ฝนที่ตกลงมาครั้งละมากๆแทบทุกวันในระยะนี้ ทำให้ต้นไม้เล็กๆลู่ลงด้วยน้ำหนักของน้ำฝน แต่ทั่วไปต้นไม้เขียวชอุ่มชุ่มชื่นดี
เห็นต้นไม้ใบหญ้าเขียวๆทำให้ความรู้สึกอยากรับประทานผักสดมากขึ้น ปกติก็เก็บผักจากท่าน้ำบ้านเราเอง เมื่อสองวันก่อนไปกรุงเทพไปแวะที่ร้าน "ไทสบาย" ของบรษัท "เขาค้อทะเลภู" เขามีผักสดปลอดสารพิษหลากหลายวางจำหน่าย ตั้งหลายอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน บางชนิดก็พอเคยเห็นแต่นานมาแล้ว
ได้ซื้อผักชนิดหนึ่ง ชื่อ "แปะตำปึง" ดมดูก่อนว่าหอมเชียว กลิ่นคล้ายๆยอดมะกอก บนใบมีขนอ่อนๆ พนักงานเขาบอกว่าจิ้มน้ำพริกอร่อย เลยทดลองซื้อมา เล่าให้คนขับรถซึ่งเป็นคนยโสธรฟัง เขาบอกว่า "บ้านผมเยอะแยะเลยครับ แต่ต้องคนรู้จักถึงจะเลือกเก็บเป็นนะครับ เพราะมันขึ้นทั่วไป" กลับมาบ้านได้ชิมแล้ว กรอบอร่อยมาก เลยถ่ายรูปมาฝากก่อนทานหมด
ผักพื้นบ้านที่มีอยู่ในบ้านซึ่งขึ้นเองคือ "ผักโขมบ้าน" เมื่อมาอยู่ใหม่ๆไม่รู้จัก จนกระทั่งคนข้างกายบอกแกมดูแคลนเล็กๆว่า คนเมืองอย่างเรานี่ช่างไม่ประสา เห็นพืชจากธรรมชาติก็ยังไม่รู้ว่าเป็นทรัพย์ที่กินได้ ต้องกำเงินไปซื้ออยู่ร่ำไป ผักโขมบ้านนี้แกงเลียงอร่อยที่สุด หวาน นุ่มลิ้น นำมาผัดก็อร่อย
อย่าว่าแต่ผู้เขียนที่ไม่รู้จักผักโขมบ้านเลย ชาวบ้านแถวนี้ส่วนใหญ่ก็ไม่ทราบว่ามันกินได้ ลืมความรู้นี้ไปหมดแล้ว เดินเหยียบ ฟันทิ้ง กันหมด น่าเสียดายความรู้ที่จะทำให้เรามีผักสดๆคุณค่าอาหารสูง ปลอดสารพิษ เก็บได้ไม่เสียสตางค์ เป็นความพอเพียงที่มาจากการพึ่งตนเองได้ ด้วยตระหนักในทุนธรรมชาติที่มีอยู่ตำตา ชาวบ้านแถวนี้พอเขาเห็นเราเก็บไปทาน เขาจึงทำตาม ก็ยังดี ใหม่ๆเขาหัวเราะที่บ้านเราเก็บผักอะไรก็ไม่รู้ทานกัน
นำภาพสดชื่นหลังฝนมาฝากกันด้วยนอกจากภาพผัก
ผีเสื้อไม่ทราบชื่อ ตัวใหญ่ บินมากินน้ำหวานดอกมะละกอ ต้นนี้เป็นมะละกอตัวผู้ มีแต่ดอก ไม่มีวันมีลูก แต่ดอกก็หอม มีแมลง ผีเสื้อ และนกมาเวียนหาน้ำหวานเสมอ ให้ดูภาพผีเสื้อทั้งด้านข้าง และด้านหลัง ไปถือกล้องยืนนิ่งๆตั้งนาน บอกเขาในใจว่าขอถ่ายภาพหน่อยซี เขาบินวนไปวนมา จนมาเกาะให้เห็นข้างหน้าเลยจับภาพได้
น้ำขึ้นมาก สีก็ค่อนข้างแดงเพราะไหลมาจากทางเหนือ ไม่ทราบท่านผู้อ่านจะเห็นปลาเสือตัวน้อยมั้ย ที่จริงเขามีเป็นครอบครัว
ภาพนี้ชอบตรงแสงเงาในน้ำของต้นไม้และเรือ
สวัสดีค่ะ
ติดตามอ่านของคุณมาหลายเรื่องแล้ว ยิ่งเห็นภาพเจ้าของบลอก แลดูใจดีด้วยค่ะ
ที่สถานที่ทำงาน เขาบริจาคให้ก่อสร้างสถานีอนามัย แล้วมีพื้นที่เหลือ ประมาณ 6 ไร่ ว่าจะปรับปรุงทำสวน แต่ยังไม่ทราบว่าจะปลูกอะไรบ้าง เลยให้ภารโรงปลูก ผักบุ้ง คะน้า ฟัก กวางตุ้ง สลับกันไป เวลามีแขกมาเยี่ยม ก็พาเขาไปตัดผักไปกินกันค่ะ
สวัสดีค่ะพี่นุช คุณนายดอกเตอร์
มาชื่นชมบรรยากาศริมน้ำค่ะ บรรยากาศหลังฝนดีจังเลยนะคะ
แปะตำปึงเท่าที่ทราบเป็นสมุนไพรรักษาได้หลายโรค เห็นว่ามาจากเมืองจีนค่ะ
สำหรับผักโขม...จะเคยเห็นแต่ในซุปเปอร์มาร์เก็ตค่ะ แบบนี้ไม่เคยเห็น.. ^ ^
ผีเสื้อก็สวยแบบหรูดีค่ะ สีคลาสสิคมากเลย เหมือนแต่งชุดราตรียังไงยังงั้นเลย ^ ^ ส่วนปลาเสือน่ะ มองไม่เห็นค่ะ 5555
ขอบคุณสำหรับบรรยากาศธรรมชาติริมน้ำนะคะ ดีจริงๆ ค่ะ
สวัสดีค่ะ
ก่อนอื่นต้องขอบคุณสำหรับภาพที่สวยและสดใสแถมยังสามารถทานได้อีกด้วย ภาพที่สามที่สี่คือดอกมะละกอออกดอกเยอะนะคะ ส่วนภาพที่ห้าเห็นค่ะปลาเสือกำลังว่ายน้ำน่ารักค่ะ
ที่อาจารย์เล่ามา ผมสัมผัสได้นะครับ
หวังไว้ว่าสักวัน คงได้มีโอกาสใช้ชีวิตกับธรรมชาติ อย่างนี้บ้าง ทุก ๆ วัน
สวัสดีค่ะคุณตันติราพันธ์ ขอบคุณที่มาติดตามอ่านเรื่องกันนะคะ ได้นำบล็อกของคุณเข้าแพลนเน็ตแล้วจะได้แวะเวียนพบกันเป็นประจำต่อไปค่ะ
คนที่รู้จักสนิทๆกันจะทราบว่าปกติเป็นคนใจดี แต่อย่าให้หงุดหงิด โมโหเชียว จะกลายเป็น "นางฟ้า-ผ่า"ได้ รู้ตัวว่าเป็นสิ่งต้องปรับปรุงด้วยตนเอง ใครก็ช่วยไม่ได้ จึงต้องปฏิบัติธรรมให้เข้าใจไตรลักษณ์ ลดอัตตา ความยึดมั่นถือมั่น สิ่งเหล่านี้ต้องรู้มาจากข้างใน ให้เอิบอาบอยู่ในเซลล์ทีเดียว บุญคงมีจึงมีดวงตามองเห็นธรรม เย็นลงได้มากเลยค่ะ
โชคดีจังที่ที่ทำงานมีพื้นที่ให้ธรรมชาติปรากฏกายได้ตั้งหกไร่ ปลูกผักกินได้ ปลูกพืชสมุนไพร ก็ดีแล้วนะคะ ให้ดูเป็นธรรมชาติจริง เคยไปเที่ยวศูนย์ปลูกพืชท้องถิ่นและสมุนไพรที่บึงฉวาก สุพรรณบุรี เขามีพืชหลากหลายมาก แต่น่าเสียดายที่รูปแบบไปทำเป็นสวนสมัยใหม่ ไม่ได้อารมณ์ของธรรมชาติท้องถิ่นเท่าไหร่ค่ะ
ที่บ้านก็ปลูกผัก ตัดแจกผู้มาเยี่ยมเหมือนกัน สนุกดีเวลาเพื่อนๆพาลูกๆมาเที่ยวที่บ้าน เขาจะตื่นเต้นกับมะนาวที่ออกลูกเต็มต้น นำเต้าที่ห้อยย้อยน่ารัก หรือแม้แต่พุ่มยี่หร่า พริกขี้หนู ให้เขาเก็บกันสนุกไปเลยค่ะ
สวัสดีค่ะอาจารย์ขจิต
แปะตำปึงนั้นเป็นสมุนไพรจากจีน ไม่ทราบว่าเข้ามาแพร่หลายในเมืองไทยตั้งแต่เมื่อไหร่ อย่างไร คนทางเหนือก็รู้จัก แต่ตัวพี่เองเพิ่งเคยได้ยิน ได้เห็น ได้ทานนี่แหละค่ะ เขาบอกว่าทานแก้โรคเบาหวานได้ค่ะ
ดีจังที่อาจารย์รู้จักผักโขมบ้าน คุณพ่อคุณแม่อาจารย์ใส่ใจสอนให้อาจารย์รู้จักพืชท้องถิ่นหลายอย่างเลยนะคะ สมัยนี้ไม่ค่อยเห็นครอบครัวแบบนี้แล้วค่ะ
อยากมาเที่ยวเมื่อไหร่ ก็มาได้เลยนะคะ สำคัญว่าจะหาเวลาว่างที่ไหนมาได้น้อ
สวัสดีค่ะอาจารย์กมลวัลย์
ลองหาเวลามาเที่ยวอยุธยาสักวันซีคะ ไหว้พระในเมืองแล้วมาทานข้าวที่บ้านพี่กัน จะแกงเลียงผักโขมบ้านให้ทาน พี่ชอบมากกว่าผักโขมสมัยใหม่อีกค่ะ
ผีเสื้อสวยจริงๆค่ะ เห็นทีแรกยืนเบิ่งตาดูเลยเพราะไม่เคยเห็นชนิดนี้แถวบ้าน ตัวใหญ่ สีและลายงามมากๆ ดูหรู คลาสสิคอย่างอาจารย์ว่าจริงๆค่ะ
ปลาเสือตัวน้อย คงตัวน้อยไปหน่อย อิ อิ ต้องให้อาจารย์เอาแว่นขยายส่องนะคะ อยู่ที่เงาต้นไม้ ตัวมันค่อนข้างใส มีจุดดำใหญ่สองสามจุดข้างลำตัว
ต้องเชิญมาดูของจริงค่ะ
สวัสดีค่ะคุณปริญากรณ์ สิงห์สัตย์ ขอบคุณที่มาอ่าน ดีใจที่ได้รู้จักเพื่อนใหม่อีกคนค่ะ
มะละกอตัวผู้นี่เราไม่ค่อยได้เห็นนะคะ เพราะมันไม่ให้ผล ส่วนใหญ่เขาคงตัดทิ้งกัน แต่ที่บ้านให้ปล่อยไว้ ชอบดอกและช่อดอก สวยดีค่ะ
ดีใจที่คุณเห็นปลาเสือตัวน้อย อาจารย์กมลวัลย์หาไม่เจอค่ะ เล็กไปหน่อย กล้องตัวเองกำลังซูมไม่มากเท่าไหร่ค่ะ
สวัสดีค่ะคุณพี่ศศินันท์ ผักโขมที่เห็นนี้ขึ้นเองค่ะ ไม่ได้ปลูก เขานึกจะขึ้นตรงไหนก็ขึ้น มีอยู่มุมหนึ่งขึ้นเป็นดงเลยค่ะ
เป็นผักโขมบ้าน คนละชนิดกับผักโขมที่เรามักเห็นที่ตลาดหรือซุปปเปอร์มาร์เก็ตค่ะ
ต้นไม่และกลิ่นดินหลังฝนแรกๆนั้นหอมนะคะ แต่ตอนนี้ฝนเล่นตกทุกวัน ครั้งละมากๆด้วย แฉะไปหมดเลยค่ะ หากเหยียบที่ดินมันจะติดรองเท้าขึ้นมาเป็นปึกๆทีเดียวค่ะ
ขอบคุณที่มาตามอ่านทุกเรื่องเลยค่ะ
สวัสดีครับท่าน คุณนายดอกเตอร์
ขอบคุณครับ
สวัสดีค่ะคุณหมอจิ้น
ยินดีที่มีโอกาสแบ่งปันเรื่องเล่าจากธรรมชาติเช่นนี้ค่ะ ส่วนมากทุกท่านทำงานประจำอยู่ในเมืองใหญ่อาจไม่ค่อยมีโอกาสเห็นสิ่งเหล่านี้
คุณหมออยู่ต่างจังหวัด คงพบเห็นธรรมชาติได้ไม่ยากนะคะ เพียงแต่ภารกิจที่มหาศาลอาจทำให้ไม่สามารถมีเวลาที่จะมานั่งชื่นชมธรรมชาติอยู่ได้
สวัสดีค่ะน้องแก่นจัง ไม่พบกันตั้งนาน สบายดีนะคะ
ดีจังที่ทำให้น้องคิดถึงบ้าน จะได้หาเวลากลับบ้านบ่อยๆ มีคนคิดถึง
แปะตำปึงนั้นทานอร่อยนะคะ ใบกรอบมาก ไม่มีรสขม หรือเฝื่อนเลยค่ะ
สวัสดีค่ะคุณ สะ-มะ-นี-กะ ขอบคุณที่แวะมาเยือน และข้อมูล "ผักขม" ค่ะ ผักขมจีน ชนิดที่ว่านี้ใส่แกงเลียง คนข้างกายชอบมาก ตัวเองชอบนำมาผัดเฉยๆ แบบตีกระเทียม ใส่แค่ซีอิ๊วขาวนิดหน่อยค่ะ
ผักโขมอีกชนิด ที่ให้หมูกิน ไม่เคยพบแถวนี้เลยค่ะ หากพบแล้วรู้ว่าทานได้ ก็ไม่ให้หมูกินหรอกค่ะ ^ - ^
บ้านนี้อยู่ค่อนมาทางอำเภอนครหลวง มากกว่า ท่าเรือค่ะ อยู่ไม่ไกลจาก "ปราสาทนครหลวง" โบราณสถานตั้งแต่สมัยพระเจ้าปราสาททองค่ะ
ที่บ้านมี แปะตำปึง คะ
สวัสดีค่ะพี่นุช
แวะกลับมาดูปลาเสืออีกรอบ..คาดว่าน่าจะใช่ค่ะ..พอเห็นแล้วค่ะ ๑ ตัวใต้เงาไม้ค่ะ ^ ^
แล้วก็..ถ้าได้ไปอยุธยาอีกครั้ง จะแวะไปหาค่ะ ไปครั้งสุดท้ายสักครึ่งปีที่ผ่านมา .. ไปไหว้พระน่ะค่ะ
ขอบคุณสำหรับคำเชิญนะคะ ถ้าไม่รบกวนเกินไปจะไปหาสักวันค่ะ ^ ^
สวัสดีค่ะคุณnaree suwan แสดงว่าแปะตำปึงเป็นพืชขึ้นง่ายนะคะ เอาไว้จะหามาปลูกบ้าง ชอบทานผักสดกับน้ำพริกต่างๆ พี่น้อย-แม่บ้าน ตำน้ำพริกอร่อยหลายชนิด ทำอาหารพวกพื้นบ้านรสมือดีมากเลยค่ะ จึงได้ทานผักเป็นประจำ
นำบล็อกของคุณมาเข้าแพลนเน็ตแล้ว (ต้องขอบคุณอาจารย์ขจิตที่สอนให้ค่ะ) ทราบว่าเป็นคนชอบเดินทางและชอบเขียน ดีค่ะ ตัวเองก็ชอบเดินทาง เมื่อก่อนเคยเดินทางบ่อย เดี๋ยวนี้อยู่บ้านมีความสุข นานๆก็ไปไหนๆซะที แบบไม่นานค่ะ
จะเดินทางมาแถวอยุธยา ขอเชิญแวะนะคะ จะพาไปชมสิ่งน่าสนใจที่นักท่องเที่ยวทั่วไปไม่ค่อยไปชมกันค่ะ
จะติดตามอ่านเรื่องของคุณค่ะ ขอบคุณที่มาแสดงตัวให้ได้รู้จักกันค่ะ
สวัสดีค่ะอาจารย์กมลวัลย์ ดีจังที่เห็นไม่งั้นปลาเสือตัวน้อยคงต้องน้อยใจนะคะ
มาเลยค่ะ ชวนเพื่อนหรือจะพาคุณพ่อคุณแม่มาด้วยก็ดี รับรองท่านต้องชอบบรรยากาศชนบทอย่างที่บ้าน และอาหารรสไทยแบบสด สะอาด เรียบง่าย (คุยน่าดู)^-^
ผัก"แปะตำปึง" นี่ ไม่เคยทานเลยค่ะ แต่เคยเห็น ส่วนผักโขมบ้าน เคยทานค่ะ ชอบมากด้วย ทานกับน้ำพริก พร้อมข้าวสวยร้อนๆ อร่อยมากเลย เป็นคนชอบทานผักค่ะ โดยเฉพาะผักพื้นบ้าน
ได้เห็นบรรยากาศของภาพ รู้สึกสดชื่น ร่มเย็น เป็นธรรมชาติมากเลยค่ะ
ภาพแม่น้ำสวยและใสจังค่ะ เหมือนได้มองด้วยตาของตัวเองเลย ^_^ ต้อมชอบจัง!!
ตัวต้อมเชื่อเสมอว่า เม็ดฝนก่อให้เกิดสรรพชีวิต เมื่อเม็ดฝนพร่างพรมสู่ผืนดิน ความชุ่มชื้นก็มาเยือน ต้นหญ้า - ต้นไม้ แตกหน่อ ผลิใบ
สวัสดีค่ะอาจารย์
ชอบบรรยากาศมากเลยค่ะ จากภาพสามารถสัมผัสบรรยายแห่งความสดชื่นได้ ชอบมากๆๆค่ะ
ชอบปลาเสือตัวน้อยๆด้วยค่ะ น่ารักมากๆๆ
แปะตำตึง ที่บ้านก็มีค่ะ แต่ไม่ค่อยทานเพราะเมื่อลวกแล้วเป็นลื่นๆ เมือก เลยไม่ค่อยชอบค่ะ ส่วนผักโขมชอบลวกทานกับน้ำพริกค่ะ
สวัสดีค่ะคุณChabu ขอบคุณที่แวะเข้ามาเยี่ยมค่ะ
พี่ก็ชอบทานผักพื้นบ้านเกือบจะทุกชนิดเพราะ รู้สึกปลอดภัย ว่าเขาไม่ต้องใช้สารเคมี ยิ่งปลูกเองเด็ดกับมือ ยิ่งมีความสุขค่ะ
วันหลังลองทานแปะตำปึงสดๆซีคะ กรอบดีค่ะ ใบไม่คายและกลิ่นแรงอย่างใบหูเสือ
สวัสดีค่ะคุณต้อม ดีใจที่ภาพถูกใจค่ะ
แม่น้ำในแต่ละวัน แต่ละช่วงของวันก็จะไม่เหมือนกัน สวยงาม มองแล้วได้ทั้งข้อคิด และได้ทั้งความสงบใจค่ะ
ตอนฝนกำลังตก แม่น้ำยิ่งสวย เห็นสายฝนกระทบผิวน้ำ แต่ปีนี้เราคงไม่รอดจากน้ำท่วมขึ้นมาถึงชั้นล่าง มีคนบอกว่า ในอำเภอข้างเคียง ปูนานับพันพากันอพยพ (ไม่รู้หนีน้ำ หรือหนี สารฆ่าปู) แต่ไม่กังวลหรอกค่ะ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด อยู่สบายวิเศษสิบเอ็ดเดือน จะลำบากแค่หนึ่งเดือน จะเป็นไรนะคะ
สวัสดีค่ะอาจารย์paew ขอบคุณนะคะที่อาจารย์กรุณามาเยี่ยม
ภาพถ่ายปลาเสือมันเล็กไปหน่อยค่ะ เขามีเป็นครอบครัวนะคะ เวลาไปให้อาหารปลาตอนเย็นๆ จะมีปลาอื่นๆ เช่นปลากระแหทอง ปลาเข็ม และอื่นๆมากินอาหาร แต่เขาจะวนๆอยู่รอบนอก แล้วได้จังหวะก็จะแว๊บเข้ามางับแล้วรีบออกไป ตัวที่ใหญ่นั้น ใหญ่กือบเท่าฝ่ามือเลยค่ะ แล้วตัวน้อยๆ ก็จะมีให้เห็นกันเรื่อยค่ะ
ตอนซื้อผัก พนักงานขายเขาบอกว่าให้ทานสด เลยไม่เคยลวกทานค่ะ แล้วทานสดๆก็กรอบอร่อยมากเลยค่ะ
ที่บ้านยังมีผักอีกอย่างคือผักปรัง ก้านแดง คนงานทางเหนือจะชอบเก็บไปแกงส้ม เคยนำมาลวกมันเป็นเมือกๆ ไม่ชอบทานค่ะ
ทางอีสานนี่มีผักแปลกๆมากมายไปทีไรจะชอบทานอาหารที่มีผักแกล้ม ได้รู้จักผักใหม่ๆทุกครั้งค่ะ
สวัสดีค่ะอาจารย์ลูกหว้า ดีใจจังที่หายยุ่ง ได้มาเยี่ยมกัน
คนอยุธยาตัวสูงใหญ่แบบคนโบราณ แต่เดี๋ยวนี้คนต่างถิ่นเข้ามาอยู่เยอะมาก (เช่นพี่เป็นต้นค่ะ) แล้วอาจารย์ได้มาเยี่ยมญาติที่ยังอยู่อยุธยาบ้างมั้ยคะ หากมีโอกาสลงมา บอกให้ทราบกันบ้างนะคะ
หากชอบทานผักสด ลองทานแปะตำปึงแล้วจะติดใจ กรอบอร่อยค่ะ ไม่ได้คิดว่าทานเป็นยา แต่ที่จริงพืชผักทุกชนิดก็เป็นยา ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งอยู่แล้วนะคะ
สวัสดีค่ะ ดิฉันได้อ่านเกี่ยวกับผักโขมแล้วเมื่อก่อนไม่รู้จักแล้วมีวันหนึ่งแม่ค้าในตลาด
นำมาขายดูน่าทานมากโดยปกติเป็นคนชอบกินผักอยู่แล้วพอแม่ค้าบอกว่าเป็นผัก
โขมก้อเลยลองซื้อมาลวกจิ้ิมน้ำพริกโอ้โหติดใจมากเจอที่ไหนเป็นเก็บค่ะ
โดยส่วตัวอยากมีเป็นของตัวแต่มันไม่มาขึ้นที่บ้านเราบ้างเลยอิจฉาบางคน
ที่มีเป็นของตัวเองแต่ไม่รู้ว่าเขารูจักหรือเปล่าทำยังไงดีอยากมีผักโขมเป็นของ
ตัวเองจังเลย เคยเอามาปลูก(แบบว่าแอบถอนมา)แต่ไม่ขึ้นทำไงดีคะ
หนิง
สวัสดีค่ะคุณหนิง (ชื่อเหมือนน้องในบล็อกนี้คนหนึ่งเลยค่ะ คนละคนกันใช่มั้ยคะ) ขอบคุณค่ะที่มาอ่านบันทึกนี้ ดีใจที่ที่มีคนชอบทานผักโขมบ้านนี้เหมือนกันถึงขนาดอยากปลูกไว้ทานเอง
ที่บ้านนั้นเขามาขึ้นเองเอง แต่คิดว่าต้นคงมีเมล็ด เพราะมีช่อดอกใหญ่เชียว คุณหนิงอีเมล์ไปบอกที่อยู่ไว้ให้ดิฉันทราบหน่อยซีคะ เก็บเมล็ดได้จะส่งไปให้ทดลองปลูก
มาตอบคุณหนิงเลยเพิ่งเห็นว่าไม่ได้ตอบอาจารย์ขจิตค้างปีทีเดียว ต้องขออภัยอาจารย์ขจิตไว้ ณที่นี้ด้วยนะคะ
สวัสดีครับพี่นุช
สบายดีไหมครับ เห็นภาพบรรยากาศแล้วยิ้มครับ เห็นความเรียบง่ายของชีวิตดีครับผม อยู่กับธรรมชาติมีความสุขได้ทุกขณะเลยนะครับ ปล่อยความคิดดีๆ ความคิดดีๆ ก็แล่นฉิวในธรรมชาติเลยนะครับ
ผมมีสองเรื่องมาเล่าแลกเปลี่ยนจากที่คิดได้จากภาพของในบทความนะครับ
อีกอย่างครับ ผักโขมผัดน้ำมันหรือแกงเลียง อร่อยมากๆ เลยนะครับ
รักษาสุขภาพนะครับ โชคดีครับ บางทีชีวิตเราเต็มไปด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกมากไปก็ไม่ดีนะครับ สมองเราไม่คิดหาทางออกให้เกิดปัญญาเท่าที่ควร
ขอบคุณมากครับ
เรียนคุณนายดอกเตอร์ค่ะ
เผอิญ ค้นหาข้อมูลและเข้ามาเจอบล็อกโดยบังเอิญเป็นบล็อกที่น่ารักมาก แต่เห็นโพสกันตั้งแต่ปีที่แล้ว คิดว่าคงไม่สายเกินไปนะคะถ้าจะขออนุญาติ โพสข้อความด้วยคน เพราะประทับใจตัวบล็อก , รูปภาพ โดยเฉพาะภาพเรือน้อยลำนั้นนะคะ และก็สามาชิกแต่ละท่านที่เขียนทักทายกัน
เคยทานแป๊ะตำปึงค่ะ โดยใช้เป็นผักใส่ในข้าวผัดแทนคะน้า ใบสดก็ทานกับน้ำพริกอร่อยดีเหมือนกันค่ะ ส่วนผักโขมเพิ่งได้ประสบการณ์ตรงเพราะเพิ่งไปเก็บมาแจกเพื่อนบ้านเมื่อเดือนที่แล้ว พอดีบ้านอยู่ในชนบท เป็นอำเภอหนึ่งที่จังหวัดสงขลา เลยมีโอกาสเจอเจ้าผักโขมเยอะหน่อยค่ะ วันนั้นได้มาถุงใหญ่และเยอะมากจนสามารถแจกเพื่อนบ้านได้ถึง 5 หลังคาเรือนเลยค่ะ เสียดายถ้าอยู่ใกล้กันจะชวนมาเก็บด้วยกัน สวัสดีนะคะ
ยินดีมากเลยค่ะที่คุณก้อยแวะเข้ามาอ่านและทักทายกัน ทำให้คนเขียนปลื้มที่มีผู้มาพบกับบันทึกเก่าของเราแล้วยังเห็นว่ามีความน่าสนใจ และสนใจมากพอที่จะลงความเห็นให้ได้ทราบว่าแวะมา
ไม่เคยนำผักแป๊ะตำปึงใช้แทนผักคะน้าเลยค่ะ ท่าทางจะอร่อยแน่ๆ วันหลังจะลองสูตรนี้ดูบ้าง ขอบคุณที่บอกให้ทราบค่ะ
คนอยู่ชนบทและยังมีความรู้ตามภูมิศาสตร์ของตนอยู่นับว่าโชคดีมากนะคะ เพราะเราจะรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ มีความโปร่งเบาสบายใจ
กำลังจะไปประชุมที่หาดใหญ่ปลายเดือนพฤษภานี้ค่ะ จะส่งใจไปทักทายคุณก้อยด้วยค่ะ^__^
ขออภัยคุณเม้ง เม้ง สมพร ช่วยอารีย์ ที่หลงตาไม่ได้ตอบ และขอบคุณที่ให้เคล็ดลับทำให้มะละกอเป็นมะละกอตัวเมีย เพิ่งเคยได้ยินค่ะ
เจ้านกกะปูดที่บ้านพี่ชอบมาเดินที่ท่าน้ำ บางทีก็เห็นเป็นคู่ บางทีก็เห็นตัวเดียว ตัวใหญ่เชียวค่ะ
ความจำเป็นหรือมีวัตถุดิบจำกัดทำให้เรารู้จักคิดใช้ประโยชน์จากธรรมชาติได้อย่างเหลือเชื่อนะคะ ยุคนี้สะดวกซื้อทุกอย่างเลยหลงลืมทุนธรรมชาติและทุนปัญญาที่เคยมีอยู่
(ส่งกระแสจิตไปถึงคุณเม้งก็แล้วกัน)