" คำว่าอกหัก" หลายคนรู้จัก เข้าใจบ้าง แต่ก็เป็นที่รู้กันว่า มันมีความหมายรวมๆว่า ผิดพลาด ผิดหวัง ไม่สมประโยชน์ดั่งที่ตั้งใจหวัง การที่หยิบยกคำนี้ขึ้นมาก็เพื่อจะเรียกร้องความสนใจ ..หมายถึงอุบายที่จะชี้ชวนให้มานั่งคุยกัน
ถ้าเริ่มจากเรื่องที่แปลก จะเป็นการกระตุ้นตัวอยากรู้อยากเห็นให้กระโดดโลดเต้นออกจากมุมเซ็งๆของชีวิต วันนี้จึงอยากจะบอกว่า ถ้าเราจะเริ่มนำพาตัวเองคิดใหม่ทำใหม่ง่ายๆ ก็ควรริเริ่มจากเรื่องรอบๆตัวรอบๆใจเรานี่แหละ
วันนี้จึงขอเปิดประเด็นเรื่อง " คนอกหักลด 5 %" เพื่อจะให้สังคมรับลูกเรื่องคนที่ผิดหวังคนที่ผิดพลาด อ่อนแออ่อนไหวควรจะได้รับคะแนนกำลังใจเป็นพิเศษ ขนาดคนน้ำท่วมยังได้รับการชดเชย คนที่น้ำตาท่วมหัวเข่าก็ควรได้รับการชดเชยเป็นพิเศษบ้างใช่ไหมครับ เพื่อที่เขาจะได้มีกำลังใจยืนหยัดขึ้นมาช่วยเราพัฒนาสังคม
ในมุมมองของสายใยนักKM. "ไม่มีเรื่องอะไรที่เราไม่ควรสนใจ" ประเด็นมันมีมากมายจนพิจารณาไม่ไหว เราก็เลือกที่จะตัดสินใจว่ารับอะไร ไม่รับอะไร ไม่อย่างงั้นเราก็จะเป็นคนรับเละ รับมากๆจิตใจก็แบกไว้ไม่ไหว ลองเลือกรับในสิ่งที่เราชอบ เราถนัด เราสนใจก่อนดีไหมครับ ว่าวันหยุดวันนี้เราจะทำชีวิตให้มีความสุข มีความหมายด้วยการลงมือเรียนรู้อะไรสักอย่างที่ง่ายๆ เช่น ลงมือแสดงความเห็น เป็นแนวร่วมกับกิจกรรมของภาคีKM.ต่างๆ
อยากเห็นมากเลยครับ แทนที่คนอกหักจะรอรับความเห็นใจ เราก็สามารถปรับความรู้สึกให้เป็นเป็นเข้าใจ แล้วพัฒนาเป็นความตั้งใจ ว่าเราได้เรียนรู้อะไรจากหัวใจ จากจิตใจของเราเอง เมื่อรู้แล้วต้องอธิบายได้ ถ่ายทอดได้ ขายความคิดได้ จะรอแลกประสบการณ์คนที่อกหักในเรื่องต่างๆ เรื่องการทำงาน เรื่องการศึกษา เรื่องการพัฒนาสังคม อะไรก็ได้ที่คุณคิดล้วนมีความหมายเสมอ ถ้าไม่เผลอคิดเชิงลบ ขอยืนยันครับว่าคนอกหักก็สามารถคิดเชิงบวกได้
ครูบาครับ
ถ้าไม่อกหักก็ไม่มีบทเรียนซิครับ ไม่มีบทเรียนก็ไม่ได้เรียน ไม่เรียนก็ไม่รู้ ไม่รู้แล้วจะเอาความรู้อะไรมาใช้และคุยให้คนอื่นฟัง
นักวิทยาศาสตณืเก่งๆของโลก เขาพัฒนาตัวเองมาจากการอกหักทั้งนั้นแหละครับ แต่หักบ่อยเกินไปใจก็จะฝ่อไม่ยอมเรียนอีก
เอาพอท้วมๆ ได้บ้างเสียบ้างอย่างนี้แหละมันดีครับ หวานไป(สำเร็จตลอด)ก็จะตายด้วยเป็นเบาหวาน(งานมาก) เค็ม (ปัญหามาก)ไปก็จะเป็นโรคไต(ล้างระบบไม่ทัน) เปรี้ยว(รุนแรง)ไปฟันก็จะผุ (ไม่ค่อยมีเพื่อนทำงาน) หรือ เผ็ดไป (งานหนัก) ทั้งปากและกระเพาะก็จะพัง
ผมว่ากลางๆ อย่างนี้นี่แหละดีที่สุดครับ
อกหักจากอะไรก็ได้ประสบการณ์ทั้งนั้นแหละครับ ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของหม้อแปลงจากความเจ็บปวดเป็นประสบการณ์ และจากประสบการณ์เป็นความรู้ และสุดท้ายจากความรู้เป็นปัญญา จึงจะจบกระบวนการ ถ้าไม่จบเสียโอกาสในชีวิตครับ
กองทัพคนอกหักกำลังจะเคลื่อนพล เร็วๆนี้
โปรดติดตามตอนต่อไปครับ
คุณขจิตครับ
น้องวัว กับลูกวัว คนละอย่างกันนะครับ
ลูกวัวเอาไปเลี้ยง
น้องวัว (รก)ไม่เป็นตัว เอาไปต้มครับ
หรือคุณขจิตล้อครูบาเล่น ไม่ได้เข้าใจคำผิดไป อย่างที่ผมคิด ก็ขอโทษด้วยครับ
อกหัก สอนอะไรเราหลาย ๆ อย่าง สอนให้เรามีประสบการณ์ สอนให้เราได้เรียนรู้ว่าถ้าทำแบบนี้จะเกิดผลอะไรตามมา สอนนู่น สอนนี่ สอนนั่น...????
แต่ถ้าให้เลือก จะมีใครเล่าที่อยากมีประสบการณ์แบบนี้ มีคนเคยกล่าวว่า...อกหักดีกว่ารักไม่เป็น แต่ถ้าเป็นนิว ๆ ขอไม่รักใคร ไม่อยากมีประสบการณ์ที่เจ็บปวดคะ..???
ถ้าไม่เจ็บบ้างจะไม่จำครับ ในที่สุดจะตายด้วยโรคเบาหวานครับ
ลองถอดรหัสดูนะครับ ไหนๆ ก็ PhD candidate แค่นี้สบายมากนะครับ
ผมชอบเขียนเป็นรหัส กินความดี ขอโทษด้วยถ้าอ่านไม่ออก ถามได้นะครับ
คุณออดก็เคยถามเรื่องน้ำพริกปลาทูมาแล้วครับ