กลุ่มวรรณกรรมต่อขวัญ เป็นกลุ่มวรรณกรรมกลุ่มที่สองที่มีการรวมตัวขึ้นอย่างเป็นทางการในรั้วมหาวิทยาลัยมหาสารคาม โดยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2542 ภายใต้การเสวนาแบบ F2F ในชายคาบ้านท่านอาจารย์ธัญญา สังขพันธานนท์ (ไพฑูรย์ ธัญญา)
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">กลุ่มวรรณกรรมต่อขวัญ อาจจะแตกต่างลิบลับกับกลุ่มวรรณกรรม “ป่งใบ” เพราะถือกำเนิดขึ้นจากกลุ่มผู้รักและหลงใหลในการอ่านวรรณกรรม ยังไม่มีใครแจ้งเกิดเป็นนักเขียนเลยแม้แต่คนเดียว ถ้าจะมีบ้างก็คงเป็นคุณวิชัย จันทร์สอนกระมังที่พอจะมีบทกวีตีพิมพ์เผยแพร่อยู่ก่อนแล้วในนิตยสารต่าง ๆ </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">และส่วนใหญ่ก็เป็นการรวมกันระหว่างนิสิตปริญญาโทและนิสิตปริญญาตรีในวิชาเอกภาษาไทยทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น คุณประยูร หงษาธร ศุภเมธ หมายมุ่ง ธนวรรธ ชายกุล สุวิล โต่นวุธ รวมถึงโกสินทร์ ขาวงาม (เอกทัศนศิลป์) และคุณประจวบ จันทร์หมื่น บัณฑิตหนุ่มที่จบแล้ว (ตอนนี้ออกเทปในชื่อวงอีเกิ้ง อัลบั้ม อีเกิ้งเต็มดวง) รวมถึงตัวกระผมเอง นายพนัส ปรีวาสนา ด้วยเช่นกัน</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมยังจำค่ำคืนการก่อเกิดกลุ่มวรรณกรรมของตนเองได้อย่างชัดเจน เพราะครั้งนั้นกว่าจะได้ชื่อกลุ่มว่า “ต่อขวัญ” ถึงขั้นต้องโหวตลับกันเลยทีเดียว ซึ่งผมเป็นคนเสนอชื่อนี้เข้าชิงชัยด้วยตัวเอง โดยอภิปรายชี้แจงต่อองค์ประชุมว่า “เพื่อให้ชื่อนี้ตอบประวัติศาสตร์การก่อเกิดกลุ่มวรรณกรรมที่ “ต่อ” เนื่องมาจากกลุ่มป่งใบที่ปิดตัวลงแล้ว และอีกนัยหนึ่งก็คือ “ต่อขวัญ” คือ กลุ่มวรรณกรรมที่เกิดมาเพื่อสาน “ต่อ” ลมหายใจของกลุ่มวรรณกรรมและหนังสือทำมือในรั้ว มมส” </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">กลุ่มวรรณกรรมต่อขวัญมีลักษณะที่ต่างไปจากกลุ่มป่งใบอยู่ประการหนึ่งก็คือ ไม่เน้นเรื่องการผลิตหนังสือทำมืออย่างจริงจัง แต่มุ่งพบปะเสวนาและแลกเปลี่ยนเรื่องวรรณกรรมเป็นสำคัญ โดยในทุกวันเสาร์ของสัปดาห์ก็จะสัญจรมาแลกเปลี่ยนเรื่องวรรณกรรมกันอย่างสม่ำเสมอ ใครมีหนังสือดีก็นำมาเล่า ใครมีผลงานก็เอามาให้เพื่อนได้ร่วมวิจารณ์เสนอแนะ ซึ่งมี อ.ธัญญา สังขพันธานนท์ และพี่สุขุมพจน์ คำสุขุม เป็นที่ปรึกษาคอยชี้แนะอย่างอาทร</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">กระทั่งเมื่อวันเวลาล่วงมาจนถึงเดือนมกราคม 2543 จุลสารต่อขวัญฉบับปฐมฤกษ์ก็ได้เวลาเปิดโฉมต่อสาธารณชน โดยมีสโลแกนว่า “ต่อขวัญ : อีกทางเลือกของกิเลสคอวรรณกรรม” </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">การปรากฏตัวของจุลสารต่อขวัญฉบับทำมือเล่มเล็ก ๆ ด้วยกระดาษพิมพ์สีขาวครั้งนั้น ถือได้ว่า ฮือฮาและเป็นที่จับตามองกันไม่น้อย หรืออาจจะเป็นเพราะหลังจากป่งใบปิดตัวลง กลุ่มวรรณกรรมใน มมส ก็กลายเป็นสุญญากาศ มีความเงียบทางวรรณกรรมห่มคลุมอยู่บ้างเล็กน้อย เมื่อชาวต่อขวัญเผยโฉมออกมาทักทายก็ชวนให้สนใจและติดตามอย่างง่ายดาย ….</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">การเปิดตัวของจุลสารต่อขวัญฉบับปฐมฤกษ์ (มกราคม – กุมภาพันธ์ 2543) ได้สร้างความตื่นตัวในการรวมกลุ่มทางวรรณกรรมใน มมส เป็นอย่างมาก ดังจะเห็นได้จากเริ่มมีหลายคนเข้าร่วมวงไพบูลย์กับพวกเรา บางคนก็รวบรวมคอวรรณกรรมตั้งเป็นกลุ่มขึ้นมา หรือบางคนก็พยายามที่จะนำเสนอผลงานตัวเองในแบบศิลปินเดี่ยว !</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ทันทีที่หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งได้ทำการสัมภาษณ์ผมและเขียนถึงกลุ่มวรรณกรรมต่อขวัญ ก็ยิ่งทำให้กลุ่มวรรณกรรมต่อขวัญเป็นที่สนใจใคร่ดีจากผู้คน ถึงขั้นว่ามีกัลยาณมิตรส่งเงินมาจากแดนไกลสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการผลิตหนังสือทำมือเลยทีเดียว</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">อย่างไรก็ตาม จุลสารต่อขวัญ มีความหลากหลายทางด้านเนื้อหามิใช่น้อย เพราะไม่เพียงการตีพิมพ์ผลงานของกลุ่มเพียงสถานเดียว แต่ยังมีคอลัมน์แนะนำหนังสือ , คำคมจากวรรณกรรม, แนะนำนักเขียน, แนะนำบทกวีและเรื่องสั้นเก่า ๆ ที่ควรค่าต่อการศึกษา รวมถึงการเน้นภาพประกอบที่เกิดจากลายเส้นของคุณโกสินทร์ ขาวงามที่ถือได้ว่านั่นคือเวทีแรกที่เขาได้ละเลงลวดลายลงอย่างเป็นทางการในหนังสือทำมือ ซึ่งบัดนี้เจ้าตัวก็แจ้งเกิดในฐานะนักเขียน และนักวาดในสังคมเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">และนี่คือคำแถลงการณ์ที่ผมได้เขียนไว้ในจุลสารเล่มแรกของชาวต่อขวัญเมื่อร่วม 7 ที่แล้ว</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">“จุลสารต่อขวัญ เป็นผลิตผลทางอารมณ์ของกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมหลงใหลอยู่กับการเสพวรรณกรรม เห็นหนังสือที่ไหนเป็นต้องถลาร่อนเข้าไปซบ ! เก็บตัวอยู่ในร้านหนังสือได้เป็นชั่วโมง ๆ ขึ้นรถลงเรือไปเหนือล่องใต้ ภายในย่ามก็ต้องพกพาหนังสือ (คำนึงถึงหนังสือมากกว่ายาดม ยาหม่อง) ไม่แค่นั้นหรอก เข้าห้องน้ำยังต้องหนีบหนังสือติดมือเข้าไปด้วย</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">นั่นแหละ – พฤติกรรมของกลุ่มบุคคลที่ชอบ “เสพวรรณกรรมแทนอาหารว่าง” เย็นย่ำของทุกวันเสาร์ก็หันมารวมกลุ่มพูดคุยเสวนาเรื่องวรรณกรรม บ้างเอาหนังสือมาอวด บ้างเขียนเรื่องสั้นและบทกวีมาแบ่งกันอ่าน บ่อยครั้งเข้าทั้งพฤติกรรมส่วนตัวและกิจกรรมเสวนาก็กลายเป็น “กิเลส” ..กิเลสที่เราพร้อมใจกันเรียกมันว่า “กิเลสของคอวรรณกรรม…</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ท้ายที่สุด – ความเป็นกิเลสของคอวรรณกรรมอย่างพวกเรา ๆ ก็หลอมตัวกลายออกมาเป็นจุลสารต่อขวัญ จุลสารที่เป็นผลิตผลของการเสพวรรณกรรม ด้วยความปรารถนาจะสะกิดเตือนมิ่งมิตรให้หันมาให้ความสำคัญต่อการเสพวรรณกรรม เพราะเราเชื่อและศรัทธาว่าอานุภาพแห่งวรรณกรรมจะช่วยรังสรรค์ให้มวลมนุษยชาติมี ชีวิตที่ดี – สังคมที่ดี …เราเชื่อเช่นนั้น”</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ส่วนในทางกระบวนการผลิตต้องถือว่า เป็นการผลิตในแบบ “ทำมือ” ล้วน ๆ พิมพ์แล้วตัดแปะเป็นต้นฉบับ จากนั้นก็นำไปถ่ายเอกสารแล้วมาเย็บเล่ม จำหน่ายในราคา 20 บาท</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">จุลสารต่อขวัญ โลดแล่นอยู่ในมหาวิทยาลัยในช่วงหนึ่ง มีจุลสารและหนังสือทำมือออกสู่แวดวงประมาณ 4 เล่ม รวมถึงการเป็นแรงส่งให้นิสิตนำผลงานของตนเองมาพิมพ์เป็นหนังสือจำหน่ายขายอย่างเป็นทางการ….</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p></p><p>เหนือสิ่งอื่นใด คงไม่อาจเรียกได้ว่ากลุ่มวรรณกรรมต่อขวัญ คือ ผลิตผลของกลุ่มวรรณกรรมป่งใบ เพราะมีเพียงผมคนเดียวเท่านั้นที่ได้แรงบันดาลใจมากจากกลุ่มป่งใบ แต่วิถีที่ก้าวเดินไปนั้นก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน นั่นก็คือ การสืบต่อลมหายใจการอ่าน - การเขียนในสถานศึกษาอันเป็นที่รักยิ่งของตนเอง </p><p> </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">แล้วค่อยมาตามรายละเอียดที่เหลือที่ถือน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นครั้งแรกที่หนังสือทำมือขายดิบขายดี จนต้องผลิตซ้ำมากกว่า 2 ครั้ง </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">โดยเฉพาะคนที่ชอบอ่านบทกวีรักที่ไม่ถึงกับหวานจนเลี่ยน ต้องไม่พลาด ..</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>
อยากเห็นจุลสารต่อขวัญ ถูกตีพิมพ์ วางแผงเบียดหนังสือ (อื่นๆไร้สาระ) ตกขอบ ตามตลาดร้านหนังสือทั่วไปจังเลย ผมคิดว่านักเขียนคงมีความใฝ่ฝันเหมือนกัน เพราะนั่นจะเป็นความภาคภูมิใจกับผลงานของตัวเองเป็นอย่างยิ่ง
***แล้วจุลสารนี้ยังคงสืบสานอยู่เช่นเดิมไหมครับ
ก่อนอื่นต้องขอบคุณในแรงใจและความปรารถนาดีที่มีต่อชาวต่อขวัญ...แต่เราก็คงไม่อาจเทียบชั้นกับหนังสือและนิตยสารที่ร่ำรวยต้นทุนเหล่านั้นได้ !
ตอนนี้และขณะนี้ไม่มีจุลสารต่อขวัญแล้วครับ... หลายคนแยกไปตามเส้นทางชีวิต บ้างกลับไปสอนหนังสือเด็ก, บางคนอยู่ในสำนักพิมพ์ บางคนไปเป็นผู้สื่อข่าวทีวี บางคนไปเป็นพระเอกละครเวที และบางคนก็กำลังเดินตามฝัน คือ เขียนหนังสืออย่างเอาเป็นเอาตาย
....
พวกเรายังติดต่อกันบ้าง ... คิดถึงและระลึกถึงกันเสมอ
ขอบคุณมากครับ...
ว้าว น่าติดตาม ชวนชื่นชม ให้ลองสัมผัส
.
ช่วงความกว้างของเวลา ไม่กว้างกว่า ช่วงความกว้างของสมอง เลย
.
ก่อเกิด กิเลส แห่งการอยากลิ้มลองวรรณกรรม แล้วละครับ อิอิ
..น้องแจ๊ค ครับ
แม่นมากครับ...
ทุกวันนี้ชีวิต หรือสมองของพี่ก็ยังถูกหล่อเลี้ยงด้วยวรรณกรรมเกือบทุกชนิด ไปไหนมาไหนมีหนังสือติดมือติดย่ามเป็นอาหารสมองเสมอ...
สวัสดีครับ คุณตาหยู
ผมช่างประทับใจวลีเหล่านี้จังเลยครับ ช่วงความกว้างของเวลา ไม่กว้างกว่า ช่วงความกว้างของสมอง
....
ผมชอบอ่านหนังสือ บางครั้งซื้อหนังสือมากกว่าซื้ออาหารการกินเลยด้วยซ้ำไปครับ...
ขอบคุณมากครับ
กลุ่มวรรณกรรมใน มมส เคยส่งหนังสือทำมือรวมบทกวีประกวดซีไรต์และติด 1 ใน 5 แล้วนะครับ...รวมถึงชนะเลิศการประกวดหนังสือทำมือเกือบทุกปีเลยก็ว่าได้
ตอนนี้ก็มีกลุ่มใหม่ก่อร่างสร้างปัญญาขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ยังไม่แกร่งและจัดเจนเหมือนที่ผ่านมา
ขอบคุณครับ...ที่แวะมาชื่นชมเป็นกำลังใจผมอย่างไม่รู้จบ
สวัสดีครับ...อ.แป๋ว
วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดผม...คนข้างเคียงเลยพาไปเลี้ยงหนัง 1 รอบ...(ผีไม้จิ้มฟัน ...ไม่โรแมนติคเอาซะเลย)
ผมเป็นคนอารมณ์ศิลปิน อ่อนไหว บอบบางและห้าวห้วน และที่สำคัญคือ ขี้อายครับ..
ขอบคุณครับ พี่อนงค์
ลูกยังคงเป็นอันดับหนึ่งของผม...อยู่ที่บ้านผมจะเล่นกับพวกเขาจนสะบักสะบอม เด็กนอนโน่นแหละถึงได้อ่านหนังสือ
เว้นแต่การไปราชการเท่านั้นครับ ที่ทำให้ร่างกายของผมห่างไปจากลูก
ยืนยัน...ไม่ได้เสพวรรณกรรมจนลืมลูก ๆ ครับ....แม้กระทั่งจะเขียนบันทึก ยังต้องแบ่งเวลาให้น้องดินเล่นเกมส์ในโน้ตบุ๊คด้วยเช่นกัน
สวัสดีครับ อ.แพนด้า
ขอบพระคุณครับ สำหรับคำชี้แนะอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ รวมถึงการช่วยย้ำเตือนถึงความเป็น KM ในวิถีของผม
ผมยังต้องเรียนรู้อีกเยอะครับ
ผมมีแนวคิดอยากจัดตั้งกลุ่มที่มีแนวคิดเช่นนี้คือแนววรรณกรรม ผมชอบการเขียนมากๆ อยากได้คำแนะนำครับ พี่กุ๋ย อีเกิ้ง (พี่ประจวบ จันทร์หมื่น)ท่านเป็นเจ้าหน้าที่อยู่ที่ม.ผมครับ รู้จักกันดีครับ ขอคำแนะนำในการตั้งกลุ่มด้วยครับ สวัสดีครับ
สวัสดีครับพี่พนัส
หลายปีแล้วที่เราไม่ได้เจอกัน ตั้งแต่แผ่นดินยังอยู่ในท้อง จนป่านนี้แผ่นดินเดิบโตจนรู้จักที่จะเรียนรู้ หลังจากที่จบจากรั้วมหาวิทยาลัย 2-3 ครั้งที่ผมได้กลับไปไปที่นั่น แต่ไม่มีโอกาสได้เจอกัน ลึกๆ แล้วยังหวังที่จะติดต่อกัน ยังอยากที่จะคุยกับพี่เสมอ มีโอกาสอยากจะเขียนจดหมายถึงพี่ครับ
ตอนนี้ผมอยู่ที่
ศุภเมธ หมายมุ่ง
25/5 ม.5 ต.คลอง6 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 12120 ครับ
ด้วยความเคารพ