สนุกกับการเรียนภาษาอังกฤษ : โดยใช้กิจกรรมนักวิจัยรุ่นเยาว์
การจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการเรื่อง
" แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น "
*ขจิต ฝอยทอง
โรงเรียนหนองรีประชานิมิต อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี เป็นโรงเรียนมัธยมศึกษา ขนาดกลาง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา กาญจนบุรี เขต 2 โรงเรียนตั้งอยู่ในชนบทห่างไกลจากตัวเมืองมาก ผู้ปกครองนักเรียนประกอบอาชีพเกษตรกรรม มีฐานะยากจนนักเรียนส่วนใหญ่ขาดแรงจูงใจในวิชาภาษาอังกฤษและวิชาอื่นๆเป็นอย่างมาก จากพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ( ฉบับที่ 2 ) พ.ศ.2545 มาตรา 24 ( 5 ) กล่าวว่าให้สถานศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้สอนสมารถจัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อม สื่อการเรียน และอำนวยความสะดวกเพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และมีความรอบรู้ รวมทั้งสามารถใช้การวิจัยเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ ทั้งนี้ผู้เรียนและผู้สอนอาจเรียนรู้ไปพร้อมกันจากสื่อการเรียนการสอนและแหล่งวิทยาการประเภทต่างๆ ผู้เขียนจึงจัดทำแผนแบบบูรณาการเรื่อง " แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น " ขึ้นเพื่อให้นักเรียนได้ศึกษาจากแหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาในท้องถิ่น โดยใช้กระบวนการวิจัย กิจกรรมนักวิจัยรุ่นเยาว์นี้จะส่งเสริมให้นักเรียนมีแรงจูงใจในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษและวิชาต่างๆได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนรู้จากเรื่องใกล้ตัว และได้ฝึกปฏิบัติจากประสบการณ์จริง
แผนการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการเรื่อง " แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น " ของนักเรียนระดับช่วงชั้นที่ 4 ( ม.4-ม.6 ) โดยใช้กิจกรรมนักวิจัยรุ่นเยาว์นี้ จะเน้นที่การเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษเป็นหลัก แล้วทำการบูรณาการเนื้อหาการเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้เริ่มจากให้นักเรียนเลือกหัวข้อที่นักเรียนต้องการศึกษา และศึกษากระบวนการวิจัย คือ 1. ปัญหาการวิจัย 2. วัตถุประสงค์การวิจัย 3. สมมุติฐานการวิจัย 4. ขอบเขตการวิจัย 5. การดำเนินการวิจัย 6. สรุปและอภิปรายผลการวิจัย นักเรียนแบ่งกลุ่มๆละ 5-8 คน เพื่อเขียนเค้าโครงการวิจัย ครูคอยกระตุ้นความสนใจนักเรียนโดยถามคำถามเกี่ยวกับแหล่งการเรียนรู้ การพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมในท้องถิ่น เช่น ถามว่าถ้าต้องการเพิ่มผลผลิตสับปะรดโดยไม่ใส่ปุ๋ยเคมี นักเรียนว่านักเรียนจะทำอย่างไร หรืออาจถามว่าหมู่บ้านนักเรียนมีไก่กี่สายพันธุ์ เป็นต้น ตรงส่วนของการวิจัยนี้นักเรียนอาจเขียนวิจัยเชิงสำรวจหรือวิจัยเชิงทดลองก็ได้ หลังจากนั้นให้นักเรียนเขียนเค้าโครงวิจัยว่ากลุ่มของนักเรียนเขียนปัญหาการวิจัยว่าอย่างไร มีวัตถุประสงค์การวิจัยอย่างไร ตั้งสมมุติฐานการวิจัยว่าอย่างไร มีขอบเขตการวิจัยแค่ไหน การดำเนินการวิจัยทำอย่างไร และสุดท้ายเมื่อดำเนินการแล้วจะสรุปและอภิปรายผลการวิจัยว่าอย่างไร นักเรียนแต่ละกลุ่มเขียนเค้าโครงวิจัยเป็นภาษาอังกฤษ นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอ นักเรียนและครูช่วยกันซักถามในประเด็นที่ยังสงสัยเพื่อให้เกิดการเข้าใจที่ชัดเจน หลังจากนั้นครูและนักเรียนช่วยกันประสานงานเพื่อติดต่อกับแหล่งเรียนรู้เพื่อให้นักเรียนเข้าไปศึกษาจากแหล่งเรียนโดยใช้กระบวนการวิจัย นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาจากแหล่งเรียนรู้ตามที่นักเรียนเขียนไว้ในเค้าโครงวิจัย นักเรียนกลับมาเขียนรายงานวิจัยของกลุ่มตนโดยดำเนินการในรูปแบบโปสเตอร์ ( Poster ) เพื่อเตรียมนำเสนอผลงานวิจัยให้เพื่อฟัง นักเรียนแต่ละกลุ่มประเมินผลงานของกลุ่มตนเอง หลังจากนั้นนักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอหน้าชั้น นักเรียนแต่ละกลุ่มประเมินผลงานของเพื่อน หลังจากนั้นนักเรียนนำผลงานของตนเองไปให้ผู้ปกครองประเมิน ครูประเมินผลงานวิจัยของนักเรียน " แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น "
จากการดำเนินการจัดแผนการเรียนรู้แบบบูรณาการเรื่อง " แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น "โดยใช้กิจกรรมนักวิจัยรุ่นเยาว์ สามารถบูรณาการเนื้อหาวิชาการต่างๆได้ดังนี้
แผนผังการจัดแผนการเรียนรู้แบบบูรณาการเรื่อง
สาระการเรียนรู้ |
การบูรณาการการเรียนรู้ |
ภาษาไทย |
การเขียนเค้าโครงวิจัยเป็นภาษาไทย การศึกษาเกี่ยวกับเรื่อง ภาษาถิ่น วรรณคดีในท้องถิ่น |
คณิตศาสตร์ |
การคำนวณเกี่ยวรายได้ในแหล่งเรียนรู้ การคำนวณรายรับ-รายจ่ายในการประกอบอาชีพ การหาค่าเฉลี่ยในการดำเนินการวิจัย |
วิทยาศาสตร์ |
สิ่งแวดล้อมในแหล่งเรียนรู้ การศึกษาเรื่องดาราศาสตร์ในหอดูดาวเกิดแก้ว การสำรวจพันธุ์พืชและสัตว์ในอุทยานแห่งชาติ |
ศิลปะ |
การออกแบบโปสเตอร์ การจัดภาพประกอบ การถ่ายภาพประกอบ การใช้เทคนิคสี |
สาระการเรียนรู้ |
การบูรณาการการเรียนรู้ |
การงานอาชีพและเทคโนโลยี |
การศึกษาเกี่ยวกับอาชีพเกษตรกรรม เช่น ฟาร์มไก่ ไร่สับปะรด นาข้าว การใช้อินเทอร์เน็ตค้นคว้าข้อมูล ภูมิปัญญาเกี่ยวกับอาชีพในท้องถิ่น |
สังคมศึกษา ศาสนาและ วัฒนธรรม |
การศึกษาเกี่ยวกับขนบธรรมเนียมประเพณีในท้องถิ่น การศึกษาเกี่ยวกับความเชื่อ การแต่งกายของชาวไทยทรงดำใน ท้องถิ่น |
ภาษาต่างประเทศ |
คำศัพท์เกี่ยวกับแหล่งเรียนรู้ อาชีพ คำศัพท์เกี่ยวกับการวิจัย การเขียนผลงานเพื่อนำเสนอเป็นภาษาอังกฤษ |
สุขศึกษาและ พละศึกษา |
การศึกษาว่าในสับปะรดมีสารอาหารชนิดใดบ้าง การศึกษาว่าพืชชนิดต่างๆในแหล่งเรียนรู้ว่าให้สารอาหารชนิดใด |
จากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ดังกล่าวข้างต้น เป็นผลให้นักเรียนเกิดแรงจูงใจในการเรียน มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษและวิชาอื่นๆได้เป็นอย่างดี เพราะนักเรียนได้ศึกษาเรื่องที่อยู่ใกล้ตัว สิ่งสำคัญที่สุดคือนักเรียนรู้จักค้นคว้าหาความรู้และสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง อาจารย์หมอประเวศ วะสี กล่าวไว้ในหนังสือ พุทธธรรมกับสังคม ว่า "การศึกษาจากการร่วมลงมือปฏิบัติจริงๆ นอกจากจะหัดให้คนทำเป็น คิดเป็น แล้วยังปลูกฝังการทำงานเป็นหมู่คณะ ไม่ใช่ต่างคนต่างท่องเพื่อว่าใครจะได้คะแนนดีกว่ากัน ซึ่งเป็นการส่งเสริมความเห็นแก่ตัว ควรใช้การศึกษาเป็นเครื่องมือพัฒนานิสัยที่ดีงามเช่น ความรับผิดชอบต่อส่วนรวม การรักษาความสะอาดของที่สาธารณะ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ฯลฯ จากการปฏิบัติจริงไม่ใช่ท่องเอาคะแนน" นอกจากนี้ยังเป็นผลให้ผู้สอนเกิดการเรียนรู้ไปพร้อมกับนักเรียนด้วย เพราะบางเรื่องเป็นเรื่องเกี่ยวกับสิ่งที่มีอยู่ชุมชนเช่น เรื่องพันธุ์ข้าวในชุมชน เรื่องของไทยทรงดำ ( ไทยโซ่ง ) เป็นต้น จากการดำเนินการจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการเรื่อง " แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น "โดยใช้กิจกรรมนักวิจัยรุ่นเยาว์เป็นผลให้บทเรียนไม่น่าเบื่อหน่าย
* นายขจิต ฝอยทองนักศึกษาปริญญาเอกภาษาอังกฤษศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
นักศึกษาทุนพัฒนาอาจารย์สาขาขาดแคลนจากคณะศิลปศาตร์และวิทยาศาสตร์
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน
ผมคิดว่า ผู้ที่ทำกิจกรรมเป็นกระบวนการแบบเดียวกับกระบวนการวิจัยเชิงประจักษ์ นั้น แสดงว่า ผู้นั้น มีกิจกรรมแบบวิทยาศาสตร์ หรือ มีพฤติกรรมวิทยาศาสตร์ ทั้งนี้ก็เพราะว่า กระบวนการวิทยาศาสตร์กับกระบวนการวิจัยเชิงประจักษ์สอดคล้องกัน แต่ที่น่าทึ่งก็คือ คุณขจิตได้นำมาใช้กับการสอนภาษา ผมคิดว่า หากครูได้ให้ความสำคัญกับพฤติกรรมวิทยาศาสตร์อย่างกว้างขวางแล้ว คำว่า ผู้เรียนเป็ศูนย์กลาง หรือพูดใหม่ว่าผู้เรียนสำคัญที่สุดนั้น จะบรรลุเป้าหมายได้ในเร็ววัน
และก็ขอขอบตุณมากที่ได้เชิญเข้าร่วมชุมชน ครับ
คุณ "ขจิต"
ได้อ่านแล้วรู้สึกชอบจังค่ะ ทำให้มองเห็นแนวการสอนที่เยี่ยมยอด ดีใจจังที่ได้รู้จัก "คุณ ขจิต" ยอดเยี่ยมจริง ๆ ค่ะ นี่กระมังคะถึงเรียกว่า "การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่แท้จริง"
ขอบคุณอีกครั้งสำหรับสิ่งดี ๆ ที่มีให้กันตลอดมา
ครูกาญจน์มัวแต่ยุ่งงานในพื้นที่ ไม่ได้มาเปิดบล๊อกดูเลย วันนี้วันจันทร์เข้าในสำนักงานเปิดบล๊อกดู เห็นคุณขจิต ฝอยทองกรุณาส่งองค์ความรู้ให้ ครูกาญจน์ขอบคุณมาก ถ้าคุณขจิต อยู่นครศรี ครูกาญจน์จะเชิญเป็นวิทยากรให้นักศึกษา กศน. ไม่ทราบว่าจะได้ไม่ค๊ะ
โห...พลาด blog ดีดีแบบนี้ได้ไง ขอบพระคุณค่ะ
ครูกาญจน์ภาคภูมิใจเพื่อนชาวบล๊อกจริง ๆ ที่มีใจอาสาฯอย่างนี้ โดยเฉพาะคุณขจิต ฝอยทอง ครูกาญจน์ต้องขอขอบคุณล่วงหน้า ถ้าต้องการให้ท่านช่วยวันไหน ครูกาญจน์จะรอวันท่านว่างน๊ะค๊ะ เดือนตุลาคมช่วงนี้ นักศึกษาปิดภาคเรียนค่ะ เปิดเรียนเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ท่ายคงว่างบ้าง หวังว่าคงได้เจอกันที่ กศน.น๊ะค๊ะ
ผมต้องไปต่างประเทศ 1 ปีครับอาจารย์ ไปประมาณกันยายน 2550 ขอบคุณครับ
"Real Love are not for Love somebody, It for Everybody & Nobody”
สุขสันต์วันแห่งครอบครัวครับ
รักคุณบุญรักษา ^^
ดิฉันสนใจการวิจัยเกี่ยวกับการเรียนการสอนภาษาอังกฤษมากค่ะและอยากจะศึกษาวิธีการทำงานวืจัยค่ะ
ลองค้นดูจากสารบัญนะครับ มีหลายเรื่องเลยครับ
สวัสดีค่ะ
อยากได้ตัวอย่างแผนการสอนโครงงานที่เกี่ยวข้องกับอาชีพในท้องถิ่นและตัวอย่างแบบฝึกหัดโครงงานที่เกี่ยวข้องในทักษะภาษาอังกฤษ
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ
หนิง
ผมเด็กชายวุฒิกุล
รบกวนขอE-Mail อาจารย์หน่อยครับ
ขอบคุณนะค่ะที่ทำให้เราได้อ่านสาระดีดีและตอนนี้ก้อได้แนวทางในการทำวิทยานิพนแล้วค่ะ
มาเป็นนักเรียนเช้านี้สดชื่น
มาเติมพลังให้ตัวเองค่ะ
ขอบคุณค่ะ
อยากทราบคำว่าแหล่งเรียน ในคำศัพท์ภาษาอังกฤษอ่านว่าอะไรค่ะ
แวะมาทักทายค่ะ
กระบวนการวิจัยเชิงประจักษ์ ที่ดร.ไสวกล่าวข้างต้น
น่าสนใจเรียนรูจริงๆ รบกวนน้องอ.ขจิต ช่วยบอกแหล่งเรียนรู้ให้ที
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ
อ่านแล้วรู้สึกสนใจแล้วรู้สึกว่าได้ความรู้มากมาย
ตอนนี้ดิฉันกำลังกลุ้มใจในการสอนวิชาภาษาอังกฤษ
เพราะในปีการศึกษาที่แล้วได้ทำ
การสอนในระดับประถมศึกษา
แต่ในปีการศึกษานี้ได้ขึ้นมาสอนในระดับมัธยม
ซึ้งพอได้อ่านงานที่มีประโยชน์เหล่านี้
รู้สึกอยากลองสอนนักเรียนในการทำ
โครงการภาษาอังกฤษ
จึงอยากจะขอตัวอย่างโครงงานจากอาจารย์ค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ตอนนี้มีปัญหาเรื่องการสอนแบบโครงงานให้นักเรียน ระดับ ม ปลายค่ะ หลังจากไปอบรมมาบ้าง แต่ก็ยังไม่เข้าใจมากนัก เพราะไม่เห็นเป็นรูปธรรม อยากรบกวนขอ ตัวอย่างโครงงานภาษาอังกฤษ ม ปลาย สัก ๒ ๓ ตัวอย่าง เพื่อให้เห็นเป็นรูปธรรมทีชัดเชดขึ้น จะได้มั่นใจว่าที่เข้าใจนั้น ถูกหรือไม่ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
กรุณา ตอบกลับ [email protected]