"มองให้เห็น" มากกว่า "สิ่งที่เป็น" (ความรู้สึกดี ๆ มีได้ทุกวัน)


แค่เพียงการยืนอยู่ในจุดที่แตกต่าง ก็ทำให้เรามองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างมากมาย

การมีมุมมองแตกต่างจากคนอื่น ไม่ได้หมายความว่า เราเป็นสิ่งที่แปลกปลอมในจักรวาล

และแค่เพียงการดื้อดึงเพื่อความเชื่อที่ถูกต้อง ก็ไม่ได้ทำให้เราเป็นคนเลว ในค่านิยมเหลวไหลของความเชื่อไร้แก่นสาร

ด้วยเพราะ กาลิเลโอ นักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ของศตวรรษที่ 15 สามารถมองเห็นแสงสว่าง ซึ่งลอกออกมาจากเงาของความมืดในหลุมดำแห่งความเขลา

แค่เพียงการยืนอยู่ในจุดที่แตกต่าง ก็ทำให้เรามองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างมากมาย

โลกวันนี้จึงได้มีอัจฉริยบุคคล ที่ทำคุณประโยชน์อย่างอเนกอนันต์แก่เพื่อนมนุษย์

โดยเฉพาะช่วงที่เขายังมีชีวิตอยู่นั้น ความคิดของเขาสั่นสะเทือนได้ทั้งอาณาจักรและศาสนจักรอย่างไม่น่าเป็นไปได้

แม้วันนี้เขาจะล่วงลับไปแล้ว แต่สิ่งที่เขามองเห็นในวันนั้นก็ยังดำรงอยู่

แม้จะเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่หรือมีประโยชน์มากมายแค่ไหน สิ่งที่เราเห็นหากไม่รู้จักใช้ปัญญาพิจารณา ประโยชน์เหล่านั้นย่อมล่วงเลยเลยเราไปได้

ตรงข้ามหากเราพยายามใช้ปัญญาเรียนรู้บางสิ่ง แม้จะเป็นสิ่งเล็กน้อยก็ตาม สิ่งเล็กน้อยเหล่านั้นก็อาจนำไปสู่ที่สิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้

เราจึงไม่ควรมองสิ่งที่เห็นเพียงด้านใดด้านหนึ่ง แล้วด่วนสรุปคุณค่าของสิ่งนั้น

ในการรับรู้ คนเรามักประเมินจากสิ่งที่เห็นแล้วทึกทักดี ความหมายสิ่งนั้นว่า จะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้

ทั้ง ๆ สิ่งที่เราอาจไม่เป็นอย่างที่เราคิดก็ได้

ด้วยการประเมินสิ่งต่าง ๆ จากสิ่งที่เราพบ ส่วนมากมักเป็นผลมาจากประสบการณ์เดิม จึงใช้ประสบการณ์ที่เรามีอยู่เข้าไปประเมินรู้และตัดสิน ตามเกณฑ์ที่เราเคยรู้ เพื่อนิยามความหมายให้กับสิ่งนั้น ๆ

เพราะประสบการณ์ที่แสนสั้น

เราจึงตามไม่ทันความผันแปร

ชีวิตจึงมักจะพบเรื่องแย่ ๆ อยู่เสมอ

เวลาที่เราเผชิญกับสิ่งที่ยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะเรื่องที่เป็นปัญหาชีวิต เราจึงควรหยุดคิด และพิจารณาให้ดี ให้รอบคอบรอบด้าน

กับสิ่งสามัญที่เห็นอยู่ทั่วไป

ใครจะรู้บ้างว่า หากใช้ปัญญามองอย่างพิจารณา สิ่งสามัญนั้นอาจกลายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่สำหรับเราก็ได้

ในขณะเดียวกันแม้สิ่งนั้นจะเป็นสิ่งที่สำคัญ มีความหมายต่อเราเป็นที่สุด ถ้าเรามัวสะดุดและหยุดอยู่กับภาวะที่พึงพอใจ ก็อาจทำให้เราพลาดจากประโยชน์ที่ควรจะได้รับ

การมองดูสิ่งต่าง ๆ ที่เราพบเห็นจึงไม่ใช่แค่การผ่านสายตาเท่านั้น แต่ควรที่จะมองให้เห็นอย่างพินิจพิจารณา

 

ในชมพูทวีป เมื่อสองพันห้าร้อยปีก่อนใครจะเชื่อบ้างว่า เจ้าชายพระองค์หนึ่งทรงเล็งเห็นสิ่งสามัญอันคนทั่วไปก็สามารถมองเห็นได้ แล้วต่อมาพระองค์ก็ได้เป็นศาสดาเอกของโลก มีคนทั่วไปให้การยอมรับนับถือมาจนถึงปัจจุบัน

คราวนั้น ...

