแต่งกายรัดรูป นุ่งสั้น ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า เขาเหล่านั้นไปได้แนวคิดการแต่งกายแบบนี้มาจากไหน ทั้งๆที่ ท่านอาจารย์ทุกท่าน ก็เน้นยำ ให้แต่งกายสุภาพอย่างสม่ำเสมอ แต่เขาเหล่านั้นก็ปฏิเสธความปรารถนาดีของอาจารย์
เราทุกคนจึงต้องช่วยกัน ร่วมคิด ร่วมสร้าง บอกกล่าวนักศึกษา ให้ช่วยกันแต่งกายที่สุภาพ สมกับเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัย และควรจัดโครงการพัฒนาบุคลิกภาพ อย่างสมำเสมอ และทุกมหาวิทยาลัย
สมบัติ บุญเลี้ยง
สุวิมล บุญจันทร์
เห็นด้วยกับความคิดเห็นของคุณสมบัติ บุญเลี้ยง และขณะนี้มหาวิทยาลัยก็ได้เล็งเห็นความสำคัญในการสร้างจิตสำนึกให้แก่นักศึกษาในการแต่งกายให้ถูกระเบียบ เพราะเป็นสิ่งหนึ่งที่จะแสดงให้เห็นถึงคุณค่าของความเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น อีกทั้งมหาวิทยาลัยก็ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานดำเนินการด้านการแต่งกายของนักศึกษาเพื่อพิจารณาและเสนอความเห็นต่อมหาวิทยาลัย ในการวางมาตรการและรณรงค์ให้นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่นแต่งกายให้ถูกต้องตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัยที่มีอยู่
ทั้งนี้จะสำเร็จได้ก็ต้องมาจากความร่วมมือของทุกฝ่ายที่จะช่วยกันสร้างจิตสำนึกให้แก่นักศึกษา
ครู นางเลิ้ง
อยากให้ทุกฝ่ายทบทวนดูให้ดี ระเบียบวินัยการเป็นนักศึกษาว่าด้วยการแต่งกายของทุกสถาบันมีมานานแล้ว เพียงแต่ว่าไม่ได้มีการนำมาใช้อย่างจริงจัง ไม่มีใครตักเตือนนักศึกษา ไม่มีครูอาจารย์คนใดออกมาบอกว่า "นักศึกษาคนใดแต่งกายไม่ถูกระเบียบห้ามเข้าชั้นเรียน และห้องสอบ"
ข้าราชการครูบาอาจารย์ละเลยหน้าที่ความเป็นครู ปล่อยให้นักศึกษาแต่งกายตามสบาย จนกลายเป็นเครื่องแบบ(โดยนำเครื่องแบบของโสเภณี มาใช้เป็นชุดนักศึกษา)
พอมา ณ ปัจจุบัน จะทำอย่างนั้นอย่างนี้ก็กลายเป็นปัญหา ทำไมไม่ทำอะไรให้ชัดเจน สถานศึกษาได้ชื่อว่าเป็นแหล่งปัญญาชน แต่กลับปล่อยให้เป็นแหล่งเสื่อมโทรมทางวัฒนธรรม มันเป็นเรื่องน่าเศร้าใจ
หากทุกสถานศึกษา จะกลับมาใช้ระเบียบการแต่งกาย และช่วยกันดูแลตักเตือนอย่างจริงจัง อย่างไรก็มีผลดี และสามารถแก้ไขได้แต่ต้องใช้เวลาสักนิด
สุดท้ายอยากฝาก ผู้ปกครองช่วยกันกำกับดูแล ก่อนลูกจะออกจากบ้านต้องถามว่าจะแต่งกายไปเรียน หรือไปสถานที่ท่องเที่ยว หากนักศึกษาอยู่หอพัก ก็ต้องจัดเจ้าหน้าที่ตรวจเช็คจริงๆจังๆ คะแนนความประพฤติมีหากใครไม่ร่วมมือก็หมดสิทธิ์อยู่หอพัก ด่านสุดท้ายก็คือ เมื่อเข้าห้อเงเรียนห้องสอบ หรือติดตอที่หน่วยงานไหน หากทุกคนช่วยกันตักเตือนนักศึกษา ก็คงต้องแก้ไขปรับตัวให้เข้าระเบียวินัย
ปัญหาเรื่องการแต่งกายของนักศึกษาก็จะหมดไป อยากเห็นมหาวิทยาลัยฯหรือสถานศึกษาที่ปลอดแฟชั่น
"เด็กวันนี้ คือ ผู้ใหญ่ในวันหน้า"
สวัสดีครับพี่ชำนาญ และท่านผู้อ่านทุกท่าน
บุคลิกภาพเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับบุคคล โดยเฉพาะนักศึกษามหาวิทยาลัยฯ โดยเน้นการแต่งกายไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระโปรง กางเกง โดยเฉพาะ กางเกงยีน นักศึกษาชอบใส่กัน ใส่แล้ว ก็ไม่รู้สึกเลยนะ ว่ามันเท่ห์ตรงไหน
แต่ที่ดูไม่ได้ กลับเป็นทรงผม โดยเฉพาะ ทรงดารา อย่างเช่น ทรงผมของน้อง FLIM รัฐภูมิ นักศึกษาในมหาวิทยาลัย ชอบทรงนี้มากที่สุด มันดูพอได้ แต่มันยาวมาก คนที่ไม่สระผม เวลาเข้าห้องเรียน พี่รู้ไม๊ มันเหม็นมาก เหม็นจริงๆ แต่เขาเหล่านั้นก็ชอบมัน เพราะมันเป็นทรง FLIM รัฐบาลเผด็จการ (ขอโทษที เลยไปถึงการเมืองจนได้)
ขอให้พี่ชำนาญ จงมีสุขภาพดี วิ่งทุกเช้านะพี่ ร่างกายจะได้แข็งแรง
สมบัติ บุญเลี้ยง
ชำนาญ บัวทวน
เราพูดถึงคำว่า “บุคลิกภาพ” (personality) อาจจะยังมีแนวทางเข้าใจที่ไม่เหมือนกัน เพราะเราอาจจะเข้าใจว่า เป็นลักษณะเฉพาะของบุคคลที่บ่งบอกความแตกต่างระหว่างบุคคล ในที่นี้จึงขอนำคำนิยามของ Guru แต่ละท่านมาให้ท่านได้ทราบต่อไปนี้
เออร์เนส อาร์.ฮิลการ์ด(Hilgard1962:447)
กล่าวว่า บุคลิกภาพ เป็นลักษณะส่วนรวมของบุคคล และการแสดงออกของพฤติกรรม ซึ่งชี้ให้เห็นความเป็น ปัจเจกบุคคล ในการปรับตัวต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงลักษณะที่ส่งผลสู่การติดต่อสัมพันธ์กับผู้อื่น ได้แก่ ความรู้สึกนับถือตนเอง ความสามารถ แรงจูงใจ ปฏิกิริยาในการเกิดอารมณ์ และลักษณะนิสัยที่สะสมจากประสบการณ์ชีวิต
ฟิลลิป จี.ซิมบาร์โด และฟลอยด์ แอล.รูช (Zimbardo and Ruch 1980:292) อธิบายว่า บุคลิกภาพ เป็นผลรวมของลักษณะ เชิงจิตวิทยาของบุคคลแต่ละคน มีผลต่อการแสดงออกซึ่งพฤติกรรมหลากหลายของบุคคลนั้น ทั้งส่วนที่เป็นลักษณะภายนอก ที่สังเกตได้ง่ายและพฤติกรรมภายในที่สังเกตได้ยาก ลักษณะที่หลากหลายดังกล่าว ส่งผลให้บุคคลแสดงออก ต่างกันใน แต่ละสถานการณ์และช่วงเวลา
ริชาร์ด ซี.บุทซิน และคณะ (Bootzin and others 1991:502) ให้ความหมายว่า บุคลิกภาพ เป็นลักษณะนิสัยและรูปแบบของความคิด ความรู้สึก และการประพฤติปฏิบัติของบุคคลแต่ละคน
เราทราบแนวทางแล้วสามารถบอกได้ไหมว่า "บุคลิกภาพ" ของนักศึกาเราควรเป็นอย่างไร? จะเป็น 5 ยง(ผมยาว รองเท้ายาง เสื้อยืด กางเกงยีนส์ สะพายย่าม) หรือไม่?
ชนบท คนบ้านนอก(แต่การมีศึกษา)
26 ก.ค. 2550