สนามหลวง .. เมื่อต่างคิดว่า ต่างทำมาหากิน ???


“ไปเสียค่าที่มาแล้ว วันนี้ ก็ สบาย ขายได้ ไม่ต้องกังวล อย่างว่า เข้าใจ ต่างคนต่างทำมาหากิน ???” ...

.........ยามค่ำคืนของสนามหลวงและคลองหลอดวันนี้ก็คล้าย ๆ กับทุก ๆ วันที่ผ่านมา แต่อากาศอาจจะเหน็บหนาวกว่าวันก่อน ๆ ลงไปนิด อันเนื่องมาจากฝนเพิ่งซาเม็ดลงไป ผู้คนที่เดินทางผ่านไปมาในสนามหลวงก็ยังจอแจอยู่คละเคล้ากับ ฅนสนามหลวง ที่ทำมาหากินอยู่ในสนามหลวงเฉกเช่นทุกวันที่ผ่านมา.........

 

                กว่าขวบปีที่ สมาคมสร้างสรรค์กิจกรรมอิสรชน เข้าทำงานในพื้นที่สนามหลวงอย่างเต็มตัว สร้างความคุ้นเคย และศึกษาเรียนรู้ชีวิตความเป็นอยู่ของ ฅนสนามหลวงอย่างเจาะลึก จน เรียกได้ว่า หากวินาทีนี้ใครต้องการทราบข้อมูลลึก ๆ ของสนามหลวงต้องถาม อิสรชน ...

                การทำงานในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยจะเหมือนชาวบ้านเขาทำกันนั้น จะถือได้ว่าเป้นจุดแข็งในการทำงานของอิสรชนอย่างหนึ่งก็เห็นจะไม่ผิด เพราะเราทำงานในช่วงเวลาที่คนอื่น เขากลับเข้าบ้าน บางคนหยอกล้อมีความสุขกับครอบครัว บางคนก็พักผ่อนนอนหลับหลังจากที่ทำงานในช่วงกลางวันมาทั้งวัน แต่ อิสรชน ในช่วงกลางวัน เรา นั่งทำงานเอกสารบ้าง ทำงานอื่น ๆ ที่ ไม่หนักจนเกินไป และจากนั้น เมื่อชีวิตกลางคืนเริ่มเข้าสู่การเริ่มต้น อิสรชน ก็ จะออกไปพบปะกับ ฅนสนามหลวงที่ส่วนมากจะใช้ช่วงเวลากลางคืนทำมาหากิน ในหลากหลายสาขาอาชีพดั่งที่เคนเล่าให้ฟังไปบ้างแล้ว...

                วันก่อน มีโอกาสได้ไปพบปะกับสถานการณ์เดิม ๆ ที่ เริ่มจะ คุ้นชินมากพอสมควร กับการที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม ออกตระเวณกวดจับผู้ค้าบริการบริเวณรอบสนามหลวง ริมคลองหลอดและสวนหย่อมพระแม่ธรณีบีบมวยผม ที่ จากเดิม หญิงสาวที่อยู่ในละแวกนั้น จะวิ่งหนีกันเป็นพลวัน มาเดี๋ยวนี้ พอเห็นตำรวจขับรถกระบะ ขับรถจักรยานยนต์ ซ้อนท้ายกันมาหลาย ๆ คัน มาเป็น เดิน มาที่รถ และ ขึ้น ท้ายกระบะ ไปที่ สถานีตำรวจอย่างเต็มใจ วัน ๆ นึง สองสามเที่ยว ไม่นาน ก็ กลับมา อยู่ในบริเวณเดิมอีก  พร้อมกับ คำพูดเสียดสีประชดประชัน ที่ ฟังแล้วไม่รู้จะสะใจหรือ สลดใจดีว่า .. ไปเสียค่าที่มาแล้ว วันนี้ ก็ สบาย ขายได้ ไม่ต้องกังวล อย่างว่า เข้าใจ ต่างคนต่างทำมาหากิน ??? ... อยากจะให้ตำรวจมาได้ยินกับหูเสียจริง

                เราในฐานะคนทำงานในพื้นที่ ก็ ต้องตามอธิบาย ให้พวกเธอฟัง จะเข้าใจหรือไม่เข้าใจนั้น คงเป็นเรื่องที่ไม่สามารถคาดเดาได้ แต่ที่แน่ ๆ ตำรวจ สน.นี้ ก็ ได้รับการมองอย่างเอื้ออาทร จาก ผู้หญิงขายบริการ ในบริเวณนี้ไปแล้ว ล่ะว่า เข้าใจต่างคนต่างทำมาหากิน ??? เป็นผม นะ ผม คงสะอึก ไม่น้อย ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ เพราะจากคำบอกเล่า ของ ผู้หญิงละแวกนั้น เธอบอกว่า ปรับครั้งนึงต่อคน ก็ 500 บาท วันที่ไปเจอ เห็นขึ้นรถไป ราว ๆ เที่ยวละ 10 คน 3 เที่ยว ถ้า ปรับเต็มจำนวนตามที่ เธอ ๆ ทั้งหลายบอกจริง ๆ คืน ๆ นึง กับเฉพาะค่าปรับในกรณีนี้ ก็ กว่า 15,000 บาท เดือนนึง 30 วัน โอ.. จำนวนมากเลยทีเดียว...???

                การทำงานในเชิงบวกกับหญิงขายบริการในละแวกนี้ คงต้องมีเวทีการพูดคุยร่วมกันอย่างจริงจังเสียที ไม่ใช่ ปล่อยให้เป็นแบบที่เป็นอยู่ ภาพลักษณ์ของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจะกลายเป็นคนที่ทำมาหากินเลี้ยงชีพกับการจับปรับไปเสียเปล่า ๆ ...  อยู่ที่ว่าใครจะรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ ในการ พูดคุยอย่างสร้างสรรค์ และไม่มีการวางอำนาจ ทั้งต่อหน้า และ มีการเอาคืนรับหลังในพื้นที่เมื่อเสร็จสิ้นการพูดคุย ??
หมายเลขบันทึก: 42708เขียนเมื่อ 5 สิงหาคม 2006 07:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 มิถุนายน 2012 13:26 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
นักศึกษาสคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ ม. ธรรมศาสตร์

ผมเป็นนักศึกษาคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  ตอนนี้กระผมและทางกลุ่มกำลังทำรายงานที่ต้องการสร้างความเข้าใจกกับคนทั่วไป และเพื่อนำเสนอในประเด็นที่ว่า "ปัยหาสังคมที่เกิดจากโสเภณีครับ" ผมจึงอยากขอความเห็น และคำแนะนำของพี่ๆในเรื่องนี้ครับ  เพื่อเป็นแนวทางในการนำเสนอ และเพื่อสร้างความเข้าใจถึงสาเหตุและเหตุผล ของการประกอบอาชีพนี้  ใคร่ขอความกรุณาด้วยนะครับ ^^

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท