KM ในโรงเรียน : ทำได้ถ้าใจศรัทธา


การทำ KM ในโรงเรียน เริ่มต้นด้วยความศรัทธา

วันนี ( 20 มิ.ย.2550) เวลา 14.30 - 15.30 น. ได้จัดประชุมคณะครูเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ที่สำเร็จของแต่ละคนในการจัดการเรียนการสอน

 ก่อนเริมประชุม ได้ชี้แจงให้เห็นความสำคัญของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ หลังจากนั้นจึงได้ชี้แจงแนวดำเนินการ โดยขั้นแรกได้คัดเลือกคุณอำนวยในที่ประชุม 1 คน โดยเลือกจากผู้อาสุโสตามขนบธรรมเนียมไทย 

 หลังจากนั้นจึงได้ชี้แจงบทบาทหน้าที่ของคุณอำนวย ว่ามีบทบาท 3 อย่างที่สำคัญ คือ หน้าที่แรก เป็นผู้อำนวยการประชุม หน้าที่ที่สองเป็นผู้จดบันทึกเรื่องเล่า หน้าที่สาม เป็นผู้หลอมรวมความคิดองค์ความรู้ที่ได้  ส่วนสมาชิกมี 2 บทบาทคือ บทบาทแรก เป็นผู้เล่าเรื่อง บทบาทที่สองเป็นผู้ฟังผู้อื่นและสรุปองค์ความรู้ที่ได้

เมื่อชี้แจงพอเข้าใจหลังจากนั้นจึงเริ่มดำเนินการ ขณะที่เริ่มดำเนินการผมเองไม่แน่ใจว่าผลจะออกมาแบบใหน จะสำเร็จหรือล้มเหลว ก็ไม่ทราบ แต่พอดำเนินการจริง  ผลที่ออกมา เป็นเรื่องที่เกินความคาดหมายครับ ผลออกมาดีมากๆ แต่ละท่านได้ถ่ายทอดความรู้ความประทับใจที่มีอยู่ให้ที่ประชุมรับทราบด้วยความภาคภูมิใจ ด้วยความเต็มใจ และ ด้วยความจริงใจ ด้วยน้ำเสียงและแววตาที่มุ่งมั่น

ผมขอยกตัวอย่างมาสัก 1 ตัวอย่างนะครับ ตัวอย่างนี้ผมประทับใจมาก คือ มีคุณครูท่านหนึ่งบอกว่าเมื่อก่อนตนเองเป็นคนใจร้อนและคาดหวังเด็กไว้สูง มอบงานอะไรไป เด็กต้องทำได้  แต่ปัจจุบัน มาคิดว่าที่ตัวเองทำไปนั้นไม่ถูกต้อง เพราะวันหนึ่งเห็นเด็กไฟไหม้ที่ผม เด็กบอกว่าจุดตะเกียงทำการบ้าน ก้มมากเลยไฟไหม จุดนี้เป็นจุดสะเทือนใจ เลยลองมาศึกษาสภาพเด็กแต่ละคน พบว่าแต่ละคน แต่ละครอบครัว มีปัญหา ไม่มีความพร้อม  หลังจากนั้น จึงเปลี่ยนความคิด โดยสอนเด็กตามสภาพความพร้อมแต่ละคน  เด็กพร้อมแค่ใหนก็สอนแค่นั้น  หลังจากนั้น เด็กก็เริ่มมีความสุข ครูก็มีความสุข..

..เมื่อจบเรื่องเล่า ครูทุกคนก็ช่วยกันสรุปเสริมเติมเต็มด้วยความสุขในการให้ครับ  หลังจากนั้นครูแต่ละท่านก็มีความกระตือรือร้นที่จะมาเล่าเรือ่งที่สำเร็จของตัวเองด้วยความภาคภูมิใจครับ..

.ผมมีความคิดว่า KM ก็ไม่น่าจะใช่เรื่องที่ยากเลยนะครับ แต่ทั้งนี้ ผมก็ต้องขอออกตัวก่อนนะครับ ว่าที่ผมทำมาไม่แน่ใจว่าถูกหรือไม่

หมายเลขบันทึก: 105002เขียนเมื่อ 20 มิถุนายน 2007 22:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 11:28 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

 

สวัสดีค่ะ

P

ส่วนสมาชิกมี 2 บทบาทคือ บทบาทแรก เป็นผู้เล่าเรื่อง บทบาทที่สองเป็นผู้ฟังผู้อื่นและสรุปองค์ความรู้ที่ได้ เมื่อชี้แจงพอเข้าใจหลังจากนั้นจึงเริ่มดำเนินการ

อ่านจบแล้ว ดีมากๆค่ะ ขอชื่นชมค่ะ

ขอขอบคุณ คุณ sasinanda เป็นอย่างสูงครับ ที่กรุณาให้กำลังใจ ผมคงจะทำครั้งต่อไปในอีก 1 เดือนข้างหน้าครับ ได้ผลอย่างไรก็จะนำมาเล่าให้ฟังครับ

