เรื่องเล่าเล็กๆ จากคนทำงานเล็กๆ ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง กับอีกหนึ่งในวิธีการจัดการความรู้ โดยปรับเปลี่ยนรูปแบบจาก เวทีการประชุมเจ้าหน้าที่ประจำเดือนแบบเดิมๆ
นานมาแล้ว วาระการประชุมประจำเดือนจะมีรูปแบบตายตัวคือ มี ท่านผู้อำนวยการ รพ. มานั่งแจ้งข้อมูล ที่อยากจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบตามวาระ.. ตามด้วยหัวหน้าฝ่าย หัวหน้างานต่างๆ กิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆ จะมีก็จะไปอยู่ในกิจกรรมหรือวันอื่นๆ ซึ่งทำให้วันประชุมเจ้าหน้าที่ดูน่าเบื่อ คนไม่ค่อยสนใจฟัง ยิ่งปีไหนที่ ผอ.เป็นคนพูดและบริหารการประชุมไม่เก่ง ยิ่งแล้วใหญ่..เสียดายสาระดีๆ ที่ต้องแจ้งให้ทราบ...
2 ปีก่อน ผอ.รพ.ยังอายุน้อย ชอบเล่นกีต้าร์ ร้องเพลง ฉันเลยเริ่มคิดใหม่ โดยปี พ.ศ.2548-49 ปรับวาระการประชุมเป็นสถานีคุณภาพ มีทีมงานนำเสนอ โดย ผอ.เป็นประธานสถานีแจ้งสิ่งที่ได้รับจากจังหวัดและอำเภอให้ทราบ ทีมคุณภาพ มีการถ่ายทำภาพ หรือวีดีโอจากหน่วยงานต่างๆ นำเสนอผลงาน CQI หรือนวัตกรรม ซึ่งส่งผลให้เจ้าหน้าที่มีส่วนร่วมมากขึ้น สนุกสนานมากขึ้น บางครั้งสร้างการมีส่วนร่วมของกลุ่มคนที่เราเข้าถึงยากด้วยการติดต่อให้มาเล่นมิวสิควีดีโอ โดยบางคนก็เป็นคนร้องเพลง บางคนก็มาเป็นพระเอก นางเอก หรือตัวละครในวีดีโอ แล้วนำมาฉายในวันประชุมหรือวันที่มีกิจกรรมการอบรม สำคัญๆ ซึ่งทำให้คนกลุ่มนี้มีส่วนร่วมในงานกับเรามากขึ้น (เริ่มจากเพลง) สุดท้ายที่ปรับปรุง คือให้ทุกหน่วยงานหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมเจ้าหน้าที่ประจำเดือนโดย นำเสนอผลการพัฒนางานของตนเองเช่น CQI หรือนวัตกรรม ในแต่ละครั้ง
โดยกระบวนการคือ
· งานคุณภาพแจ้งวัตถุประสงค์ของการปรับปรุงเพื่อการเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันและกันเนื่องจากทุกคนมีศักยภาพสูงอยู่แล้ว เรา”เชื่อมั่นในศักยภาพที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยมของทุกท่าน”
· งานคุณภาพจัดตารางหรือโปรแกรมการนำเสนอสำหรับเจ้าภาพเพื่อการดำเนินรายการ ที่เป็นสาระ และแนวทางการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมและเป็นผู้ดำเนินรายการ โดยกำหนดให้นำเสนอวิชาการหรือการพัฒนาคุณภาพของหน่วยงานเจ้าภาพร่วมด้วยทุกหน่วย โดยหัวข้อประกอบด้วย
o เรื่องแจ้งให้ทราบจากจังหวัด/อำเภอโดย ผอ.