ซึ่งเป็นวันอันแสนสุขของเจ้าชายพระนามว่า สิทธัตถะ โอรสแห่งพระเจ้าสุทโธทนะ พำนักอยู่แต่ในวังที่พรั่งพร้อมด้วยบริวารนับไม่ถ้วน เพียงเพราะพระองค์ทรงอยากเสด็จประพาสกับนายฉันนะ ทหารคู่พระทัย แต่การณ์กลับกลายเป็นการนำความยิ่งใหญ่มาสู่พระองค์

ด้วยขณะที่ทรงดำเนินไปในเมืองกบิลพัสดุ์แล้วทอดพระเนตรเห็นอาการอันเป็นธรรมดาที่มนุษย์ทุกคนต้องประสบ คือ คนแก่ คนเจ็บ และคนตาย และพระองค์ก็มองเห็นความสัมพันธ์และต้องการจะหาคำตอบให้ได้ว่า หากคิดจะหลุดพ้นจากอาการเหล่านี้ ควรทำอย่างไร

สุดท้ายเมื่อได้ทอดพระเนตรเห็นจริยาวัตรของสมณะ ผู้แสวงหาสัจจะแห่งชีวิต นี่เองจึงมาสู่การเสด็จออกผนวช

ฟ้าดินอาจมอบความยิ่งใหญ่แก่เราทุกคน

แต่สำหรับผู้ริเริ่มจะได้รับผลดีที่คนทั่วไปมิอาจเข้าถึง

สิ่งที่นำความยิ่งใหญ่มาสู่พระพุทธเจ้า ไม่ใช่เพียงพระองค์ทรงใช้ความพยายามจนบรรลุ สัมโพธิญาณ หากแต่การมองดูทุกสิ่งด้วยปัญญา จึงทำให้พระองค์มองเห็นสิ่งที่แตกต่างในความไม่แตกต่างของผู้คนทั้งหลาย

ภาพที่ประจักษ์ชัดแก่สายพระเนตรของพระองค์ในวันนั้นจึงยังคงเป็นเงาสะท้อนถึงความเป็นธรรมดาของชีวิต ที่ทำให้ไม่รู้กี่หมื่นแสนล้านคนบนโลกใบนี้ ได้มองเห็นเงาชีวิตของตัวเอง

แสงสว่างแห่งพระปัญญาญาณ ที่พระองค์ทรงเล็งเห็นแล้ว นำมาเผยแผ่ด้วยพระมหากรุณาธิคุณต่อสรรพสัตว์ จึงยังคงส่องสว่าง แม้กาลเวลาจะผันผ่านไปนานแล้วก็ตาม

โลกในวันนี้จึงยังมีมุมสงบ

ที่จะทำให้เราได้พบกับความจริงของชีวิต

 

ขอบคุณข้อเขียนดี ๆ จากหนังสือ ชื่อ ความรู้สึกดี ๆ มีได้ทุกวัน ของ กอบแก้ว

 

การมีมุมมองที่แตกต่างกัน ยังประโยชน์ให้คนที่ไม่เคยมองเห็น

โลกมี 360 องศา แต่บางคนมองแค่องศาเดียว

เรื่องราวเหล่านี้ สอดรับกับการแสดงความคิดเห็นแปลก ๆ ใหม่ ๆ บอกสิ่งที่คนอื่นไม่เคยคิด เล่าสิ่งที่ไม่ค่อยมีคนมองของคน Gotoknow หลาย ๆ คน

มีคำอธิบายอยู่หลายประโยคที่อธิบายให้เห็นธรรมชาติของคนที่มักจะมอง โดยใช้ตนเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล ทำให้ตาบอดในบางเรื่อง มองไม่เคยเห็นวิธีการแก้ปัญหาเหล่านั้น

มองให้แตกต่าง และรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นเถอะครับ

แล้วคุณจะรู้ว่า ... โลกนี้ไม่ได้มีแค่คุณคนเดียว

ยิ้ม ๆ ครับ :)

หมายเลขบันทึก: 156088เขียนเมื่อ 26 ธันวาคม 2007 19:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 เมษายน 2012 20:25 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

อาจารย์ครับ

ด้วยความต่างของผู้คน เป็นความหลากหลายที่เราโชคดีได้สัมผัส

โดยเฉพาะใน Gotoknow พื้นที่นี้เราได้ศึกษาตัวตนของใครหลายคนผ่านบันทึกอันเป็นสิ่วนหนึ่งของวิธีคิดของเขา

มันไม่แปลกที่เราจะรู้สึกสนิทกับใครหลายคน ที่เราสื่อสาร(อาจทางเดียว) เพราะเราซึมซับความเป็นเขาผ่านทางการนำเสนอ..

