ข้าวเจ้าหอมมะลิ พันธุ์สุรินทร์ 1 ที่ดิฉันเลือกพันธุ์นี้เพราะเป็นพันธุ์เตี้ย ผลผลิตดี และไม่ล้มช่วงก่อนเก็บเกี่ยว(เพราะต้นมันเตี้ย)
ข้าวเหนียว พันธุ์ กข.6 ซึ่งเป็นที่นิยมของชาวนาท้องทุ่งแถบนี้ทั้งนิยมปลูกและกิน
และอีกสายพันธุ์อยู่ระหว่างการทดลองปลูก คือ กข.16 เป็นข้าวเหนียว ซึ่งต่อไปคิดว่าจะมาแทนที่ กข.6 โดยได้รับเมล็ดพันธุ์ทดลองมาจาก อาจารย์พรชัย เตจ๊ะ เจ้าหน้าที่เกษตรชำนาญการ จากศูนย์วิจัยข้าวสันป่าตอง ที่กรุณาแบ่งเมล็ดพันธุ์มาให้
การคัดเมล็ดพันธุ์ของดิฉันเป็นการคัดแบบชาวบ้านนะค่ะไม่ใช่ตามหลักวิชาการหรือ ตามหลักที่ถูกต้อง เพียงแต่บรรพบุรุษทำตามกันมา และก็ทำตามกันไปเพราะยังได้ผลดีอยู่นะค่ะ(ผู้รู้จริงอ่านแล้วเชิญหัวเราะได้เลยค่ะ และช่วยแนะนำวิธีที่ถูกต้องและเหมาะสมด้วยค่ะ ฮิ ฮิ ขอหัวเราะทีหลังนะค่ะ)
เมล็ดพันธุ์ข้าวเปลือกที่คัดไว้ช่วงเก็บเกี่ยว ผสมน้ำธรรมชาติกับเกลือใส่ไข่ไก่
ให้ไข่ไก่ลอยน้ำ 2/3 ฟอง นับว่าใช้ได้
เทเมล็ดพันธุ์ข้าวลงในน้ำเกลือ คลุกเคล้าให้เข้ากัน
ตักเมล็ดข้าวที่ลอยน้ำออกแยกไว้ตากหาก (ใช้ไม่ได้) และ ตักเมล็ดข้าวที่จมน้ำแยกใส่กระสอบไว้
เมล็ดข้าวจมน้ำ คือ เมล็ดข้าวที่สมบูรณ์นำไปหว่านต่อไป
หลังจากที่ได้เมล็ดพันธุ์ข้าวแล้ว เราจะใส่กระสอบมัดปากกระสอบให้แน่นและนำไปแช่น้ำ 2 คืน หลังจากนั้น นำขึ้นมาวางบนบกอีก 2 คืน เช้าต่อมานำไปหว่านได้เลยค่ะ ในระหว่างรอเมล็ดพันธุ์ข้าวที่แช่ไว้ เราไปเตรียมแปลงหว่านต้นกล้ากันก่อนเลยค่ะ
การเตรียมแปลงนับว่ามีความสำคัญเป็นรายการต่อมาทีเดียว เพราะต้นกล้าจะถอนยากหรือง่ายก็ขึ้นอยู่กับการเตรียมแปลง ไปดูกันเลยนะค่ะ
น้ำเข้านาให้เต็มแปลงที่เราจะเตรียมดิน และ ไถ เนื่องจากแปลงนามีการไถพรวนไว้แล้ว จึงไถคลาดเลย ไม่ต้องไถดะ ดินร่วนซุยอยู่แล้ว
ไถไป-มา จนดินเป็นโคลนตมแบบนี้ อ้าว..น้องปู..มาทำอะไรอยู่แถวนี้จ๊ะ
ยกร่อง ขึ้นแปลง เพื่อกันไม่ให้น้ำท่วมถึง โดยขึ้นแปลงให้มีขนาดใกล้เคียงกันที่สุด
ขึ้นแปลงเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาตกแต่งหน้าแปลงให้มีความเรียบโดยตัดไม้ไผ่ให้มีขนาดเหมาะสมที่จะทำงานง่าย ใช้จอบสับ แล้วใช้ตกแต่งให้แปลงเรียบ
แปลงที่เรียบร้อยสวยงามพร้อมหว่านต้นกล้า
ก่อนการหว่านต้นกล้าเราต้องปิดน้ำไม่ให้เข้าแปลงนาและปล่อยน้ำออกจากท้องร่องให้หมดก่อนและทิ้งให้แปลงแข็งตัวเล็กน้อย เมล็ดพันธุ์ข้าวที่หว่านลงไปจะได้ไม่จมดิน
เมล็ดพันธุ์ข้าวที่เตรียมไว้ ออกรากงอกพร้อมหว่านแล้ว
น้ามูน นำกระทงดอกไม้ ธูป เทียน มาบอกกล่าวแก่เจ้าที่ให้ช่วยดูแลรักษาต้นกล้า
ได้เวลาหว่านต้นกล้าแล้ว การหว่านต้องหว่านจากหัวแปลงไปท้ายแปลง และหว่านให้ความห่างสม่ำเสมอกัน
การหว่านต้นกล้าของเราก็เสร็จสมบูรณ์ ต่อไปก็รอวันต้นเติบโต จนมีอายุครบ 1 เดือน จึงนำไปปลูกในแปลงนา ระหว่างนี้เราก็มาไถนาและเตรียมดินสำหรับปลูกต้นกล้าต่อไป
โปรดติดตามตอนต่อไป
คุณบัวชมพู
นำเสนอได้แบบชวนติดตามมากๆครับ
เพิ่มเติม ไม่รู้ว่าตอนปักดำ จะดำแบบสุ่ม หรือ กำหนดระยะปักดำ ครับ (ใช้ marker หรือหมุดเชือก)
http://www.gotoknow.org/blog/supersup300/411482
จะได้ส่ง rotary weeder ไปช่วยเก็บงานวัชพืช ในร่อง(สำหรับร่องปักดำ 30 เซน)
http://www.gotoknow.org/blog/supersup300/446778
และควบคุมน้ำได้ ก็เหมาะมากกับวิธีการ "เเกล้งข้าว" ข้าวไม่ล้ม รากเเข็งแรง แมลงไม่กวน ครับ
http://www.gotoknow.org/blog/supersup300/436181
http://www.youtube.com/watch?v=R-4drqwGh8s
หรือจะเป็น "เเหนเเดง" สำหรับช่วยตรึงไนโตรเจน ปิดหน้าดิน หลังการปักดำ
http://www.youtube.com/watch?v=Kq-czjYlZV8
ถ้าครบวงจรก็เพิ่มเป็ดลงไปจัดการอีกทีมหนึ่งครับ ได้หลายอย่างครับ
http://www.youtube.com/watch?v=ZuhV2_w1BjU&feature=related
หรือถ้ายังไม่หมดก็ซ้ำด้วย เจ้า นี่อีกทีครับ
http://www.youtube.com/watch?v=l8B1kxljI5A&feature=related
มีโอกาสขอเยี่ยมชมที่เเปลงนาครับ หรือผ่านมานครสวรรค์ก็เรียนเชิญครับ
ตื่นเต้น....เห็นภาพแล้วเหมือนได้ไปทำนาจริงๆ ค่ะ
รีบไปอ่านหน้าต่อไป ขอบคุณค่ะ
เพิ่มเติมครับ
เผื่อเป็นประโยชน์ในการปรับใช้ ให้เหมาะสมกับพื้นที่ และความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ศักยภาพของข้าว เพื่อการเพิ่มผลิตข้าว
รูปแบบเเปลงนาของคุณบัวชมพูก็คล้ายๆกับที่ใน งานนำเสนอ ของ world bank ครับ
จากบันทึกนี้ครับ
http://www.gotoknow.org/blog/supersup300/405066
ลองศึกษาดูครับ แล้วมาเเลกเปลี่ยนกัน
แค่ชื่อก็น่ารักแล้วค่ะ ยิ่งตามมาดูกรรมวิธีการลือกเมล็ดพันธุ์ข้าว เเละ การเพาะกล้าแบบชาวบ้านที่ชาญฉลาด ก็ยิ่งเห็นความน่ารักถ่อมตัวของคนที่ทั้งเก่งและฉลาดแบบนี้แล้ว อาม่ายิ้มแก้มตุ่ยเลยค่ะ คงมาเป็นแฟนตัวจริงเสียที่พร้อมติดตามมาเชียร์ต่อไปค่ะ