วันที่ 5 กันยายน 2552 ฉันได้มีโอกาสอ่านบันทึกของคุณพ่อมือใหม่ท่านหนึ่ง ภาพแรกที่ฉันสัมผัส มันเป็นภาพที่ทำให้ฉันพิศวงอย่างมาก อาจเป็นเพราะในชีวิตจริง ภาพแบบนี้ไม่เคยมีให้เห็นในครอบครัวเล็ก ๆ ของฉัน เกิดความประทับใจ พร้อมกับอยากทำความรู้จักผู้ชายคนนี้ จึงย้อนกลับไปค้นหาเรื่องราวของเขาจากบันทึกก่อนหน้านี้ จากนั้นฉันก็ติดตามอ่านบันทึก ติดตามชมภาพบรรยากาศการเลี้ยงลูกของคุณพ่อมือใหม่มาตลอด แรก ๆ ฉันไม่กล้าที่จะสื่อสารกับน้องมากนัก
กระทั่งได้รู้จักกันและกัน รับทราบเรื่องราวกันและกันผ่านตัวอักษรบันทึกแล้วบันทึกเล่า อีกทั้งยังได้รับรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้ "เกียรติศักดิ์ ม่วงมิตร" ที่ฉันมักเรียกนาม น้องหนานเกียรติ มากกว่า จากการกล่าวถึงของพี่คิม ครูคิม นพวรรณ อยู่เสมอ ๆ
" ตาล น้องหนานเกียรติเป็นคนดีมากเลย ติดดินเป็นที่สุด" นี่คือคำบอกเล่าของพี่คิม
" ตาล น้องหนานเกียรติ เป็นคนที่ไม่เคยว่าใครเลย จริง จริ๊ง เวลาพี่คิมว่าใครนะ น้องหนานเกียรติก็จะชวนเปลี่ยนเรื่อง จนคู่สนทนาละอายใจไม่กล้าว่าใครอีก" เสียงปลายสายจากพี่สาวคนเดิม
น้องหนานเกียรติทำให้ฉันคิดว่า "ผู้ชายแบบนี้ยังมีหลงเหลืออยู่อีกหรือ ฉันคิดว่า สูญพันธุ์ไปจากโลกนี้แล้วซะอีก" ทำให้ฉันรู้สึกมองผู้ชายในแง่ดีขึ้น หลังจากที่ใช้ประสบการณ์ชีวิตครอบครัวของตัวเองเป็น "ปรอทวัดมาตรฐานพฤติกรรมชายไทย" มานานหลายปี พร้อมกับคิดในใจว่า คุณแม่ของน้องเฌวาช่างเป็นคนโชคดีจริง ๆ ที่เลือกผู้ชายคนนี้เป็นพ่อของลูก
เมื่อเรียนรู้ถึงนิสัยใจคอกันมากขึ้น ทำให้ฉันกล้าที่จะไปนั่งแถวหน้าในบันทึกของน้องหนานเกียรติ ณ วันนั้น 28 กันยายน 2553 ฉันทำให้บันทึกของน้องหนานเกียรติมีเนื้อหาที่ไม่สอดคล้อกับชื่อบันทึกมากนัก ในบันทึกเล่าเรื่อง NKM5 ตอนที่ ๓ โดยฉันเริ่มจากคอมเม้นท์ที่ว่า
แวะมาจับจองที่นั่งแถวหน้าชอบมุขนี้อ่ะ "(แหะ แหะ ต่างจากผมที่ประสงค์จะออกนาม แต่ไม่ประสงค์จะออกเงิน ฮิ ฮิ...)"อ่านบันทึกนี้ทำให้ได้รู้จักครอบครัวของน้องหนานเกียรติมากขึ้นนะคะ เฌวา เป็นอย่างไรบ้าง วันก่อนดูคลิปเฌวา ร้องเพลง ด้วยหละ แต่ อิ..อิ..อิ...มิประสงค์จะออกนาม
แวะมาดูภาพอีกรอบ (เดาออกแหละว่าน้องหนานเกียรติกำลังขึ้นไฟล์ภาพ)แต่เดาผิด คิดว่าจะได้เห็นภาพงานแต่ง ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย กินแห้วเลย รอลุ้น เจ้าของเม้นท์ 2 ก็แล้วกัน อิ..อิ...อิพอจบคอมเม้นท์ที่ 2 ฉันก็ได้เห็นภาพงานแต่งงานของน้องหนานเกียรติกับอาจารย์ปรารถนาเข้ามาต่อท้ายบันทึก และฉันก็กล้าพอที่จะขอ จึงขอต่อว่า
อิ..อิ..อิ...เฝ้าหน้าจอ รองานแต่ง สาวแก้มแดง หนุ่มสุดหล่อ พ่อคุณเอ๋ย อยากฟังเสียง เพลงที่ร้อง ให้ทรามเชย ช่วยเฉลยเพลงอะไร ใคร่อยากฟัง
วันนั้นน้องหนานเกียรติคงมีเวลามากพอ เพราะไม่กี่นาทีต่อมา ฉันก็ได้ฟังเพลง แสงจันทร์ ที่น้องหนานเกียรติตั้งใจร้องและเล่นกีต้าร์ให้กับเจ้าสาวแสนสวยในคืนนั้น น้องหนานเกียรติคงเริ่มจะคิดได้ว่าโดนฉันพาหลงทางจึงได้คอมเม้นท์ว่า
ฺฮ่า ฮ่า จาก NKM กลายไปเป็นงานแต่งได้ไงเนี่ย...