o เรื่องติดตามต่อเนื่อง (ตามรอยยุทธศาสตร์ 5 ยุทธศาสตร์ )และนำเสนอวิชาการ หรือ CQI ของหน่วยงานเจ้าภาพ สอดแทรกในยุทธศาสตร์พัฒนาบุคลากร
o มอบหมายให้ทีมที่มีบุคลากรระดับปฏิบัติการ ที่มีแววเป็นผู้ดำเนินรายการหรือการนำเสนอได้ดี เริ่มก่อนฝ่ายอื่นๆ สัก 2 ฝ่าย เพื่อเป็นแบบอย่างๆ และกลุ่มหลังต่อยอดความคิด รวมทั้งมีเวลาเตรียมตัวของผู้ที่ยังไม่เคยทำ
ผลลัพธ์
o เจ้าหน้าที่มีสิ่งใหม่ๆ มานำเสนอการพัฒนางานจากปัญหาที่ต้องแก้ไขและให้เป็นไปตามการบริการที่มีคุณภาพ ทุกเดือน ที่ผ่านมาใน 4 เดือนคือ
o ภาพรวมทุกคนพึงพอใจ มีความสุข มีเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม มีการแสดงรูปแบบการประชุมที่แตกต่าง อาทิเช่น การนำมุขตลก มาสอดแทรกในการประชุม ,การเปิดตัวการประชุมที่น่าสนใจด้วย เพลง หรือประเด็นน่าสนใจอื่นๆ
o ผู้ที่ไม่เคยจับ Comp. เลยก็สามารถใช้เพื่อการนำเสนอผลงานๆได้
o บางครั้งเราต้องถึงกับ อึ้ง ..ไม่น่าเชื่อว่าเขาคนนั้น..จะทำได้..ขนาดนี้ สรุปง่ายๆก็คือ ผลดีเกินคาด ที่คิดไว้มากมาย...
· คอยสอบถามก่อนถึงคิวทำเพื่อป้องกันการลืม,และเป็นการกระตุ้น
· การชื่นชมในที่ประชุมถึงการตื่นตัว หรือความกระตือรือล้นของเขาที่แตกต่างในการจัดทำตั้งแต่ครั้งแรกและทุกครั้งสร้างความสุข และพลังในการที่จะทำในกลุ่มถัดไป และทำให้กลุ่มหลังๆพัฒนามากขึ้น และมีความสนุกที่จะต้องทำ
· คอยให้ข้อเสนอแนะถ้าเขาคิดไม่ออกว่าจะนำเสนออะไรดี (ส่วนใหญ่พวกเราจะติดแต่การทำ ...แต่บันทึก สรุป และนำเสนอไม่เป็น ..และไม่รู้ว่านั่น..คือการพัฒนาคุณภาพการบริการ)
ฉันได้ข้อคิดเห็นสุดท้ายกับตัวเองว่า...“เมื่อทะลายกำแพงแห่งรูปแบบของตนเอง พร้อมปลดปล่อยความรักและเมตตา มอบศรัทธาแก่ ผู้คนอันมีความสำคัญกว่ารูปแบบหรือเป้าหมายที่เรามุ่งหวังแคบๆ ด้วยความไม่รู้ ซึ่งบางครั้งเป็นกำแพงขวางกั้นพลังศักยภาพของผู้คน เมื่อนั้น รอยยิ้มและความสุขจะบังเกิดและเป็นตัวเชื่อม..เรา..เข้าหากัน ..พลันเราจะพบกับเป้าหมายใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่า”คือการมีความสุขกับขณะปัจจุบันการทำงาน
ขออภัยนะคะพี่ sasinanda
ตอนนี้ยังงงๆ อยู่เลยค่ะ ด้วยความที่ยังเป็นมือใหม่ในการจัดการ blog เวลาพิมพ์แล้ว copy มาใส่ในบันทึกเนี่ย พอบันทึกเสร็จมันก็มาต่อกันยาว...เป็นพรืดแบบเนี้ย..งงๆ อยู่ ...และก็สงสารคนอ่านจังค่ะ...
สวัสดีค่ะ น้องพชรวรัตถ์ ขอปรบมือให้กับความคิดที่สร้างสรรคค่ะ เยี่ยมจริงๆ
ซา-หวัด-ดี ค่ะป้า_แดง
ดีใจจังเจอป้าแดงอีกแล้ว...
ระดับทีมนำเพียงไม่กี่คนกำลังจะหมดแรงจากการขับเคลื่อนองค์กรที่มีข้อจำกัดหลายๆ ด้านอย่างองค์กรของเราค่ะ...
สวัสดีค่ะ
คนหนึ่งมีหมวกหลายใบไปก็ไม่ดีนะคะ อย่างมากไม่ควรเกิน 2 เพราะไม่รู้จะทำอะไก่อนหลัง เวลาก็มีคนละ 24 ช.ม.เท่าๆกัน และคนเรา จะทำแต่งานอย่างเดียวไม่ได้ ครอบครัวมี พ่อแม่มี ที่ต้องเอาใจใส่
สรุป คือ คงต้องทำดีที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่เร่งมาก คงจะเหนื่อยมากค่ะ
สวัสดีค่ะพี่ sasinanda
ขอบคุณอีกครั้งนะคะ...แหววจะคอยเตือนตัวเองเพื่อสุขภาวะ ที่จะได้มาเยี่ยมเยือนเราบ่อยๆค่ะ