เลยวันที่ 9 มิถุนายน 2550 มานิดหน่อย เพราะมัวแต่ยุ่งๆ กับการเตรียมตัวอบรม ได้ดูข่าวสารในทีวีเล็กน้อย เป็นข่าวที่ดูแล้วพาลทำให้เสียความรู้สึก และไม่สบายใจ ก็เลยปิดทีวีกลับมานั่งทำงานต่อ ... วันที่ 9 มิถุนายน ของปีนี้ กับวันที่ 9 มิถุนายน ของปีที่แล้ว แตกต่างกัน....
วันที่ 9 มิถุนายน ของปีที่ผ่านมา มีความสุข ความสบายใจ เปี่ยมล้นไปด้วยรอยยิ้มกันถ้วนหน้า ....
ตีห้าของวันที่ 9 มิถุนายน 2549 เราเริ่มออกเดินทางกันไปยังลานพระบรมรูปทรงม้า แม้ฟ้าจะดูมืดครึ้ม แต่เราก็รู้สึกกันว่า มันช่างสาย เราไปกันสายเหลือเกิน ทำไมเราไม่ออกเดินทางกันตั้งแต่ ตีสอง หรือตีสามนะ ... นั่งโทษกันไปมาในรถแท็กซี่ ...
จนถึงลานบรมรูปทรงม้าในเวลาประมาณ หกโมงเช้า ภาพที่เราเห็นในระหว่างที่เดินเข้าไป ช่างน่าสวยงามเป็นอย่างยิ่ง แสงไฟที่ประดับประดาไว้ตามข้างทาง และซุ้มต่างๆ ยังคงสว่างไสว ผู้คนใส่เสื้อสีเหลือง เดินกันเป็นสาย ยาวเหยียด ตื่นตา ตื่นใจมาก ๆ
เรายังคงเดิน เดิน เดิน เข้าไป แต่เราก็เข้าไปได้แค่เพียงแค่ริม ของลานพระบรมรูปทรงม้าเท่านั้น เนื่องจากพื้นที่เกือบทั้งหมดของลานพระบรมรูปทรงม้า ถูกจับจองจนเต็มไปหมดแล้ว
เราเดินเข้าไปหาที่ว่างที่พอจะนั่งลงไปได้ ที่แคบ ๆ ที่เวลานั่งเข่าแทบเกยกัน แต่แม้จะเบียดเสียด คับแคบ แต่ทุกคน ก็ไม่มีใครอารมณ์เสีย ถ้อยทีถ้อยอาศัย พูดคุยกันราวกับรู้จักกันมานับปี .. . บางคนนำอาหารมาจากบ้าน ก็แบ่งให้คนที่นั่งข้าง ๆ กินด้วย
เช้าแล้ว อากาศโปร่ง แจ่มใส พอเวลาผ่านไปถึงเวลาสาย แดดเริ่มแรง แรงขึ้น .... ร่มคันเล็กที่พกติดกระเป๋าไปสามารถช่วยคนรอบตัวที่เบียดๆ ซุกๆ กันเข้ามาให้บรรเทาความร้อนไปได้ 4-5 คน ดีใจที่สามารถช่วยคนอื่นได้บ้าง ช่วงนี้มีรายการทีวีทำการถ่ายทอดสด รวมทั้งมีรายการทีวีมาบันทึกเทปโทรทัศน์ด้วย
ใกล้เวลาเสด็จพระราชดำเนินมาแล้ว มีเมฆเคลื่อนมาบังแสงอาทิตย์ทำให้ได้รับความร่มเย็นกันถ้วนหน้า ช่างเป็นความปกติอันแสนมหัศจรรย์
หลังจากฟังกระแสพระราชดำรัส....ทุกคนร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เมื่อสิ้นสุดเสียงไชโย ไชโย ไชโย พร้อมกับธงสีเหลืองตราสัญลักษณ์ และธงชาติไทยเล็ก ถูกยกขึ้นโบกสะบัด ฉันสังเกตุเห็นหลายคนรอบ ๆ ข้างต่างยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา บางคนเบือนหน้าหนีพยายามจะซ่อนน้ำตา ... นี่เราร้องไห้กันทำไม ..??
คำว่าไทย ช่างมีความยิ่งใหญ่ สง่างาม น่าภาคภูมิใจ คนไทยใจดี มีน้ำใจ เป็นมิตร คนไทยมีความพิเศษอยู่ในตัวเอง และช่างโชคดีที่เกิดมาภายใต้ร่มพระบารมี และภูมิใจที่ได้เป็น 1 คนที่อยู่ในช่วงเวลาประวัติศาสตร์นั้น
หลายๆ ความรู้สึกไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูดได้นอกจากจะได้ประจักษ์กับสายตา และรับรู้ด้วยความรู้สึกของตนเอง เหมือนกับการที่ได้พบว่า ขบวนเรือช่างยิ่งใหญ่สวยงาม และเรือสุพรรณหงษ์ ก็สง่างาม น่าเกรงขาม มากกว่าที่เห็นในภาพหรือในทีวีหลายเท่า
สวัสดีค่ะพี่โอ๋
ขอบคุณค่ะที่กรุณาแวะมาทักทาย ...ปิ๊กเชื่อว่าเราคนไทยทุกคน เห็นข่าวในวันนี้แล้วต่างก็รู้สึกไม่สบายใจเหมือนกัน
โลกเป็นแบบนี้หล่ะค่ะพี่โอ๋ บางคนก็มีมาก มากแล้วยังไม่พอ คนที่ไม่มี ก็ดิ้นรนที่จะมีชีวิตอยู่
เดินสายกลางดีที่สุดดีกว่าเนอะ......
สวัสดีค่ะ...น้องปิ๊ก..
สวัสดีค่ะ
ภาพสวยจริงๆ ถ่ายเองใช่ไหมคะ
สวยกว่าในทีวีค่ะ