ผมชอบ ประโยคยาวๆนี้ "แค่เพียงการยืนอยู่ในจุดที่แตกต่าง ก็ทำให้เรามองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างมากมาย"

เหมือนเราถ่ายรูปเช่นกันใช่มั้ยครับ เพียงเรามองต่าง เราก็สามารถมองสิ่งเดียวกันได้หลากหลายน่าสนใจต่างกัน

มีนิทานเรื่องตะเกียง ที่สอนให้คนมองให้รอบด้านก่อนตัดสินใจ ไม่ควรด่วนตัดสินใจในสิ่งที่ตนเห็น ในมุมที่ตนอยู่ แต่ให้เราเดินไปมุมที่คนอื่นเขานั่งอยู่และดูในมุมเขา เราพบ เสียงสีที่ต่างของตะเกียงจริงๆ

เราขัดแย้งเพราะ เรายึดมั่นในแสงสีตะเกียงที่เราเห็น หารู้ไม่ว่า ทุกมุมของตะเกียงนั้น ให้สีต่างกัน แต่ละคนแต่ละมุมก็เฝ้าเถียงกันว่า ของตัวเองบอกสีถูกต้อง...

เป็นที่มาของความขัดแย้ง...

เราจึงไม่ควรมองสิ่งที่เห็นเพียงด้านใดด้านหนึ่ง แล้วด่วนสรุปคุณค่าของสิ่งนั้น

ขอบคุณครับผม :)

  • เข้ามาอ่านเรื่องราวดีๆค่ะ 
  • บล็อกเยอะมากเลยค่ะ 
  • ถ้าโลกนี้ไม่มีความแตกต่าง  คงไม่มีสิ่งประดิษฐ์ต่างๆมากมายบนโลกใบนี้
  • ดีใจที่ แพลนเน็ตอยู่ใน "สวยประหาร"  เข้าใจแบ่งกลุ่มค่ะ เพราะดูจะเป็นแพลนเน็ตเดียวที่สามารถเข้ากลุ่มได้  อิอิ
  • ขอบคุณค่ะ

สวัสดีครับ คุณเอก

  • แน่นอนครับคุณเอก Gotoknow โลกเสมือนที่หลาย ๆ คนได้ถ่ายทอดความนึกคิดของตนลงไป ... ได้นำคนหลาย ๆ คนมาพบกัน เป็นอำนาจ วาสนา หรือ ความบังเอิญ ก็แล้วแต่
  • เขียนบันทึก 1 เรื่อง แสดงตัวตน 1 ด้าน
  • แสดงความเห็น 1 กรอบ แสดงตัวตนอีก 1 ด้าน
  • ถ้าไม่หลอกลวงกันมากเกินไป เราจะได้การเริ่มต้นของมิตรภาพ และความหลอกลวงจะลดลำดับลง มิตรภาพและการเปิดเผยจะเพิ่มมากขึ้น :)
  • ตะเกียง และ การถ่ายรูป เป็นเรื่องเดียวกันครับ คือ มุมมองและแนวคิดของชีวิต
  • คนจำนวนไม่น้อยชอบด่วนสรุปในสิ่งที่ตนเองไม่เข้าใจอย่างแท้จริง
  • เขาเสียเพื่อนไปอย่างไม่มีวันกลับ
  • น่าเสียดายครับ

ขอบคุณครับ คุณเอก :)

สวัสดีครับ น้อง ทางเดินแห่งรัก

  • ขอบคุณครับที่ถูกจัดอยู่ใน "สวยประหาร" อิ อิ
  • กำลังจะปรับและเปลี่ยนแพลนเน็ตใหม่ครับ
  • ชอบอ่านเรื่องราวอะไรบ้างครับ เล่าให้ฟังเป็นกำลังใจหน่อยครับ
  • ความแตกต่าง ทำให้เกิดความสมบูรณ์ ครับ

บุญรักษานะครับ :)

