เจ้าด่าง: ดันให้พี่ทองกินน้ำตาลเข้าไปเยอะด้วย เลยดุ


พี่จิตบอกว่ามีเทคนิคการเลี้ยงเจ้าด่างให้มันดุ คือให้มันกินน้ำตาล

     มีวันหนึ่งผมไปหาเจ้าด่าง (แทนที่ที่จะไปหาพี่ทองและพี่จิต) นั่งคุยกันกับพี่ทองที่แคร่ไม้ไผ่หน้าบ้าน พี่จิตบอกว่ามีเทคนิคการเลี้ยงเจ้าด่างให้มันดุ คือให้มันกินน้ำตาล ผมก็ฟังแบบเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง พี่จิตก็ตักกล้วยบวชชีมาให้ผมและพี่ทองคนละถ้วย กินกันไป พูดหยอกเล่นกันไป จนได้เวลาเย็น พี่ทองเลยไปรดน้ำที่แปลงผักซึ่งปลูกไว้กินเอง 2-3 แปลง เป็นผักบุ้งบ้าง คะน้าบ้าง บวบก็มี และอีกหลาย ๆ อย่าง อย่างละเล็กละน้อย เหลือผมกับพี่จิตและเจ้าด่างที่แคร่ตัวเดิม

     ผมถามว่าที่พี่จิตบอกเรื่องให้เจ้าด่างกินน้ำตาลแล้วดุว่าจริงไหม พี่จิตก็บอกว่าให้กินจริงและจะได้ผลจริงเพราะน้ำตาลไหม ไม่ทราบเหมือนกัน รู้แต่ว่าเจ้าด่างมันดุอยู่แล้ว หากแต่มาสังเกตที่พี่ทองดีกว่า เพราะพี่ก็ให้พี่ทองกินหวานเยอะเหมือนกัน อันนี้เพราะพี่ทองแกชอบอาหารที่หวานนำ พี่สังเกตว่าดุขึ้นทุกวันเลย ผมฟังแล้วแอบขำ แต่ด้วยตามประสาเด็ก ๆ ก็เลยคิดต่อไปว่า กลับบ้านแล้วผมจะกินน้ำตาลมั่ง จะได้ดุ ๆ เหมือนพี่ทอง ที่สำคัญจะได้มีแฟนสวย ๆ เหมือนพี่จิต

     ถึงตอนนี้ก็ยังไม่เคยทราบว่ากินน้ำตาลเข้าไปเยอะ เลยดูดุ หรือเป็นเพราะอย่างอื่น หมายถึงหน้าตามันให้เองโดยธรรมชาติทั้งพี่ทองและผม (ฮา)

         หากต้องการอ่านทุกตอนก่อนหน้าใช้ป้าย (Tag) เจ้าด่าง คลิ้กเข้าไปครับ

หมายเลขบันทึก: 42700เขียนเมื่อ 5 สิงหาคม 2006 02:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มีนาคม 2015 08:28 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)
  • เคยได้ยินชาวบ้านพูดเหมือนกัน
  • แต่ให้กินน้ำผึ้ง หรือรังผึ้ง แต่ไม่แน่ใจว่า จะดุจริงหรือเปล่า
  • สงสัยต้องไปกินบ้างเผื่อจะได้มีแฟนสวยบ้าง
  • ขอบคุณครับ

ตาม "คุณขจิต" มาคะ...มองเห็นหลังไวไว...

เรียกให้รอ...ก็ไม่รอจึงได้วิ่งตามมานี่แหละคะ...

ที่บ้าน...ก็มีเจ้าสองตัวคะ...เจ้าบิ๊กกับน้องบราว...

แสนรู้..และน่ารัก...เป็นเพื่อนในยามเหงาดีนักแลคะ...

เคยเห็นแต่น้องอะตอม..เอาขนมหวานให้กิน บ่อยครั้งแต่ก็ไม่ดุนะคะ...จะดุก็มีแต่น้องอะตอมนี่แหละคะที่ดุเจ้าสองตัวนี้ประจำ เพราะชอบไปแย่งของเล่น...

ตามคุณ "ขจิต" และ ดร.Ka-Poom มาค่ะ

เคยทราบมาเหมือนกันค่ะว่าถ้าให้สุนัขกินของหวานแล้วจะดุ....แต่ไม่แน่ใจเรื่องใช้กับคนเหมือนกันว่าดุหรือไม่ดุ พี่จิตช่างเปรียบเทียบนะคะ สงสัยจะหรอกด่าสามีว่าดุเหมือน.......ก็เลยเอาเรื่องการกินน้ำตาลมาอ้าง แต่ก็ฟังดูน่ารักดีนะคะทำให้คนฟังขำและมีความสุขไปด้วย (นี่ถือเป็นเทคนิคการปรับเปลี่ยนการพูดและคิดในเชิงบวกใช่ใหมค่ะ)

ได้เห็นถึงวิถีการดำเนินชีวิตที่เพียงพอและพอเพียงของพี่จิตและพี่ทอง กับน้องด่าง ดูเป็นวิถีชีวิตคนไทยแบบเดิม ๆ ที่มีความสุขจริง ๆ ค่ะ

ท่านอาจารย์พี่ขจิต

     อาจารย์พี่อย่ากินน้ำผึ้งเลยครับ ผมกลัวอาจารย์จะมีแฟนสวยเกินไป ผมอาจจะ "อึง" ได้นะครับ เท่าที่อาจารย์พี่มีความสามารถตอนนี้ก็ แฟนตรึมอยู่แล้วนี่ครับ

Dr.Ka-Poom

     น้องอะตอมคงกินเองเยอะ (ขนมหวาน) เลยดุแทนเจ้าบิ๊กกับน้องบราวเนอะ ว่าแต่เจออีกแล้ว "เจ้าบิ๊ก" ผมสะดุ้งทุกทีเลย

อาจารย์น้อง Vij

     ตั้งใจจะสื่อสาร "ชีวิตที่พอดีอย่างพอเพียงของพี่จิตและพี่ทอง" ครับ อาจารย์น้องจะเอาไปเป็นต้นแบบก็ไม่ว่านะ เห็นบอกมีเจ้าด่างอยู่แล้วเป็นทุน หาแต่พี่ทองสักคนนิ จากนั้นปลูกขนำ เป็นอันว่าเริ่มเข้าท่านะ แต่จะใช้ชีวิตอย่างพี่จิตและพี่ทองได้ไหม อันนี้ไม่แน่ใจ (ฮา) ลองดูไหมครับ

"ชีวิตที่พอดีอย่างพอเพียง" เป็นชีวิตที่ได้สัมผัสมาก่อนตอนอยู่กับทวด...ที่ จ.สงขลา ค่ะ จำได้ว่าทวด...ยกร่องปลูกพริก ถั่วพลู ปลูกมะเขือ ฯลฯ และเก็บกินเป็นอาหารโดยไม่ต้องซื้อ สมัยก่อนไม่ใช้สารเคมี ใช้ปุ๋ยตามธรรมชาติ มีหญ้ารองใต้โคนต้นเพื่อให้ดินชุ่มชื่น แต่ที่ชอบมากที่สุดคือเวลาพริกเป็นดอกค่ะ สวยมากมีดอกสีเขียว แดง เต็มต้นไปหมด เป็นชีวิตชนบทที่มีความสุขมาก เหมือนพี่ทองกับพี่จิตเลยค่ะ 
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท