เคยได้ยินเขาพูดคำพังเพยว่า เหมือนกับขมิ้นกะปูนเลย
หมายถึง ไม่ถูกกัน ไม่ลงรอยกัน ไม่ชอบกัน เห็นกันทีไรจะต้องว่ากล่าวกัน เขาเรียกว่า ขมิ้นกับปูน
แต่ที่ครูอ้อยไปพบมา และจะมาเล่าให้อ่านกันต่อไปนี้นะคะ หมายถึง ขมิ้นที่สีเหลืองเข้ม กับปูนที่เขากินกับหมาก เขาคืนดีกันค่ะ
เมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปหาข้อมูลเพื่อจัดทำวิจัยเชิงคุณภาพ โดยเข้าศึกษาหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่มีภูมิปัญญาไทยมากมาย
แต่ครูอ้อยสนใจบ้านที่ทำปูนกินกับหมาก สนใจว่าเขาทำอย่างไร และดูทีวีมาว่าที่ไต้หวันกำลังนิยมกินหมากกันมากในกลุ่มวัยรุ่น และหมากที่นิยมนั้นก็ต้องส่งมาจากเมืองไทย
การกินหมากนั้นก็ต้องมีใบพลู สีเสียดหรือหมาก และที่ขาดไม่ได้คือ ปูนกินกับหมาก
หันมาดูวิธีการทำ ปูนกินกับหมากดีกว่า คุณคนไกล ท่านสงสัยว่าครูอ้อย กวนอะไรอยู่ ซึ่งเป็นโจทย์ให้เขียนบันทึก.นวันนี้
จะได้อรรถาธิบายกันล่ะค่ะ
ดูภาพประกอบด้วยนะคะ ที่เห็นในภาพนี้ คือ ปูนที่ต้องไปซื้อมา เมื่อก่อนนี้ขุดเอาแถวละแวกนี้ก็ได้ แต่มันหมดไปแล้ว เลยไปขุดที่อื่น แต่พอเจ้าของที่ดินมารู้ว่าเอาไปทำปูน สามารถจำหน่ายเป็นเงินได้ เจ้าของที่ดินเลยขาย อัตราการขายก็คือ รถกะบะ 1 คันราคา 1,300 บาท
จากนั้นก็นำมาปั่น ให้ละเอียด เมื่อก่อนนี้ใช้วิธีการทุบในครกกระเดื่อง แต่ในปัจจุบันใช้โม่บด เหมือนที่เขาก่อสร้างเขาบดหินนะค่ะ เมื่อปูนแหลกละเอียดดีแล้ว ก็นำไปต้ม
เวลาที่ต้ม ก็ต้องต้มทั้งคืนเลย ต้องใช้ฟืนในการต้มค่ะ ฟืนนั้นก็ต้องซื้อ กองที่เห็นในภาพราคา 1,000 บาทค่ะ นี่คือหม้อต้มค่ะ บ้านนี้เป็นบ้านที่ทำปูนกินกับหมากทั้งครอบครัว เตานี้เป็นเตารุ่นพ่อแม่ปู่ย่าตายาย เมื่อมีลูกก็แยกครอบครัวไป มีเตาเป็นของตนเอง ที่เห็นมันสีแดง ไม่ใช่มันแดงเองนะคะ เขาต้องใส่น้ำปลา เอ๊ยไม่ใช่ ใส่...... แน่นอน ใส่นางเอกในวันนี้ คือ ขมิ้น นั่นเอง ทีนี้ ครูอ้อย ก็เห็น ปูน กับ ขมิ้น เขาดีกันค่ะ ปูนกินกับหมากจึงมีสีแดงสวยงาม ที่เรียกว่า สีปูนแดง สีปูนแห้ง
จากนั้น ใส่ขมิ้น กวนไปมา ไปมา ภาพนี่ล่ะ ที่คุณคนไกลสงสัยว่า ครุอ้อยทำอะไรนะ ไม่ใช่กวนกาละแม นะคะ กวนปูนที่กำลังเดือดปุดปุด เจ้าของบ้านร้องว่า ออกมาไกลๆค่ะ ปูนร้อนๆ เดี๋ยวมันกระเด็น ผิวจะลอกออกมาเลย ครูอ้อยเลยต้องออกมาไกลๆค่ะ กลัว.....กลัว......
พอได้เวลา หนึ่งคืนนะคะ ก็ตักปูนแดงออกมาผึ่งในกระบะสี่เหลี่ยมที่มองเห็นอยู่ข้างหน้า ผึ่งไว้อีกหนึ่งคืน จึงจะตักใส่ถุง ถุงละ หนึ่งกิโลกรัม
เป็นอันว่าเสร็จสิ้นการทำปูนกินกับหมาก เคล็ดลับ ใส่เกลือตอนที่ใส่ขมิ้นนะคะ ไม่ใช่น้ำปลาค่ะ
หากสงสัยอะไรอีก ถามได้นะคะ
ประโยชน์ของปูนแดง ก็คือ กินกับหมาก แช่ส่วนผสมของอาหารให้มีความเหนียว เช่น มันต้มน้ำตาล มันจะไม่เละ นอกจากนั้น ถ้าล้มลุกคลุกคลานจนหัวโน ก็เอาปูนแดงทาไว้ หัวจะไม่โนค่ะ ยุงกัดก็ทาแก้ยุงกัดได้นะคะ
แต่สุนัขลอบกัด ทาเท่าไรก็ไม่หายค่ะ ต้องทำความดีกับสุนัขให้มากๆ จึงจะไม่เจ็บค่ะ อิอิ ครูอ้อยก็เปรียบเทียบไปได้
ปูนแดง สนนราคาปลีก กิโลกรัมละ 55-60 บาท ค่ะ
ราคาขายส่งต่างกันมาก กิโลกรัมละ 35 บาทค่ะ
ครูอ้อยคิดว่าจะซื้อมาเก็บใส่ขวดไว้ เวลาจะทำขนม พ่อบ้านบอกว่าไม่ต้อง.......เพราะซื้อเขากินดีกว่า ประเมินเอาเองนะคะ ว่าครูอ้อยทำขนมเก่งหรือเปล่า......
ขอบพระคุณ ครูอ้อย เป็นอย่างสูงที่ทำให้ผมกระจ่างในกระบวนการทำหมาก
ตอนเป็นเด็กผมลองแอบกินหมากปูนของย่า แต่รู้สึกว่าไม่อร่อย เลยหันมากินหมากฝรั่งแทน
แต่ผมจำได้ว่า ตอนนั้นใช้ปูนขาว ไม่ใช่ปูนแดง ผมเลยคิดเอาเองว่า ปูนแดงน่าจะสกปรกกว่าปูนขาว แต่จากที่ครูอ้อยเล่า ปูนแดงน่าจะกลมกล่อมกว่านะ เพราะส่วนผมสมุนไพร
พูดถึงเรืองหมาก วันก่อนผมคุยกับเพือนที่จันทบุรี บอกว่า ตอนนี้คนนิยมปลูกหมากมากขึ้น เพราะเม็ดในของหมากเอามาทำสีพ่นรถได้ เลยมีการส่งเสริมกันมาก ตอนนี้ชาวสวนเลยหันมาปลูกหมาก โดยผสมกับไปพืชสวนอื่นๆ
ไม่น่าเชื่อ เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว แถวบ้าน (แพร่) เริ่มเลิกกินหมากจน ตอนนี้แทบจะสาบสูญ จะเหลือเพียงใช้ประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อเท่านั้น
น่าเสียดายภูมิปัญญาไทยนะคัรับ
ขอบคุณมากค่ะ คุณคนไกล ภูมิปัญญาแบบนี้ นับวันเด็กรุ่นใหม่จะไม่รู้จักแล้วค่ะ
แล้วคอยติดตามการถักไซดักปลานะคะ
ขอบคุณหลายๆๆเด้อ
ที่ให้ข้อมูล
ไม่เป็นไรมิได้ ยินดีค่ะ ท่าน ขอนแก่น#10 [IP: 61.19.121.157]
ทำปูนที่ไหนครับ สนใจขั้นตอนการทำ วิธีทำที่ละเอียดกว่านี้ และใช้แก็สแทนฟื้นได้ไหม..ติดต่อสอบถามได้ที่ไหนครับ ช่วยเมลกลับที่นะครับ ขอบคุณครับ
สวัสดีค่ะ
ต้องไปที่จังหวดนครราชสีมา อำเภอโชคชัย นะคะ คิดว่า ภูมิปัญญา น่าจะให้คำตอบที่ดีที่สุดค่ะ ขอบคุณที่สนใจ
สอบถามเพิ่มเติมครับ ทำไมต้องใส่เกลือในระหว่างผสมขมิ้นครับ