หนังทีวีหลายเรื่องมีบทที่ตัวละครใช้คำพูดว่า “Get out!” หรือ “Get out of here!”
บางเรื่องใช้คำแปลที่ราบรื่นไปกับเนื้อหา ใครไม่ได้ฟังภาษาอังกฤษก็คงไม่สะดุดอะไร แต่บางเรื่องแปลแล้วคนดูอาจงงว่า ก็คุยกันอยู่ดีๆ ไหงไล่เพื่อนว่า “ไปให้พ้น” เอ๊ะ..ไล่จริงหรือไล่เล่นๆ หว่า?!
เวลาเราได้ยินใครพูดว่า Get out หรือ Get out of here ด้วยน้ำเสียงจริงจัง ดุดัน หรือแข็งกร้าว ก็รีบพาตัวเองไปให้พ้นหน้าคนผู้นั้นได้เลยค่ะ เพราะถูกไล่แน่ๆ
แต่ถ้าคำๆนี้ได้ยินโดยผู้พูดมีน้ำเสียงธรรมดา เจือหัวเราะ แกมเอ็นดู มีสีหน้าอมยิ้ม หรืออะไรทำนองนี้ เราไม่ได้ถูกไล่หรอกนะคะ
เราคงต้องทำอะไรสักอย่างให้เพื่อนหรืออีกฝ่ายประหลาดใจ พิศวงงงวย หรือคาดไม่ถึง จนต้องพูดคำนั้นออกมา หรือไม่อีกที เราก็คงพูดอะไรที่เว่อมากจนทำให้เพื่อนไม่เชื่อหรือไม่เห็นด้วย
ซึ่งคำแปลในลักษณะอย่างนี้ มีให้เลือกใช้ได้หลายความหมาย และหลากอารมณ์ค่ะ สร้างความสับสนให้คนฟังได้ง่าย หากไม่ดูบริบท น้ำเสียง และท่าทางของผู้พูดประกอบด้วย เช่น
“ไม่น่าเชื่อเลย (แต่เชื่อ)”
“โอ้โห คิดไม่ถึง”
“อะไรกัน แทบไม่เชื่อสายตาเลยนะนี่”
“พูดเป็นเล่นไปน่า”
“โม้หรือเปล่าวะ”
“ว้าว สุดยอด”
“เหลวไหลน่า”
“ไร้สาระ” ฯลฯ
อย่างในหนังเรื่อง CSI: New York ที่ป้าเจี๊ยบชอบดูมากๆ มีอยู่ตอนหนึ่งซึ่งฉากสุดท้ายนักสืบสาวพานักสืบหนุ่มไปที่บาร์แห่งหนึ่ง บอกว่ามีของที่จะทำให้ฝ่ายชายประหลาดใจ ฝ่ายชายก็คิดไปต่างๆ นานาเพราะมีใจให้ฝ่ายหญิงอยู่แล้ว แต่กลายเป็นว่าฝ่ายหญิงพามาดูนักดนตรีที่เล่นกีตาร์อยู่บนเวที ซึ่งคนๆนั้นคือหัวหน้านักสืบค่ะ ทันทีที่เห็น นักสืบหนุ่มก็พูดว่า “Get out of here”
ในที่นี้ฝ่ายชายไม่ได้ไล่ฝ่ายหญิงหรือชวนกันออกจากบาร์หรอกนะคะ แต่เป็น”คำอุทาน” ด้วยความประหลาดใจ เพราะคาดไม่ถึงที่เห็นหัวหน้าของตนในสถานการณ์เช่นนี้ ทำนองว่า “ว้าว! แทบไม่เชื่อสายตาเลยนะนี่”
ฉะนั้น เวลาได้ยินใครบอกกับเราว่า Get out หรือ Get out of here ต้องฟังดีๆ นะคะว่าเป็นการไล่หรือเปล่า จะได้ปฏิบัติตัวได้ถูก
และถ้าเจอใครหรืออะไรที่ทำให้แปลกใจ ตกตะลึงพรึงเพริด ก็อย่าลืมอุทานว่า “Get out” หรือ “Get out of here” บ้างนะคะ จะได้ร่วมสมัยกันหน่อย..