สวัสดีครับ ท่านอาจารย์ Wasawat ขออนุญาตแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยครับ ในประเด็น

การมองดูสิ่งต่าง ๆ ที่เราพบเห็นจึงไม่ใช่แค่การผ่านสายตาเท่านั้น แต่ควรที่จะมองให้เห็นอย่างพินิจพิจารณา

   ในประเด็นดังกล่าว ผมขออนุญาตเชื่อมโยงไปถึงคำว่า "บูรณาการ" ในวงการศึกษานะครับ

    คือ ที่ผ่านมา เรื่อง "บูรณาการ" ในวงการศึกษา ตามความรู้สึกส่วนตัวของผมเอง ผมว่ามันยังไม่ค่อยชัดเท่าไร คือ ยังมองไม่เห็นคล้อยตามที่เขาว่าไว้ ที่ว่าเอาหลายวิชามารวมกัน เรียกว่า บูรณาการ

    ตามความคิดเห็นของผม คำว่า บูรณาการ ก็น่าจะหมายถึงการมองอย่างรอบด้านในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง มองให้เห็นอย่างพินิจพิจารณา  มองเพื่อปฏิเสธ การมองอย่างแยกส่วน ปฏิเสธการมองมุมเดียว

    เพราะการมองมุมเดียว มองอย่างแยกส่วน ตายตัว สุดโต่ง  จะนำมาซึ่งความแตกแยก ขัดแย้ง เกิดความรุนแรงขึ้นมาได้

    แต่การมองแบบบูรณาการ หรือ คือ การมองหลายมุมมอง มองให้เข้าใจ มองให้เห็นองค์รวมของเรื่องนั้น ก็จะไม่เกิดความแตกแยก  แต่จะเกิดความรัก ความเมตตา ความเอื้ออาทร

    ครับ...ก็เป็นมุมมมองส่วนตัวของผมครับ อาจจะไม่ตรงกับคำว่าบูรณาการก็ต้องขอคำชี้แนะด้วยครับ

     ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ ท่าน ผอ.วิชชา small man

  • ใช่เลยครับ มองให้เห็นอย่างพินิจพิจารณาอย่างรอบคอบ ... เหมือนกับความรู้ครับ ถามว่า เข้าใจแล้วใช่ไหม นักเรียนตอบว่า เข้าใจแล้วครับ (จริง ๆ แล้วคงจะฟังจากครู แต่ยังไม่ถึงแก่นความรู้กระมัง ตอบไว้ก่อน เพราะครูถาม 555)
  • มุมมองของคำว่า "บูรณาการ" ของท่าน ผอ. ดีมาก ๆ ครับ .. อยากให้ครูทั่วประเทศได้ผ่านมาผ่านบ้างจะดีมากครับ
  • ถึงผมจะสอนคณะผลิตครู แต่ในวิชาชีพไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับพวกหลักสูตรและการสอนเท่าไหร่นัก ... ผมจึงไม่ชอบคำว่า "บูรณาการ" ที่พวกครูที่มาเรียนกับชอบใช้พูด ใช้เขียน มันน่ารำคาญใจ เพราะคนพูดมันยังไม่รู้เลยว่า หมายความตรงที่ตัวเองเข้าใจหรือเปล่า ก็ไม่ทราบ
  • แต่ผมชอบคำว่า "บูรณาการ" ของท่าน จึงขอยุยงท่าน ผอ. เขียนบันทึกเรื่องนี้สักหน่อยไหมครับ น่าสนใจดี

ขอบคุณท่าน ผอ. แวะมาเยี่ยมเยียนบันทึกของผมอยู่เสมอ :)

สวัสดีปีใหม่   วันใหม่...ปีใหม่..แต่หัวใจเก่าๆ ยับเยิบ  อิอิ

สวัสดีปีใหม่ครับ ครูเอ ... มีความสุขครับ :)

ความรู้สึกที่เข้ามาอ่านในครั้งแรก กับครั้งหลังต่างกันมากเลยค่ะ  ขอบคุณ อาจารย์ Wasawat และ อ.เอก  ผอ.วิชา และน้องสาวคนสวย ที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทำให้คนรู้จักคิดมากขึ้น รู้จักมองตัวเอง และเรียนรู้ผู้อื่นค่ะ

สวัสดีครับ คุณ ครูเอ

  • ยินดีที่ค้นพบแก่นความรู้ที่ตัวเองสนใจนะครับ

ขอบคุณครับ :)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท