beeman กับ ทศพักตร์ ณ วันนี้ (มิ.ย.๕๐)

        บันทึกนี้พยายามจะวิเคราะห์ตัวเอง (beeman) ถึงบทบาทของคุณอำนวย.. ณ ปัจจุบันว่า ไปได้ถึงไหนแล้ว เผอิญบล็อกนี้ไม่ค่อยเคลื่อนไหว เลยมาเขียนบันทึกนี้ไว้ด้วยเหตุผลเบื้องต้น ๒ ประการ

• ประการแรก บันทึกนี้เขียนเพื่อวิเคราะห์ตัวเอง ดังนั้นอาจจะมีการยกหางบ้าง จึงไม่อยากให้เป็นเป้าสายตาของท่านใดเป็นพิเศษ
• ประการที่สอง บล็อกนี้ไม่มีบันทึกเคลื่อนไหวมานานแล้ว และเรื่องที่จะเขียนนี้ เป็นเรื่องของคุณอำนวยโดยเฉพาะ จึงนำมาบันทึกเข้าไว้ ครับ

          ต่อไปนี้ ผมจะได้วิเคราะห์ตัวผมเอง (beeman) ว่าปัจจุบัน สถานะของคุณอำนวยที่เป็น นักจัดการความรู้นั้น สถานะปัจจุบัน (มิถุนายน ๒๕๕๐)  ใน 10 Competency ของสคส. ผมควรมีคะแนนประมาณเท่าใด :

        1. เป็นผู้ที่สามารถสร้างความเข้าใจและสร้างแรงจูงใจให้กับ "คุณเอื้อ" และ "คุณกิจ" ได้ พูดง่ายๆ ก็คือ ต้องเป็น "นักขาย" ที่สามารถอธิบายและ "ขายฝัน" ในเรื่อง KM ให้กับผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานได้ ข้อนี้ คุณอำนวยต้องทำหน้าที่เหมือน เป็นเซลล์แมน ที่จะต้องอธิบายเรื่อง KM ให้ผู้บริหารหรือคุณเอื้อ กับผู้ปฏิบัติงานหรือคุณกิจ ให้เข้าใจในระดับปฏิบัติ ส่วนนี้ก็คือทำหน้าทีเป็นนักประสานงานที่ดี ครับ ข้อนี้ปัจจุบัน ผมทำได้ดีพอสมควร หลังจากได้มีสนามจริงให้ออกไปเป็นวิทยากร ข้อนี้ผมน่าจะได้คะแนนผ่าน คือ ได้เกิน ๕๐ คะแนนครับ (คะแนนอยู่ที่ ๕๐ ขึ้น แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะให้คะแนนเท่าไร)

       2. เป็นผู้ที่ออกแบบกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (ลปรร.)ในหน่วยงานได้ คือทำหน้าที่เป็นนักออกแบบ หรือเป็น "วิศวกร" กระบวนการ(เรียนรู้) ได้ ขยายความว่า คุณอำนวยต้องทำหน้าที่ เป็นวิศวกร ที่สามารถออกแบบกระบวนการ ลปรร. (วิทยากรกระบวนการ) ได้ และเพิ่มเติมว่า สามารถดัดแปลงกระบวนการลปรร. ให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมหรือสถานที่ลปรร.ได้ด้วย (ต้องรู้จัก "ปรับใช้") ครับ ข้อนี้ในปัจจุบัน ผมก็จะมีสนามให้ทดลองปฏิบัติจริงเหมือนกัน ผมคิดว่าข้อนี้ผมคงทำได้ดีทีเดียว คะแนนน่าจะผ่านเกิน ๖๐ คะแนน นะครับ

        3. เป็นผู้ที่สามารถสร้างบรรยากาศที่ดี มีความเป็นกันเอง และมีการ ลปรร. ที่ลื่นไหลเป็นไปตามธรรมชาติ เปรียบได้กับบทบาทของ "สถาปนิก" ที่ออกแบบบ้านได้อย่างดี มีการถ่ายเทอากาศ โล่งโปรงสบาย อยู่แล้วไม่อึดอัด ขยายความว่า คุณอำนวยต้องทำหน้าที่ เป็น สถาปนิก โดยการสร้างบรรยากาศที่ดี มีความเป็นกันเอง เพื่อให้บรรยากาศของการ ลปรร. ไหลลื่นเป็นธรรมชาติ เช่น การพูดคุยอย่างเป็นกันเอง การเปิดเพลงเบาๆ สร้างจัดกิจกรรมที่ทำให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจกันของผู้ที่เข้ามา ลปรร.กัน เป็นต้น ครับ ข้อนี้ หลังจากผ่านเวทีจริงๆ มา ๒-๓ สนามแล้ว คิดว่า ผมน่าจะทำหน้าที่นี้ได้ดีพอสมควร น่าจะผ่านที่คะแนน ๖๗ คะแนน ครับ

       4. มีทักษะในการตั้งคำถาม จับและสรุปประเด็นได้ พูดง่ายๆ ก็คือ ต้องมีทักษะของการเป็น "นักจัดเวที" หรือผู้ดำเนินรายการอยู่ในตัวขยายความว่า คุณอำนวยต้องทำหน้าที่ เป็น "พิธีกร" รายการโทรทัศน์หรือวิทยุ ที่สามารถยิงคำถาม จับประเด็น รวมทั้งสรุปประเด็นที่มีการ ลปรร. ได้เป็นอย่างดี (เป็นอะไรที่มากกว่า "คุณลิขิต") ครับ ข้อนี้ ผมคิดว่า ผมมีความสามารถในการ Capture ได้ระดับหนึ่ง หลังจากผ่านสนามฝึกมาหลายสนาม น่าจะมีความสามารถเพิ่มขึ้น แต่ยังทำไม่ได้ดีนักในสายตาของตัวเอง (แต่ถ้าให้ท่านอื่นลงคะแนนคิดว่าคงให้คะแนนมากกว่าที่ผมให้) สรุปว่าผมให้คะแนนตัวเองในข้อนี้ ผ่าน ๕๐ ไปอยู่ที่ ๕๕ คะแนนครับ

       5. รู้จักเครื่องมือช่วยพัฒนาการเรียนรู้ที่หลากหลาย สามารถเลือกใช้เครื่องมือได้เหมาะสมกับบริบท และกลุ่มเป้าหมาย เรียกได้ว่าต้องมีความสามารถในลักษณะของ "ที่ปรึกษา" หรือ "Consultant" ที่สามารถให้คำแนะนำ และเลือกใช้เครื่องมือได้อย่างเหมาะสม ขยายความว่า คุณอำนวยต้องทำหน้าที่ เป็น ที่ปรึกษา ที่สามารถให้คำแนะนำ (กับคุณอำนวยมือรองลงไป) รวมทั้งเลือกใช้เครื่องมือหรือ Tool ได้อย่างเหมาะสม ตัวอย่างของ Tool เช่น กำหนดการ, Card Techniques, Mind Map, Flip Chart, Computor, Monitor, กล้องถ่ายภาพถ่าย VDO เป็นต้น ครับ ข้อนี้ผมไม่ค่อยเก่งเรื่อง "สื่อ" เท่าไร แต่ผมคิดว่า ผมสามารถเลือกใช้สื่อได้ดีพอสมควร โดยหาคนที่เก่งในเรื่องนั้นๆ มาทำแทน พร้อมทั้งอธิบายบทบาทให้เขาเข้าใจได้ โดยมีวิธีการพูดเพื่อให้เขาทำงานให้เราได้ตามวัตถุประสงค์ครับ คิดว่าคะแนนในข้อนี้ น่าจะอยู่ที่ประมาณ ๕๕ นะครับ

       6. สามารถนำ IT มาประยุกต์ใช้ในการ ลปรร. และใช้เผยแพร่ความรู้ได้อย่างเป็นระบบและทรงพลัง  เรียกว่าต้องมีความเป็น "นัก IT" อยู่บ้างจะได้ประยุกต์ใช้ IT ได้ หรือพูดกับฝ่าย IT รู้เรื่อง ขยายความว่า คุณอำนวยต้องมความเป็น นัก IT อยู่ในตัวด้วย ครับ ข้อนี้ถ้าตีความว่า IT Man คือ นัก IT อย่างที่เราเข้าใจ ผมอาจจะตกในข้อนี้ แต่ถ้าตีความว่า IT Man คือ ใครก็ได้ที่มีความรู้คอมพิวเตอร์ขั้นใช้งานได้ ข้อนี้ผมคงทำได้ดีทีเดียว จากประสบการณ์การออกหน่วย Mobile Unit ครับ โดยผมใช้ IT แค่ GotoKnow (กับพวกพ้อง) ตัวเดียว ถ้าเป็นไปอย่างที่ผมตีความ ตรงนี้ผมน่าจะได้สัก ๗๐ คะแนนครับ

       7. สามารถวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ ทั้งในเชิงวัฒนธรรมองค์กร ทั้งก่อนและหลังการใช้ KM ซึ่งหมายถึงต้องมีคุณสมบัติของการเป็น "นักวิเคราะห์" อยู่ด้วย ขยายความว่า คุณอำนวยต้องทำหน้าที่เป็น นักวิเคราะห์ อยู่ในตัวด้วย คือสามารถวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นก่อนและหลังการใช้ KM ซึ่งถ้าคุณอำนวยชอบการจดบันทึก และรู้จึกสังเกตแล้ว คุณสมบัติข้อนี้คงผ่านได้ไม่ยาก ครับ ข้อนี้ผมพึ่งได้งานทำ ที่นอกหน่วยงานของตนเอง แล้วผมจะพยายามจดบันทึกเข้าไว้ ข้อนี้คงผ่านไม่ยาก แต่ผมยังไม่ให้คะแนนตัวเองในข้อนี้ ณ ปัจจุบันครับ

         8. สามารถติดตาม ประเมินผลการใช้ KM ได้ เป็นบทบาทในฐานะ "นักประเมินผล" ที่จะต้องคอยติดตามประเมินการทำงานเป็นระยะๆ และสามารถนำข้อมูลย้อนกลับมาใช้ปรับการทำงานได้ ขยายความว่า คุณอำนวยต้องทำหน้าที่เป็น นักติดตามประเมินผล แบบกัดไม่ปล่อย ต้องนำ คำติมาเพื่อแก้ไข นำคำชมมาเป็นกำลังใจและทำให้ดียิ่งขึ้น ครับ ข้อนี้ความจริงผมไม่ค่อยชอบเป็นนักประเมินผลเท่าไร แต่เท่าที่สังเกตตัวเอง พบว่าการทำงานด้าน KM ของตัวเองก้าวหน้าไปมาก โดยประเมินจากมีหน่วยงานหรือบุคคล มีการกล่าวถึงผมในด้านบวก มากกว่าลบ ตรงนี้ผมให้คะแนนผมผ่าน สัก ๕๔ คะแนนครับ

         9. สามารถผลักดันให้เกิดเครือข่ายในลักษณะของ "ชุมชนนักปฏิบัติ (CoPs)" ซึ่งก็คือคุณสมบัติในลักษณะที่เป็น "นักพัฒนา" หรือ "นักสังคม" นั่นเอง ขยายความว่า คุณอำนวยต้องทำหน้าที่เป็น นักพัฒนาต่อยอด เพื่อให้เกิดการทำงานในลักษณะเครือข่ายแบบที่เรียกว่า CoPs ครับ ข้อนี้รู้สึกว่า CoPs ของตัวเองมีแค่ KFCop เท่านั้น ส่วน CoPs ผึ้งก็ยังทำไม่สำเร็จ คงต้องใช้เวลานานหน่อย แต่ก็ไม่ใช่ว่าทำไม่สำเร็จเลย เอาเป็นว่า ข้อนี้ให้ตกไว้ก่อน ได้สัก ๔๙ คะแนนเป็นไง แล้วค่อยนำมาพิจารณาในรอบใหม่ครับ

        10. รู้จักใช้หลักการให้รางวัล การชมเชยยกย่อง เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดการ ลปรร. ที่ต่อเนื่อง และยั่งยืน ซึ่งก็คือ บทบาทในฐานะ "นัก HR" หรือนักพัฒนาองค์กร ขยายความว่า คุณอำนวยต้องมีศิลปะ ในการสนับสนุนให้เกิดการ ยกย่องชมเชย ผู้กระทำความดีทั้งหลาย ให้เกิดกำลังใจในการทำความดีต่อไปอย่างต่อเนื่อง ครับ ข้อนี้รู้สึกว่าตัวเองน่าจะทำได้ดีครับ และคงทำได้ดีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ขณะนี้ผลงานยังไม่ปรากฏชัด ตัองรออีกสักไตรมาสหนึ่งน่าจะดีขึ้น ตอนนี้ให้คะแนนตัวเองผ่าน เป็น ๕๑ คะแนน แล้วกัน ครับ

จบบันทึกเพียงเท่านี้

beeman ๔ มิถุนายน ๒๕๕๐ เวลาตีสอง

 

[แก้ว..อุบล จ๋วงพานิช]

สวัสดีค่ะ อ. beeman

• เป็นการวิเคราะห์ตนเองที่ดีค่ะ
• ถ้าคนอื่นให้คะแนนอาจารย์ อาจได้มากกว่าที่ตัวเองให้ก็ได้นะคะ

[beeman 吴联乐]

ขอบคุณครับ คุณอุบล

• สังเกตว่า ภาพเจ้าของประวัติใหม่ ดูดีกว่าเดิม
• คิดว่าบันทึกนี้จะไม่มีข้อคิดเห็นเพราะซ่อนเอาไว้แล้วเชียว
• ลองวิเคราะห์ตัวเอง เผื่ออีก ๖ เดือนมาวิเคราะห์ใหม่ คะแนนจะเพิ่มหรือลด จะได้มีการเปรียบเทียบครับ.. ใช้ความรู้สึก ณ ขณะนั้นประเมินตัวเองครับ
• ถ้าคนอื่นให้คะแนน บางข้อเพิ่ม แต่บางข้ออาจลดก็ได้ครับ
• คะแนนอาจจะต่ำไปหน่อยครับ แต่กำลังอยู่ขาขึ้นครับ