คิดไม่ถึงเลย เคยได้ยิน แต่ก็ไม่เข้าใจ
อุ๊บลืม ต้องพูดว่า get out
ขอบคุณค่ะ
get out มีอีกความหมายว่าแปลว่าเป็นที่รู้กัน ครับ(ลองเปิด dict ดู ) และยังมีอีกมากมายหลายความหมายครับ
If this get out there will be trouble.
ลืมเติม s ที่ gets ต้องขอโทษด้วยครับ
สวัสดีค่ะ
มาเยี่ยมป้าเจี๊ยบค่ะ ได้ความรู้ด้วย
ช่ายแล้วค่า วันก่อนป้าพึ่งพูดให้ฟัง ประมาณว่าเราหยอกแก แล้วแกก็บอก get out of here
หวัดดีค่ะ...ป้าเจี๊ยบ
แหววตามมาเรียนรู้ภาษาอังกิด..ของป้าเจี๊ยบค่ะ ...ปกติเรื่องนี้แหววอ่อนแอ..มากๆ ตอนเด็กๆ ต่อต้านภาษาต่างถิ่นมากไปหน่อย..อิ..อิ... ขอบคุณป้าเจี๊ยบนะคะ เรียนแบบนี้สนุกดีค่ะ ได้ความรู้เพิ่มขึ้นมาอีกแล้ว...ว... คิดถึงป้าเจี๊ยบนะคะ..
สวัสดีค่ะ ป้าเจี๊ยบ คือหนู ได้ทำงาน เกี่ยวกับวิชาอังกฤษ ครูให้หา เกือบ 30 บทความ แนะค่ะ เป็นการเขียนแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ การใช้ภาษาอังกฤษ ผิด ๆ ถูก ๆ แบบเนี้ยล่ะค่ะ อาจจะเป็นสำนวน รึการใช้ก้อได้ แบบที่ป้า เขียนเลยค่ะ ยาวๆๆ แบบนี้กะลังดี ตรงตามงานที่ครูต้องการเปะเลย
จะเป็นความกรุณาและขอบคุณมากๆ เลยน่ะค่ะ ที่คุณป้าเจี๊ยบ จะกรุณาอัพ บ่อยๆๆๆ จนถึง 30 บทความ เร็วๆๆ
หนูจะลองเปิดดุสะสมไปเรื่อยๆๆๆ และขอให้ป้าอัพ บทความดีดี แบบนี้อีกน่ะค่ะ
................................................................................
งั้นขอเป็นเพลง Get บ้างนะค่ะ
ก้อเทอ Get into เบนซ์ ( into เบนซ์)
ส่วนฉัน Get on รถเมล์ ( on รถเมล์)
รักเรามันจึงรวนเร เหมือนใจ Get lost หลงทาง
ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ
kloy_kajoy @hotmail.com เมล์หนูค่ะ
ตอนสมัยก่อนตอนที่แผ่น DVD บ้านเรายังไม่แพร่หลาย ผมเคยซื้อแผ่น DVD มาดูแต่มันเป็นแผ่นกอปปี้ครับ (ขออภัยท่านเจ้าของหนังตอนนั้นมันหาของแท้ไม่ได้จริงๆ) โอ้โหแปลซะเสียหนังเลยครับ เรียกว่าจะดูหนังไม่รู้เรื่องก็เพราะคำบรรยายเนี่ยล่ะครับ โชคดีที่เดี๋ยวนี้แผ่นแท้ให้เลือกมากขึ้นแถมราคาถูกลงด้วย
ได้พบเรื่องราวและสาระดีๆเกี่ยวกับเกร็ดความรู้ภาษา "อังกิด"อ่านแล้วชอบมากค่ะ
เขียนได้สนุกกว่าครูเคทอีกค่ะ..เพลง Should I tie a yellow ribon around the old oak tree? ทำให้ย้อนรำลึกถึงความทรงจำเมื่อเรียนอยู่ชั้นม.3 อาจารย์พัชรี ครูภาษาอังกฤษเคยสอน..ชอบมากและไม่เคนลืม..และเดี่ยวนี้เพียงหลับตาลงก็ให้นึกถึง..ป่าโอ๊ค..ทุกต้นถูกผูกด้วยริบบิ้นสีเหลือง..และอีกเพลงค่ะ..เรื่องราวของลูกกำพร้า..เพลงของAgnes Chan.. เพลงNobody child..ไงคะ ป้าเจี๊ยบ...ขอบคุณหลายเด๊อ..
you're welcome คุณอัญชลิกา