พี่อิงคิดว่า รายการ "วันวาน...ยังหวานอยู่" ซะอีก HA HA HA วันนี้มีเวลา แวะป่วนได้ทั้งวัน
ขอบคุณที่แวะมาจับจองแถวหน้าครับ
มุข "ไม่ประสงค์ออกตังค์แต่ประสงค์ออกนาม" เนี่ยไม่สงวนลิขสิทธิ์นะครับ ฮิ ฮิ...
แหะ แหะ ไป ๆ มา ๆ จากมหกรรมจัดการความรู้ กลายเป็นงานแต่งไปได้ไงก็ไม่รู้ครับ...อิงจันทร์
เมื่อ 28 พฤศจิกายน 2553 07:46 #2269745 [ ลบ ]ยอมรับว่า ฉันประทับใจสุภาพบุรุษท่านนี้เป็นที่สุด ฉันปรารภกับตัวเองเสมอว่า ผู้ชายอะไร ทำอะไรก็ดูดี๊ดีไปหมด แม้แต่ภาพนี้ ประโยคนี้ที่อ่านแล้วต้องปลื้มแทนเจ้าสาว ในคืนนั้น คืนแห่ง "น้ำผึ้งใต้แสงจันทร์"
ประมาณเดือนสิงหาคม 2553 ฉัน พี่คิม น้องเอก บังวอญ่า และน้องหนานเกียรติ เราคุยกันว่าจะทำตัวให้ว่างตรงกัน จัดทริปเที่ยวประจวบฯ - ชุมพร จะไปเที่ยวเกาะ ดำน้ำดูปะการัง ณ เวลานั้นฉันจัดเตรียมทุกอย่างพร้อสรรพ จองรถตู้เจ้าราคาเป็นกันเองและรู้จักกันดี 2 วัน แต่ 2 วันก่อนการเดินทางตามนัด ปรากฏว่าพายุเข้าฝนตกหนักมากและน้ำท่วมหนักแถวเพชรบุรี ราชบุรี เราจึงต้องขอเลื่อนทริปนี้ไปก่อน ถัดมาอีก 1 เดือน คุณพ่อของฉันป่วยหนัก ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาล ฉันต้องเดินทางขึ้นลงหาดใหญ่-ประจวบฯ จนกระทั่งคุณพ่อเสียชีวิต จากวันนั้นจนวันนี้ ฉันก็ไม่สามารถบริหารเวลาได้ลงตัว
" เมื่อไหร่จะได้ไปทานปูม้าบ้านพี่อิง" เสียงตัดพ้อของน้องหนานเกียรติ ที่ทำให้ฉันต้องเสียใจมากในวันนี้ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้พี่จะไม่รีรออีกแล้ว แต่นี่ได้แต่คิดเสียดาย เสียใจ อยากบอกน้องหนานเกียรติว่าพี่เสียใจจริง ๆ
" ต่อให้พี่ตักบาตรด้วยปูม้าสักร้อยตัวในวันนี้ ก็คงไม่มีค่าเท่าปูม้าหนึ่งตัวในวันที่น้องมีชีวิตอยู่"
กระนั้นก็ตาม พี่ตั้งใจว่า "ตักบาตรครั้งใด พี่จะไม่ลืมคิดถึงน้องหนานเกียรติเลยสักครั้งเดียว"
ขอบคุณค่ะพี่ตาล กำลังอยากเห็นภาพชุดนี้พอดี แฟมิลีแมน แสนโรมันกะติก ค่ะ
เป็นบุคคลที่หายากจริงๆ แผ่นดินนี้จะมีซักกี่คน
"..........."
ขอบคุณค่ะ น้องกวางเคยบอกพี่ใหญ่ถึงความประทับใจหลายอย่างในตัวหนุ่มหล่อคนนี้ค่ะ
เจริญพรคุณครูอิงจันทร์
เสียดายคนดี
ทัศนียภาพของความรัก : รำลึกหนานเกียรติ เกียรติศักดิ์ ม่วงมิตร
โดยดร.วิรัตน์ คำศรีจันทร์
กลิ่นของสัตบุรุษ(คนดีมีคุณธรรม)
นะ ปุปผคันโธ ปฏิวาตเมติ
นะ จันทนัง ตครมัลลิกา วา
สตญฺจ คนฺโธ ปฏิวาตเมติ
สัพพา ทิสา สัปปุริโส ปวายติ.
กลิ่นดอกไม้ฟุ้งทวนลมไปไม่ได้
กลิ่นจันทน์ กฤษณา หรือมะลิ
ก็ฟุ้งทวนลมไปไม่ได้
ส่วนกลิ่นของสัตบุรุษ(คนดีมีคุณธรรม)
หอมฟุ้งไปได้ทั่วทุกทิศ
สัตบุรุษสุดดีกลิ่นศรีสม หอมทวนลมโบกพัดสะบัดหวน
กระจายกลิ่นรินฟุ้งจรุงอวล แสนชื่นชวนชอบจิตสนิทใจ
กลิ่นศีลธรรมนำผลให้พ้นทุกข์ หอมเป็นสุขนานเนิ่นเกินสมัย
ถึงหอมกลิ่นบุปผาสุมาลัย เพียงชื่นใจพักครู่ไม่สู้นาน
ประพันธ์โดย : พระพิพัฒน์ปริยัตยานุกูล
ครั้งสุดท้ายที่มีโอกาสเจอะเจออาจารย์ สมัยนั้นอาจารย์ยังเป็นพระ พอทราบว่าอาจารย์ลาสิกขา ก็เฝ้าติดตามอยู่ตลอด ขอเบอร์โทร. พยามยามติดต่ออาจารย์.... ติดบ้างไม่ติดบ้าง.... มาทราบอีกคราวว่าอาจารย์แต่งงานแล้วและทำงานอยู่สำนักนายก... (ไม่กล้ารบกวน)
จวบจนเมื่อประมาณปลายเดือน เมษายน ที่ผ่านมา มีโอกาสได้ทักทายอาจารย์โดยบังเิอิญ ทาง facebook และได้รับโอกาสช่วยงานอาจารย์อยู่บ้าง... ถอดเทปเสียง... และได้คุยกันทางโทรศัพย์อยู่ประปราย
กระทั่งเมื่อช่วงกลางเดือน มิถุนายน จนถึงเดือน กรกฎาคม (หากจำไม่ผิดน่าจะเป็นวันที่ 10 มีโอกาสนัดเจอกับอาจารย์ แถวมาบุญคลอง กรุงเทพ ฯ แต่น่าเสียดายที่วันนั้นอาจารย์งานยุ่ง แวะมาหาศิษย์ไม่ได้ ฝากแต่เสียงผ่านโทรศัพย์มาว่า "...ไพรวัลย์... ผมไปพบไม่ได้... ยังเสร็จธุระเลย...ฝากดูแล สมคิด (คือคนทำงาน NGOs ) คนที่อาจารย์นัดไว้อีกคน..." ผมตอบกลับอาจารย์เพื่อให้หายเป็นห่วงว่า "ไม่เป็นไรครับ อาจารย์ไม่ต้องห่วง ผมจะดูแลสมคิด..เองครับ"
จากวันนั้น ผมไม่มีโอกาสได้คุยกับอาจารย์อีกเลย จนเมื่อช่วงสายของวันที่ 18 กรฎาคม ถึงได้รับรู้ว่าอาจารย์ได้จากผมไปแล้ว.... ความรู้สึกผมคงไม่ต่างไรกับ อาจารย์ อิง.. มากนักหรอกครับ วันนี้หากย้อนเวลาได้ผมคงไปหาอาจารย์แต่แรก... ในช่วงที่อาจารย์ว่าง แต่ก็นั่นแหละนะ ตั้งสมัยเป็นพระผมก็เห็นอาจารย์ต้องทำงานแข่งกับเวลาตลอด.... หลับให้สบายครับอาจารย์...