ตามหนังสือด่วนที่สุดที่ กค.0409.5 / ว 182 ลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2550 เรื่องซ้อมความเข้าใจ เกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการ เกี่ยวกับการศึกษาของบุตร เห็นควรซ้อมความเข้าใจว่า เงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาบุตรในสถานศึกษาของทางราชการที่นำมาเบิกได้ต้องเป็นเงินประเภทต่าง ๆ ที่สถานศึกษาได้รับอนุญาตจากหน่วยงานเจ้าสังกัดให้เรียกเก็บ ทั้งนี้ ไม่รวม ค่าปรับพื้นฐาน ค่าปฐมนิเทศ เงินบริจาค และค่าใช้จ่าย เกี่ยวกับการบริหารและดำเนินงานของสถานศึกษา เช่นค่าจ้างบุคลากรของสถานศึกษา ค่าซ่อมแซมหรือบำรุง ค่าจัดสอบ ค่าน้ำดื่ม ค่าไฟฟ้า/น้ำประปา ค่าห้องเรียนปรับอากาศ ฯลฯ กรณีมีข้อสงสัยให้ประสานกับสถานศึกษานั้นโดยตรง
เรื่องเงินบำรุงการศึกษาของโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดูรายละเอียดได้ ตามหนังสือสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐานด่วนที่สุด ที่ ศธ. 04002/64 ลงวันที่ 29 พฤษภาคม 2550
สามารถเปิดดูรายละเอียดดังกล่าวเพิ่มเติมได้ที่ www.cgd.go.th
เงินสวัสดิการการศึกษาบุตรของข้าราชการฯ ดูจะเป็นปัญหา แต่เมื่อมองไปยังประชาชนทั่วไปที่ต้องรับภาระค่าเล่าเรียนบุตร ยิ่งมีปัญหามาก เพราะนอกจากค่าเล่าเรียนแล้ว ยังมีอื่น ๆ อีกจิปาฐะ ที่ต้องจ่าย ถ้าเป็นไปได้รัฐควรจัดสวัสดิการเรื่องการศึกษาให้พลเมืองในประเทศไม่ต้องรับภาระเรื่องนี้อีก หรือถึงรับก็ให้น้อย ๆ หน่อย ให้สมกับยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข เพราะค่าใช้จ่ายภาครัฐนอกจากจะมีไว้กระตุ้นเศรษฐกิจในเรื่องงบลงทุนแล้ว ยังควรพิจารณาเรื่องการกระจายรายได้ ความเท่าเทียมกันในสังคมอีกด้วยครับ
วอนมาเพื่ออยากเห็นสังคม ประเทศชาติมีการพัฒนาอย่างมีคุณภาพ ยิ่ง ๆ ขึ้นไป