โลกของดราก้อนบอล โงกุนเคยบอกว่า "ดีใจที่ได้สู้กับคนที่เก่งกว่าอยู่เสมอ" แม้จะเป็นศัตรูกันอย่างเบจิต้า สุดท้ายก็เป็นเพื่อนร่วมรบลุยกับฟรีซเซอร์ จนฝ่ายชาวไซย่าได้ชัยชนะมาในที่สุด โลกของผม แซมกล่าวไว้ว่า "พี่เล่นเขียน blog อย่างงี้ มันต้องคนที่มีแนวโน้มมาทางสายเทคโนโลยีไอที ถึงจะคุยกันรู้เรื่อง บทความค่อนข้างจะ filter จนเกินไป แต่ถ้ามีเข้ามาซักคนก็น่าจะเป็นแขกประจำได้เลย" คำถามมีอยู่ว่าผมอยากได้ขาประจำหรืออยากได้คนที่เก่งกว่าเพื่อมาพัฒนาตัวเองอย่างโงกุน
พาดพิงถึงคุณมะปรางเปรี้ยว (ขาประจำ) ที่แนะนำให้ผมลองทำความรู้จักกับสมาชิกท่านอื่นๆ ของสังคม gotoknow.org แห่งนี้ เลยนึกขึ้นได้ทันทีครับว่า บางที่เข้าไปอ่านบทความคนอื่นแล้ว เห็นด้วย ก็เลยไม่มีอะไรจะเขียน บางทีเข้าไปอ่านแล้ว ไม่รู้จัก ก็เลยไม่อยากจะเขียน และบางที อ่านไปก็รู้สึกว่าเนื้อหา ลึกซึ้ง กลัวว่าจะตอบไปแล้วแสดงความไม่ฉลาดตัวเองออกไป ก็เลยไม่ได้เขียน สรุปก็คือเรามีเหตุผลเข้าข้างตัวเองทุกครั้งเมื่อเราจะไม่เขียนคอมเมนต์
อ้างอิงกลับไปที่บทความของตัวเอง "คนไทย ควรมีส่วนร่วม และแสดงออกแค่ไหนในสังคมออนไลน์" ถ้าให้ผมแสดงความคิดเห็นในลักษณะที่เห็นด้วย รู้จักคนเขียน และไม่กลัวโง่ ก็จะบอกว่า "คนไทยก็เหมือนคนอื่นๆ ทั่วโลกครับ แต่คนไทยชอบอมภูมิ เก่งก็ไม่กล้าบอกว่าเก่ง เดี๋ยวชาวบ้านหมั่นไส้ จะแสดงออกมากเกินไปเดี๋ยวคนหาว่าเวอร์ ฉันขออยู่เงียบๆ ของฉันดีกว่า ไม่เดือดร้อนใครดี" อืมม จริงๆ อยากให้อ่านบทความของคุณ conductor เรื่อง "Blog-Tag: Conductor" ดูนะครับ ผมจับใจความได้ว่า มันไม่สำคัญหรอกว่าใครจะมองเราอย่างไรเท่าตัวของเราเอง
สรุปโดยรวมก็คือ ถ้าเราเขียนง่ายๆ เรื่องไม่หนัก จะมีคนมาแสดงความคิดเห็นเยอะ ในทางกลับกันถ้าเนื้อหาเฉพาะเจาะจงลงไป อาจจะมีไม่กี่คนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น ดังนั้นวันนี้ ถ้าเป็นไปได้อยากขอเสียงหน่อยครับ คนอ่าน blog ที่น่ารักของผม อยากรู้ว่า ตอนนี้มีคนแอบซ่อนอ่านกันอยู่ สักกี่คนครับ จะได้แวะไปทำความรู้จักกันสักหน่อย
แต่จะบอกว่าผมก็จะเขียนแบบที่ผมอยากจะเขียนอยู่แหละครับ ไม่ได้อยากเอาใจตลาด ชอบเอาใจผู้ผลิตมากกว่าครับ แล้วมันจะมีคนมาเขียนคอมเมนต์ไหมเนี่ย 555+ แล้วคุณหละคิดอย่างไร How do u think?
ดีครับ และขอสนับสนุน
ไม่ว่าการเขียนหรือ การแสดงขข้อคิดเห็น ผมคิดว่าเขียนลงไปเถอะครับ ให้เป็นตัวของตัวเอง ผมเชื่อในศักยภาพของคนที่หลายหลาย อีกคนมีสิ่งหนึ่ง อีกคนกลับไม่มี
ผมดีใจที่มีโอกาสเข้ามาเรียนรู้ในพื้นที่เรียนรู้เสมือน การที่ผมได้ฝึกคิด ฝึกเขียน ปรากฏผลที่ดีกับผมตามสมควร
รูปแบบการเขียนของผมก็ตามสไตล์ของผมเอง สบายๆเรื่อยๆตามเนื้อหาประเด็นที่ถนัด ท่านไหนชอบก็มาอ่าน อยากให้ข้อคิดเห็นก็เติมลงไป มีมากหรือน้อยไม่ว่ากัน
ที่สำคัญที่สุด เรื่องราวที่เขียนไปจะถูกผลักเก็บไว้ในคลังความรู้ของประเทศนี้ ผมเชื่อว่าแม้บันทึกที่เป็นส่วนตัวไม่ได้เรื่องที่สุด(ของผม) วันหนึ่งก็จะมีคนจริตคล้ายกันมาอ่าน อาจขีดเขียน เพิ่มเติมเล็กน้อยว่ามาเยี่ยม ผมก็ดีใจมากมายแล้วครับ
ผมกล้าเขียนว่าผมไม่รู้ เพราะธรรมชาติเป็นแบบนั้นจริงๆ เมื่อไม่รู้ก็เขียนถาม ว่าทำไ อย่างไร เพราะอะไร น่าดีใจครับ ไม่นานก็จะมีมิตรGotoknow มาเขียนเติมเต็มให้ แม้ว่าไม่ใช่เจ้าของบันทึก ความรู้เราก็ได้ต่อยอดไปแล้ว
ผมให้กำลังใจคุณนะครับ เขียนสิ่งที่อยากเขียน เป็นตัวของตัวเอง ที่สำคัญขอให้มีความสุขในฐานะเป็นผู้ให้(ผู้เขียน)
ความสุขจะทำให้เขียนบันทึกได้กลมกล่อมครับผม
นายบอน-กาฬสินธุ์!
ผมขออนุญาตส่ง e-ยิ้ม ให้แล้วกันนะครับ
ผมชอบคำว่า "เติมความหมายใส่ชีวิต" เพราะการที่เราเกิดมานี้ ถ้าจะหายใจให้ผ่านไปวันๆ มันก็คงจะไม่ต่างอะไรกับต้นไม้ที่ขยับไม่ได้
และเพื่อเป็นการยุติธรรม เพราะบอกให้คนอื่นช่วยแสดงตัว ตอนนี้ที่ผมอ่านอยู่ก็จะมี minisiam ^-FakE-^ ดร. ธวัชชัย ปิยะวัฒน์ Patrickz 2.0 Jazz-zie Conductor และอีกหลายๆ blog ที่เป็นขาจรไปเจอโดยการ search หรือ tag แล้วไม่ได้ save ไว้
ก็อยากจะบอกว่ายินดีที่ได้ e-รู้จัก ทุกท่านครับ