สวัสดีค่ะคุณ..small man

เป็นวิธีการที่ดีมากค่ะ..ครูอ้อยจะนำไปใช้บ้างนะคะ  แล้วจะนำมาเล่าให้อ่านค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ต้องขอขอบคุณอาจารย์สิริพรเป็นอย่างสูงครับ ที่กรุณาให้เกียรติ ในเรื่องของการทำ KM ผมมีประเด็นเล็กๆ จะเล่าให้ฟังครับ คือ ปัญหาของผมในการทำ KM คือ การไม่ฟังกันครับ ปัญหานี้ผมได้นำไปเรียนถามท่านอาจารย์ ดร.ประพนธ์ ในที่ประชุม ท่านอาจารย์ได้ให้ความสำคัญกับคำถามนี้มากครับ ท่านยกตัวอย่างว่าท่านได้ไปบรรยายให้อาจารย์ ของ นักศึกษาแพทย์ ฟัง อาจารย์บางท่านไม่เห็นประโยชน์ครับ บอกว่าทำมาแล้วได้ความคิดนิดหน่อย ไม่คุ้มค่า ไม่รู้จะทำไปทำไม เพราะแพทย์เป็นความรู้วิทยาศาสตร์ ไม่จำเป็นต้องทำ KMท่านอาจารย์ ดร.ประพนธ์คิดแว้บขึ้นมา บอกว่าเวลามีปัญหากับคนไข้ ความรู้วิทยาศาสตร์ช่วยได้หรือไม่ อาจารย์ แพทย์ จึงเห็นความสำคัญครับ ที่เล่ามาทั้งหมดประเด็นอยู่ที่ความศรัทธาครับ ตัวเองต้องศรัทธาก่อน หลังจากนั้นจึงชี้แจงให้คนอื่นศรัทธาและเห็นความสำคัญว่าทำไปทำไม ทำแล้วได้อะไร เมื่อมีศรัทธาร่วมกันแล้ว ขั้นต่อไปก็ไม่ยากครับ ผมดีใจครับที่อาจารย์สิริพรจะทำ KM ได้ผลอย่างไรอย่าลืมเล่าสูกันฟังนะครับ
ต้องขอขอบคุณอาจารย์สิริพรเป็นอย่างสูงครับ ที่กรุณาให้เกียรติ ในเรื่องของการทำ KM ผมมีประเด็นเล็กๆ จะเล่าให้ฟังครับ คือ ปัญหาของผมในการทำ KM คือ การไม่ฟังกันครับ ปัญหานี้ผมได้นำไปเรียนถามท่านอาจารย์ ดร.ประพนธ์ ในที่ประชุม ท่านอาจารย์ได้ให้ความสำคัญกับคำถามนี้มากครับ ท่านยกตัวอย่างว่าท่านได้ไปบรรยายให้อาจารย์ ของ นักศึกษาแพทย์ ฟัง อาจารย์บางท่านไม่เห็นประโยชน์ครับ บอกว่าทำมาแล้วได้ความคิดนิดหน่อย ไม่คุ้มค่า ไม่รู้จะทำไปทำไม เพราะแพทย์เป็นความรู้วิทยาศาสตร์ ไม่จำเป็นต้องทำ KMท่านอาจารย์ ดร.ประพนธ์คิดแว้บขึ้นมา บอกว่าเวลามีปัญหากับคนไข้ ความรู้วิทยาศาสตร์ช่วยได้หรือไม่ อาจารย์ แพทย์ จึงเห็นความสำคัญครับ ที่เล่ามาทั้งหมดประเด็นอยู่ที่ความศรัทธาครับ ตัวเองต้องศรัทธาก่อน หลังจากนั้นจึงชี้แจงให้คนอื่นศรัทธาและเห็นความสำคัญว่าทำไปทำไม ทำแล้วได้อะไร เมื่อมีศรัทธาร่วมกันแล้ว ขั้นต่อไปก็ไม่ยากครับ ผมดีใจครับที่อาจารย์สิริพรจะทำ KM ได้ผลอย่างไรอย่าลืมเล่าสูกันฟังนะครับ

เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยค่ะ..ว่าจะทำอะไรได้ผลดีถ้าเราศร้ทธา..และใช้ได้กับทุกศาสตร์เลยทีเดียว..

ขอเอาใจช่วยให้ได้รับประโยชน์จากKM อย่างสูงสุดและเกิดประโยชน์ต่อเด็กของเราอย่างสูงสุดเช่นเดียวกันนะคะ..

ขอบคุณค่ะ..

สวัสดีครับ คุณครูแอ๊ว  ขอขอบคุณครับที่ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และให้กำลังใจ  ผมว่าความศรัทธา เป็นเรื่องที่สร้างยากเหมือนกันนะครับ ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าคนอื่นเขาศรัทธาจริงหรือเปล่า แต่ผมมักจะยึดความศรัทธาของตัวเองเป็นที่ตั้งก่อนครับ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท