ขับรถเดินทางไป........ขับใจกันชั่วชีวิต (ขับใจคุณกันอย่างไร)


ใจคนเรานี่เร็วกว่าแสง หรือเปล่าครับ ยังไม่ทันกดสวิทช์เลย ใจไปซะก่อนแล้วครับ.....คุณคิดว่า คนเราควรจะมีวิธีการขับใจตัวเองอย่างไรครับ......เพื่อให้ชีวิตนี้เดินไปได้ปลอดภัย โดยเฉพาะใจที่วิ่งเร็วมากๆ เนี่ยจะควบคุมใจอย่างไรครับ

สวัสดีครับทุกท่าน

            วันนี้ชวนคุณมานั่งคิดกันเล่นๆ ต่อครับ (แต่เอาจริงครับ) คิดไปจิบชาไปนะครับ พอดีได้ประเด็นตอนไปตอบคุณราณีในบันทึกนี้ครับ ต่างมอง...ต่างมุม(การคิดดี ทำดี เป็นเรื่องล้าสมัยจริงหรือ?) ก็เลยเอามาตั้งประเด็นเพิ่มกันต่อครับ ประกอบกับคุณบ่าววีร์บอกว่า ไม่อยากให้โลกร้อน ขับ Fiat ซิครับ แล้วโยงไปยังบันทึกเมื่อวานก่อนด้วยครับ ที่ผมเขียนเอาไว้กันเรื่อง ร้อนนอกเย็นใน ใจจะสุข เย็นนอกร้อนใน ใจจะสุก

            เมืองไทยเราตอนนี้มีรถซักกี่ล้านคันครับ แบบไม่ต้องแยกเป็นประเภทก็ได้ครับ เอาแบบที่ขับได้นะครับ รวมทุกชนิดรถเลย ตัวเลขคนน่าสนใจทีเดียวครับ จะเห็นว่าคนขับแต่ละคนขับกันได้อย่างช่ำชอง บ้างก็แข่งกัน บ้างก็เกิดอุบัติเหตุ ล้างก็สนุกกับการขับช้า บ้างก็สนุกกับขับซิ่ง บ้างก็สนุกกับการขับฝ่าไฟแดง พอเปลี่ยนจากเขียวเป็นเหลืองปั๊บ เหยียบโลดเลยครับ

            ผมเองขับรถไม่เป็นเลยครับ........รถยนต์นะครับ เพราะว่าไม่มีรถ แล้วชาตินี้ไม่แน่ใจว่าจะมีรถไหมครับ........ที่ขับได้ตอนนี้ และวันนี้อยากจะชวนท่าน มาขับรถยี่ห้อหนึ่งที่ติดตัวท่านมานานตั้งแต่เกิดเลยครับ นั่นคือ ชวนมาขับใจของเราเองกันดีกว่าครับ

            รถเองก็มีความเร็วแต่ต่างกันใช่ไหมครับ แล้วใจหล่ะครับ โห ใจนี่ก็เร็วไม่ใช่ย่อยนะครับ.....เผลอแป๊บเดียวอยู่หน้าจอในเยอรมัน แว๊บเดี๋ยววิ่งไปเมืองไทยแล้ว วิ่งไปยังในครัวที่บ้านแล้วว่าวันนี้แม่จะแกงอะไรหนอ......ทำต้องให้โทรกลับบ้านอีกแล้วครับ.....อิๆ

            ใจคนเรานี่เร็วกว่าแสง หรือเปล่าครับ ยังไม่ทันกดสวิทช์เลย ใจไปซะก่อนแล้วครับ.....คุณคิดว่า คนเราควรจะมีวิธีการขับใจตัวเองอย่างไรครับ......เพื่อให้ชีวิตนี้เดินไปได้ปลอดภัย โดยเฉพาะใจที่วิ่งเร็วมากๆ เนี่ยจะควบคุมใจอย่างไรครับ

  1. เราจะควบคุมใจเราอย่างไรครับ (ขับใจอย่างไร)

  2. เราต้องบำรุงรักษารถแล้วจะบำรุงรักษาใจอย่างไรเพื่อให้ขับสะดวก (ขัดหัวเทียน หัวใจอย่างไร)

  3. เราต้องสร้างกฏของเรามาควบคุมความเร็วของใจไหมครับ ต้องมีไฟแดง เขียว เหลือง ไว้ควบคุมตามสี่แยกต่างๆ ไหมครับ อิๆ สี่แยกในดวงใจ (คุ้นๆ ไหมครับ)

  4. หากเราขับใจเราแหกโค้งแถวๆ แม่ฮ่องสอน เราจะทำอย่างไรครับ มีวิธีการแก้ไขอย่างไรครับ (แหกโค้ง แหกใจ)

  5. หากเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมาเราจะต้องกู้คืน หรือมีวิธีการกู้คืนไหมครับ (กู้คืน ซ่อมใจ)

  6. อื่นๆ.....เชิญคุณเสริม......นะครับผม

ขอบคุณมากนะครับ

เม้ง สมพร ช่วยอารีย์

           

คำสำคัญ (Tags): #ขับรถ#ขับใจ
หมายเลขบันทึก: 92090เขียนเมื่อ 24 เมษายน 2007 02:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:19 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (42)

คุณเม้งครับ

รายการนี้ขอโทษเถอะครับผมไม่มีใบขับขี่หัวใจ

P

สวัสดีครับคุณสิทธิรักษ์

  • อิๆ สวัสดียามเช้าก่อนเที่ยง จิบชาหนึ่งแก้วครับ
  • ผมก็กำลังจะสอบอยู่เหมือนกันครับ แต่ก็สอบมาตลอดครับ ไม่รู้จะผ่านหรือเปล่าครับ
  • ไว้สอบแล้วผมจะกลับไปเลี้ยงชานะครับ ใบขับขี่ใจ เผื่อกลับไปจะได้ขับให้วิ่งถูกลู่ถูกทางกับเค้าบ้างครับ
  • ไม่แหกโค้งไปเสียก่อนครับ
  • ขอบคุณมากๆครับ อ้าว น้อรก...เลิกแก้ว.....ยิ้มๆ

ตั้งสติก่อนสตาร์ทครับ...

ไม่ว่าจะขับรถหรือขับใจต้องมีสติเหมือนกันครับ...

ขอบคุณครับ...

การคิดดี และทำดีไม่ได้เป็นเรื่องที่ล้าสมัยแต่หลายคนบอกมันเห็นผลช้า  ถ้าหากเราทำแล้วสบายใจสักวันก็จะให้เห็นสิ่งที่ดี   การขับรถหรือขับใจก็ต้องใช้สมาธิในการบังคับ  หากเราเร่งรีบ  หรือใจไม่ได้อยู่กับตัวเราแล้วก็ทำให้เราขาดสติบังคับตนและใจไม่ได้

สำหรับตัวเองนะคะ..ขอจิบชาอึกนึงก่อนนะคะ..ฮิฮิ

  • ก่อนอื่นจะไปไหน.ก็ควรตรวจดูสภาพของรถก่อนนะคะ..ควรเช็คอย่างสมำเสมอ(เช็คใจ..สภาพจิตอย่างเป็นปัจจุบัน)เพราะหากเรารู้สมรรถนะของรถแล้วเราก็จะยอมรับและเข้าใจมัน..ไม่ใช้มันเกินสมรรถนะน่ะค่ะ...(จะได้ไม่เกินตัว)
  • พยายามไม่แหกโค้งก็ต้องหมั่นมีสติกำกับ
  • หากรถมันเสื่อมอะไรไปบ้างทำให้สมรรถนะลดลงก็ต้องเอาเข้าอู่เอาธรรมะมาเป็นช่างซ่อม
  • การกู้คืนไม่สามารถเหมือนเดิมได้เต็ม100 %เนื่องจากไม่มีรถไหนที่พังไปแล้วจะกลับเหมือนเดิมได้...แต่เราก็ต้องยอมรับมันและไม่พยายามให้มันพังในแบบเดิมๆอีก..ซ่อมรถก็เหมือนซ่อมใจต้องใช่อู่ธรรมะให้ถูกที่ถูกจุด..ปรับตกแต่งทำสีใหม่ให้มันสดใสกว่าเดิม..
  • แต่จะยังไงก็แล้วแต่..รถของเราเราก็ควรจะรักมัน..อย่าเอามันไปเทียบกับใคร..เพราะรถแต่ละคันก็มีเอกลักษณ์ในรูปแบบของตนเอง..หากเรายอมรับกับมัน..เราก็จะมีความสุขแม้ว่ารถของเรามันจะไม่เริ่ดหรูเหมือนกับรถอื่นๆก็ตาม..แต่มันก็เป็นรถของเราและเหมาะกับเราที่สุดจริงมั๊ยคะ....
  • เฮ้อ..จบจนได้...ว๊า..ชาหมดแก้วพอดีเลย..ไปทำงานต่อก่อนนะคะ..

 

P

สวัสดีครับเพื่อน...

  • ขอบคุณมากครับ สั้นๆ กระชับ เด็ดขาดครับ นี่หล่ะเพื่อนผมอีกคนครับ
  • ขับกันด้วยสติ เสริมด้วยปัญญา นำพาด้วยจินตาการ สู้เส้นทางอุดมการณ์
  • ขอบคุณมากเลยครับ
  • สวัสดีค่ะคุณเม้ง
  • เห็นด้วยกับคุณดิเรกค่ะ อิ อิ ต้องมีสติก่อนค่ะ
  • อย่าลืมพกใบขับขี่ใจนะค่ะ อย่าลืม เมาใจไม่ได้ เดี๋ยวโดนจับค่ะ กิ๊ก ๆ
  • สำคัญที่สุดคือสิ่งที่เราคิด สิ่งที่เราเป็น หรืออุดมการณ์ที่เรามี ตรวจเช็คให้เรียบร้อย แล้วเดินเครื่องเต็มลูกสูบเลยค่ะ
  • ยินดีที่ได้ ลปรร.ค่ะ ขอบคุณค่ะ
P

สวัสดีครับคุณตุ๊กตา

  • ขอบคุณมากๆ เลยครับ เชิญนั่งจิบชากันก่อนครับ
  • ใช่แล้วครับ ทำความดี หรือทำอะไร ขอให้ทำ ผลจะตามมาเองครับ ยิ่งเราตั้งหวังไว้มากเราก็ยิ่งห่างครับ ทำแล้วให้สุขใจสบายใจ แค่นี้ก็ไม่ห่างแล้ว
  • พูดดีแล้วสบายใจ ยิ้มแล้วสุขใจ ยิ้มให้กันอีกคนก็ยิ้มให้กัน
  • ผมสุขใจเสมอ ที่เยอรมัน เวลาเดินสวนกัน ผมจะชอบทักเค้าก่อนครับ แล้วเค้าก็จะทักตอบกับเราครับ ยิ้มให้กัน
  • มีเลขาที่สถาบันท่านหนึ่งเวลาเจอผมจะยิ้มให้ท่านเสมอ แล้วมาวันหนึ่งท่านบอกกับผมว่า เวลาเจอเธอ เธอยิ้มกับฉันตลอดเลย ทำให้ฉันคิดว่าเวลาฉันเจอเธอและคนอื่นฉันก็ยิ้มแล้วฉันรู้สึกสบายใจ
  • ผมว่าแค่นี้ก็สุขใจแล้ว ทำอะไรดีๆ ไม่ต้องหวังไรมาก ทำแล้วสบายใจสุข แล้วมีสติ ในการขับใจ เราคงทำให้โลกนี้งดงามขึ้นเยอะครับ
  • แล้วค่อยประกอบกรรมดีร่วมกันกับคนอื่นๆ เป็นเครือข่ายเพื่อสังคมกันต่อไปครับ
  • ขอบคุณมากๆ นะครับ
P

สวัสดีครับคุณครู

  • ขอบคุณมากๆ เลยครับ
  • ครบทุกข้อ ทุกกระบวนความ สมบูรณ์ พูนสุข จริงๆ ครับผม
  • เห็นด้วยทุกประการครับผม เดี๋ยวผมไปต้มชาก่อนนะครับ แล้วมาชนกันต่อในช่วงบ่ายครับ
  • ขอบคุณมากครับ มีความสุขในการทำงานครับ
P

สวัสดีครับคุณราณี

  • อิๆ ขอบคุณมากๆ เลยครับ
  • ต้องพกใบขับขี่ใจใช่ไหมครับ เอแล้วจับแต่ละครั้งจะโดนปรับเป็นอะไรครับ ต้องเข้าโรงพักใจหรือเปล่าครับ หรือว่าต้องโดนจำคุกใจ อิๆ
  • หรือว่าจะโดนตัดสินประหารใจครับ คงโหดน่าดูครับ
  • คงต้องใช้สติ จับปรับ จำคุก ขึ้นโรงพักใจของตัวเองใช่ไหมครับ
  • โชคดีในการทำงานนะครับ ขอบคุณมากครับ
  • มาดูคนขับรถในเมืองไทยซิคะ
  • บางครั้งใกล้ค่ำ แถวต่างจังหวัดมีแบบย้อนศรบ้างแบบขับตามใจฉันบ้าง สารพัด คนเมาบ้างมีทั้งเดินทั้งขับรถ

ขับรถน่ะ...เรา "control" มัน แต่ขับใจ...น่าจะยากว่าหลายร้อยเท่าเพราะใจมัน "control" เรา... (พี่ว่าอย่างนั้นนะ)

สวัสดีครับ

  • จริงอย่างที่คุณเมตตาว่า ใจมัน " control " เรา
  • ไม่งั้นจะมีคำพังเพยว่า  " ไปตามที่ใจปราถนา "
  • ทำตามที่ใจอยากจะทำ
  • ยิ่งขนาดตายแล้ว ยังให้ไปที่ชอบที่ชอบ
  • ผมถ้าจะต้องรีบไปสอบใบขับขี่ใจเสียแล้ว
  • ไปสอบได้ที่ไหนบอกที
  • จิบน้ำชาก่อนแล้วจะมาใหม่
P

สวัสดีครับพี่อัมพร

  • อิๆๆ ประมาณว่าเราขับอย่างปลอดภัยแล้วแต่คนอื่นสามารถขับมาชนเราได้ตลอดเวลาเหมือนกันใช่ไหมครับ
  • เป็นธรรมดาจริงๆครับ เพราะแต่ละคนมีกฏของตัวเองไงครับ คือมีกฏใหญ่ของสากล แล้วแต่ละคนก็มีกฏของตัวเอง ที่จะหาทางฝ่าฝืนได้ อิๆๆ
  • อุบัติเหตุไม่เกิด ก็ยอดแล้วครับ
  • ขอบคุณมากครับ
P

สวัสดีครับพี่เมตตา

  • ก็คงใช่อย่างที่พี่ว่านะครับ ใจควบคุมเรา แต่ผมก็ยังเชื่อว่า สติจะควบคุมใจได้ โดยใช้ปัญญามาเสริม
  • เหมือนที่ท่าน อ.แฮนดี้ว่า ตามจังหวัดใจ (เพราะอำเภอใจเล็กไป)
  • ผมขอคิดต่อยอดว่าเมื่อไหร่ที่มันเป็นไปตามอำเภอใจ ก็ให้ใช้จังหวัดใจมาคุมครับ นั่นคือ คุมทั้งจังหวัด ผมเชื่อว่าอำเภอใจมันวิ่งไปไม่รอดหรอกครับ เพราะจังหวัดใจคุมอยู่ครองด้วยสติ ขอบเขตของจังหวัดใจมองได้รอบทิศทางของอำเภอใจ ดังนั้น อำเภอใจก็จอดด้วยจังหวัดใจที่มีสติคอยจ้องอยู่ครับ
  • ศาสตร์นี้คงน่าสนใจมากๆ ครับ บางคนบอกว่าใช้พระธรรม หรือคำสอน สติ ปัญญา สมาธิ สิ่งเหล่านี้ก็คงเป็นส่วนประกอบในการควบคุมได้ครับ
  • สำหรับคนที่มีคู่ นอกจากครองคู่แล้ว ผมว่าครองคู่ใจ ด้วย คงน่าจะไปได้สวยครับ ว่าไหมครับ คงลดแรงเสียดทานหลายๆ อย่างได้ด้วยครับ เพราะการครองคู่ใจ นั้นมีใจมากกว่าหนึ่งดวงในการที่ต้องขับไปด้วยกัน
  • แล้วการบริหารประเทศหล่ะครับ ต้องขับใจตัวเองอย่างไรครับ เพื่อให้ประเทศไปได้ครับ ผู้บริหารคนไหนใช้ ไม่ใช้จังหวัดใจไปคุม หรือว่าใช้ทวีปใจไปคุมแล้วละก้อ พังแน่ๆ ครับ
  • ขอบคุณมากๆ นะครับ
P

สวัสดีครับ

  • อิๆๆ อ้าวชนแก้วครับ น้อรก.......
  • ว่าแล้วหากใจควบคุมเราแล้วเราไม่สามารถควบคุมใจเราได้ เราคงได้ น้อรก.......กันแน่ๆ ครับ อิๆๆ
  • นี่ขนาดใจเรามาคุมใจเรานะครับ เราก็ให้ใจคุมได้ แต่หากใจคนอื่นมาคุมใจเรา ใจเรามันไม่ยอมเลยใช่ไหมครับ.... หรือบางที่ต้องมีเหตุผลก่อนที่จะยอมรับให้เค้าคุมได้
  • ใจคนเราก้แปลกหลายเรื่องครับ
  • ใบขับขี่ใจนี่ ผมว่าคงต้องสอบเอาเองครับ ให้ผ่านค่ามาตรฐานหรือนอร์มของสังคม ด้วยกฏเกณฑ์ของสังคมนั้นๆ หรือเปล่าครับ
  • คงต้องสอบใบขับขี่ใจอยู่ตลอดเวลา ตลอดทุกๆ เหตุการณ์ หรือเปล่าครับ
  • หากผ่านก็ให้รางวัล หากไม่ผ่านก็ต้องให้รางวัล แต่รางวัลนั้นก็ต้องคิดกันเองว่าตัวเองเห็นว่าอย่างไรครับ
  • อ้าว....ชน ครับ......
อย่างไรก็ตาม มิได้หมายความว่าใจจะสั่งทุกอย่างได้...ต้องกำหลาบมัน...ให้อยู่เพราะใจ...มันชอบ วอกแว๊ก...อยู่ไม่สุข...ดังที่ว่า จังหวัดต้องมาควบคุมใจ...แต่จังหวัดใจมิได้มีมาแต่กำเนิด...ต้องสร้างสม..ฝึกฝน..ฝึกขับ....จึงจะกำหลาบอำเภอได้....ฝึกขับใจฝึกกันชั่วชีวิต...รับวุฒิบัตรที่เชิงตะกอนค่ะ...คือคำที่เขาอ่านกันในช่วงก่อนไว้อาลัยไง...
ประเด็นนี้ต้องไปชวนท่านนี้มาคุยค่ะ อ.จันทรัตน์ เดี๋ยวจะไปเรียกมาค่ะ ข้างบนรีบไม่ได้ login "ขอสูมาเตอะเจ้า"
ที่ด้านบน link ไม่ไปขอใหม่อีกที อ.jantararat ท่านช่ำชองกว่าใคร
P

สวัสดีครับพี่เมตตา

  • ขอบคุณมากๆ นะครับผม
  • เห็นด้วยครับว่าต้องขับใจชั่วชีวิตครับ
  • อิๆ รับวุฒิบัตรที่เชิงตะกอน อิๆๆ น่าสนใจครับ
  • ยินดีต้อนรับเลยครับ สำหรับท่าน อ.จันทรัตน์ครับ
  • ขอบคุณครับ

หากเปรียบเปรยแล้ว การขับคงไม่แตกต่างจากการบังคับ  ฉะนั้นแล้ว มนุษย์ทุกคนต้องรู้จักบังคับใจ ข่มใจ และที่สำคัญ ใจกับกายต้องประสานเป็นเนื้อเดียว ต้องรู้จักเร่ง ต้องรู้จักถอย ต้องรู้จัก "หยุด" หากกายไม่ยอมหยุด แต่ใจหยุด กายและใจคงต้องแยกจากกันตลอดไป...........

" สามารถฆ่าคนมิใช่เรื่องยาก ยินยอมอภัยแก่คนที่ท่านพร้อมจะฆ่าได้ในทุกเวลา นั่นจึงเป็นเรื่องยากเข็ญที่สุด" 

           "เอี๊ยบไค"  ดาบจอมภพ/โกวเล้ง

สวัสดีค่ะคุณเม้ง

มาปั่น Scoll bar อีกนั่นแหละค่ะ ^ ^

เห็นคนตอบมาเยอะแล้ว..เลี่ยงมาเล่นคำถามนี้ดีกว่า

ใจคนเรานี่เร็วกว่าแสง หรือเปล่าครับ ?

ใช่ค่ะ..เร็วกว่าแสง  จิตที่คิด.. คิดปุ๊บ ถึงปั๊บ ( ส่วนจะชัดเจนแค่ไหนขึ้นอยู่กับความแรงของเครื่องส่งและความละเอียดของเครื่องรับด้วยนะคะ )  แสงเดินทางด้วยความเร็วเท่าไหร่จำไม่ได้ แต่ใช้เวลา 8 วินาทีมาถึงโลก..แต่แค่คุณเม้งคิด..จากเยอรมันก็มาถึงนครศรี ฯ อย่างนี้จะไม่เร็วกว่าแสงได้ยังไง..จิตมีอานุภาพมากนักค่ะ

เมื่อจิตมีอานุภาพมากจึงต้องมีวิธีควบคุม..สติจึงเป็นสิ่งสำคัญ และปัญญาจะทำให้เรารู้วิธีจัดการ

ส่วนการขับเคลื่อนจิตจะต้อง " ว่าง " และ " วาง " วางทุกอย่าง ทุกความรู้ ทุกจินตนาการที่มี..." มอง " อย่างเดียวค่ะ เหมือนเราเป็นคนอื่นที่กำลังดูตัวเราเองเพื่อเข้าสู่ปัญญาที่หมายถึงการรู้แจ้ง ( ในขณะนั้น ) รู้อย่างที่เรียกว่าตัวรู้คือภาวะที่เราเกิดรู้ขึ้นมาเองในจิต.. ไม่ใช่ความรู้ที่เรามี

อย่างตัวอย่างแสงที่เดินทางมาถึงโลกใช้เวลา 8 วินาที..การที่ตาเรา " เห็น " สิ่งต่างๆเกิดขึ้นเพราะแสงตกกระทบสิ่งนั้นแล้วสะท้อนมาเข้าตาเรา..ถ้าอย่างนี้ " ภาพ " ที่ตาเราเห็นเป็นภาพเสมือน หรือภาพจริง ?..แล้วอย่างนี้เราจะยึดมันทำไม ?

การเห็นจากจิตชัดและละเอียดกว่าตาเห็นมากนักค่ะ..

ธรรมมะสวัสดีค่ะ ^ ^

 

 

  1. เราจะควบคุมใจเราโดยประคองใจเราให้อยู่นิ่งๆอยู่ที่ศูนย์กลางกายตลอดเวลา(072) (นี่เรียกว่าขับใจ)

  2. เราต้องบำรุงรักษาใจของเราด้วยการกลั่นใจของเราให้ใสสะอาดด้วยด้วยการหยุดใจของเราไม่ให้เข้าไปยุ่งกับกิเลส โลภ โกรธ หลง(นี่เรียกว่าขัดใจ)

  3. เราต้องสร้างกฏของการควบคุมความเร็วของใจโดยใช้หิริ โอตตัปปะ (นี่เรียกว่าคุมใจ)

  4. หากเราขับใจเราแหกโค้ง เราก็ดึงใจของเรากลับมาที่ศูนย์กลางกายของเราด้วย สติ  (นี่เรียกว่าดึงใจ)

  5. หากเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมาเราจะต้องกู้คืน ใจของเราด้วย ศีล(นี่เรียกว่ากู้คืน ซ่อมใจ)

  6. และบำรุงใจของเราด้วย ทาน และภาวนา

  7. เท่านี้ใจของเราก็จะกลับมาสมบูรณ์ได้อีกครั้ง

P

สวัสดีครับวิลเลี่ยม

  • ใจกับกายต้องประสานเป็นเนื้อเดียว ต้องรู้จักเร่ง ต้องรู้จักถอย ต้องรู้จัก "หยุด" หากกายไม่ยอมหยุด แต่ใจหยุด กายและใจคงต้องแยกจากกันตลอดไป...........
  • เห็นด้วยเลยครับ ว่าใจกายต้องประสานกัน ทำงานไปด้วยกัน ต้องมีตัวคุมใจ เช่น สติ ปัญญา หรืออะไรอีกตามที่เราคิดกันนะครับ
  • ขอบคุณมากครับสำหรับ ประโยคเด็ดๆ ครับ

ได้เวลาจิบน้ำชาแล้วนะครับ ท่านเม้ง

ชอบใจจริงๆ ท่านครูเสือ

  • ขับใจ
  • ขัดใจ
  • คุมใจ
  • ดึงใจ
  • ซ่อมใจ

น่าจะเพิ่ม   ติดใจ  ถูกใจ ซึ้งใจ ชื่นใจ  ขุ่นข้องหมองใจ     และ.....................นะครับ

ตั้งสติก่อนสตาร์ท / เมา ไม่ ขับ /  อิอิ...

เมื่อถึงปลายทางแล้วก็ หยุดใจ ให้เป็นนะครับ อย่าให้ฟุ้งซ่าน เพื่อให้เกิดลมปราณฟื้นฟูพลังภายใน เอาไว้เริ่มกันใหม่ในวันพรุ่ง 

 

จะขับรถ ให้เริ่มที่เกียร์หนึ่ง

อย่าทะลึ่งเป็นสามสี่นะพี่เอ๋ย

มันกระตุกขลุกขลักไม่(น่า)รักเลย

อาจจะเสยบาทวิถีที่คนเดิน

.........

เหมือนขับใจต้องค่อยปล่อย(เหมือน)เกียร์หนึ่ง

ทำตาซึ้งส่งตาหวานและยิ้มแหวว

ให้หัวใจอ่อนหวานดวงตาแวว

รับรองแห้วไม่ถามหานะน้องยา (ฝากให้น้องขจิตด้วย)

..........

ควบคุมใจรวบคุมรถให้สดใส

ต้องใช้ใจดูแลให้ผ่องศรี

จะออกบ้านก็กราบสวัสดี

ใจวันนี้ขอให้สุขทุก ๆ คืน(กลางวันเกี่ยวไหม)

.........

ถามเรื่องกฎกติกามารยาท

เข็ดขยาดอยู่ในกรอบไม่ชอบจิต

จะเขียวแดงเหลืองอย่างไรขี้เกียจคิด

ทำไม่ผิดกติกาว่ากันไป

...........

ถ้าใจแหลกแหกโค้งลงแม่ฮ่องสอน

ขอวิงวอนและขอบอกต้องมีสติ

หลายพันโค้งที่ต้องพบแต่(ก็)มีวิธี

บอกคุณเอกคนดีหนุ่มเมืองปาย(คลายทุกข์เอย)

...........

เรื่องหัวใจถ้าพลาดไปใครก็อยากกู้

ถามคนเจ้าชู้คงรู้ดีนะน้องเอ๋ย

สำหรับพี่ไม่สามารถบอกได้เลย

เพราะไม่เคยเจ้าชู้ประตูดิน

ก๊าก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆๆ

.........

จบจนได้

แวะมาขำพี่อิ่งอ๊อบ แต่งกลอนจบจนได้ ไม่แสดงความคิดเห็นค่ะ ขอมาสังเกตการณ์เท่านั้น เพราะยังไม่ได้สอบใบขับขี่ใจ
  • จะขับรถ หรือขับใจ ก็ขอให้ใช้สติทุกกรณีครับ
  • ใช้สติแล้วจะไม่เปลืองสตางค์ครับ
P

สวัสดีครับคุณเบิร์ด

  • หายตัวไปสองวันเต็มๆ ครับ ขออภัยด้วยนะครับ ตอบช้า แต่ว่าอ่านความเห็นไว้ก่อนแล้วนะครับ ขอบคุณมากๆ เลยนะครับ
  • พอดีมีแขกมาเยี่ยมครับผม สบายดีนะครับ
  • ผมว่าคุณเบิร์ดเป็นนักจิตวิทยาที่ไม่ธรรมดาเลยครับ คือคุณรวมวิทย์เข้าไปไว้ในสิ่งที่คุณสนใจได้ดีเลยดีทีเดียวครับ คุณสามารถอธิบายหลายๆ อย่าง ให้เป็นเรื่องเดียวกันได้ครับ ซึ่งนับว่าจำเป็นมากๆ เลยที่จะใช้จิตวิทยาในการอธิบายหลายๆ อย่างให้กลายเป็นเรื่องเดียวกันครับ
  • ขอบคุณมากๆ เลยครับ ที่มาให้คำตอบเรื่อง ใจกับแสง ว่าใจเร็วกว่าแสงครับ
  • ตากับจิต ที่คุณให้ไว้ก็น่าสนใจครับ กายสัมผัสจิตสัมผัส ก็คงให้รายละเอียดที่ต่างๆ กันใช่ไหมครับ
  • มีหลายๆ อย่าง ที่เราศึกษากันต่อไป สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะฝากไว้เผื่อ น่าสนใจครับ
  • ขับรถก็มีถนนต่างๆ กัน เช่น ถนนลูกรัง ถนนลาดยาง สองเลน สี่เลน หรือว่าถนนความเร็วสูงครับ แล้วขับใจหล่ะครับ ควรจะขับถนนแบบไหนครับ
  • ผมอยากจะนำเสนอถนนเส้นหนึ่งคือ ถนนสาธารณะครับ เช่น ถนนสายใจสาธารณะ ชวนคนมาขับกันถนนเส้นนี้กันเยอะๆ ครับ
  • ขอบคุณมากๆ นะครับ มีความสุขมากๆ นะครับ
  • จิบชากันก่อนนะครับ
P

สวัสดีครับคุณครูเสือ

  • สบายดีนะครับผม ขอโทษด้วยครับ มาตอบช้าไปหน่อยนะครับ
  • ขอบคุณมากๆ นะครับ ได้คำตอบแต่ละข้อของคุณครู แล้วทำให้คิดอะไรต่ออีกหลายๆ อย่างครับ เช่น ขับใจ ขัดใจ คุมใจ ดึงใจ ซ่อมใจ.....
  • และนั่นก็คือ ทำให้ผม โดนใจ....อิๆ
  • ผมว่าใจคนนี่น่าสนใจมากๆ เลยครับ แต่หากได้เรียนรู้ใจคนอื่นด้วยเพื่ออยู่ร่วมกันให้ได้อย่างสันติ ก็คงยอดสุดๆ ครับ
  • คงมีเรื่องหลายๆ เรื่อง ที่เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมครับ
  • ขอบคุณมากๆ นะครับ
P

สวัสดีครับคุณสิทธิรักษ์

  • วันนี้มาขอชนแก้วกันต่อนะครับ หายไปสองวันไม่ได้ตอบครับ ขอโทษด้วยนะครับ ที่ให้รอนานครับ
  • ขอบคุณมากๆ เลยนะครับ ที่มาช่วยคิดและให้ความเห็นตลอดเลยครับ
  • ผมไม่ได้มาตอบตรงนี้ แต่ก็ได้พูดคุยเรื่องเหล่านี้ เรื่องการศึกษา เรื่องเมืองไทย กับคนที่มาเยี่ยมด้วยครับ หาโอกาสพูดคุยประเด็นต่างๆ ที่เมืองไทยเจออยู่ตอนนี้ครับ
  • แล้วไว้จะเอามาถกกันต่อครับ ในวงชานะครับ
  •  

    น่าจะเพิ่ม   ติดใจ  ถูกใจ ซึ้งใจ ชื่นใจ  ขุ่นข้องหมองใจ     และ.....................นะครับ

  • เพิ่มอะไรต่อดีครับ.....
    เมื่อติดใจ  ก็ต้องมีตัดใจ....เพื่อไม่ให้ติดมากด้วยใช่ไหมครับ
    ถูกใจ โดนใจ ยั้งใจ ถอนใจ ฝังใจ บ่มใจ คลายใจ ตรึงใจ ล่อใจ ซ่อนใจ เผาใจ หมกใจ อุ่นใจ แสบใจ คันใจ กดใจ กินใจ คลายใจ หมดใจ ......  
  • ถกกันต่อนะครับผม
P

สวัสดีครับคุณนิว

  • ไม่ได้เจอคุณนิวนานเลยครับ สบายดีนะครับ
  • ตั้งสติก่อนสตาร์ท / เมา ไม่ ขับ /  อิอิ...
  • สั้นๆ แต่ก็โดนครับ สติแล้วสตาร์ท  ใจฟิต สตาร์ทติดง่าย....ต่อให้เพิ่มครับ
  • โชคดีนะครับ
P

สวัสดีครับคุณดิศกุล

  • ยินดีต้อนรับครับผม นั่งจิบชาก่อนนะครับ
  • เมื่อถึงปลายทางแล้วก็ หยุดใจ ให้เป็นนะครับ อย่าให้ฟุ้งซ่าน เพื่อให้เกิดลมปราณฟื้นฟูพลังภายใน เอาไว้เริ่มกันใหม่ในวันพรุ่ง 
  • ขอบคุณมากครับ ใช่เลยครับ หากถึงปลายทางแล้วหยุดไม่ได้ มันจะไร้จุดจบ....ความต้องการของใจที่ไร้ขอบเขต นี่คงเป็นตัวอย่าง อะไรหลายๆ อย่างในสังคมเราตอนนี้ครับ
  • ขอบคุณมากๆ เลยครับ สงสัยต้องสร้างปลายทางใจ ที่วางไว้ที่จะขับไป ให้เป็นทางตันครับ เพื่อจะต้องชะลอใจก่อนจะจอดที่ปลายทาง เอากำแพงเมืองจีนไปดักก็คงไม่พอใช่ไหมครับ
  • ขอบคุณมากๆ นะครับ
P

สวัสดีครับพี่สาว

  • ดีใจมากๆ เลยครับ ที่ได้รับกลอน ดีๆ แบบนี้ครับ
  • แทรกสิ่งต่างๆ ไว้อย่างลื่นไหล สบายใจ มีกระบวนการ อยู่ภายในครับ
  • โดยไม่ต้องอธิบายไรเพิ่ม ... เข้าเกียร์ ขับ กฏ แหกโค้ง กู้คืน....
  • ขอบคุณมากๆ เลยนะครับ พี่สาวคนดี ศรีเมืองเหนือครับ
  • จิบชาก่อนนะครับ โชคดีนะครับ
P

สวัสดีครับ อ.กุล

  • ขอบคุณมากครับ สบายดีนะครับ
  • ใช่เลยครับ เห็นด้วยว่าพี่สาวผมแต่งได้หนุกๆ เลยครับ
  • แสดงความเห็นไว้ได้นะครับผม ผมเชื่อว่าทุกคนจะขับใจกันตลอดอยู่แล้ว แล้วแต่ว่าจะขับแบบไหนครับ ปล่อยมือ ปล่อยวาง หรืออื่นๆ ครับ
  • โชคดีในการทำงานครับ
P

หวัดดีครับน้องเทพ

  • ขอบคุณมากนะครับ
  • ขับใจใช้สติ ไม่ใช้สตางค์
  • ขับวัตถุ ใช้สตางค์ แต่หากไม่ใช้ใจและสติด้วย ก็พังพินาศได้เช่นกันใช่ไหมครับ
  • ขอบคุณมากๆ นะครับ

สวัสดีค่ะ คุณเม้ง แวะมาตามคำชวนมาชวนไปคุย ของคุณเมตตาค่ะ...

คุณเมตตาให้คำนิยมไว้ เลยออกเขินบ้าง เพราะไม่ได้เซียนขนาดนั้นค่ะ

ถ้าถามประสบการณ์กับความเห็นเรื่องขับใจ ขับอย่างไร บำรุงอย่างไรดีแหกโค้งไปซ่อมแซมไหวไหมฯลฯ

ได้อ่านความเห็นของท่านที่ผ่านมาก็สนุกและได้ความคิดดีๆค่ะ ส่วนตัวเองกลับรู้สึกว่าอาจจะไม่ค่อยเหมือนท่านอื่นอยู่บ้าง...

คือรู้สึกว่า "ใจ" ของตัวเองเนี่ยเป็น "ใจซุกซน" ไม่จอดนิ่งๆให้รอไปขับ ..มักแล่นเรื่อยให้รอไปเบรคบ้าง คอยมองว่าแล่นไปทางไหนบ้าง บางทีก็ซอกแซกอยากไปดู "ใจ" ของคนอื่น บางทีก็ถลาลง หลุมอารมณ์ บางทีก็หลงทางต้องคอยหา แผนที่บนเส้นทางยุ่งเหยิง บางทีก็ ไปเรื่อยๆ บางทีก็ต้องคอยพยุงประคับประคอง บางทีก็ต้องมาคอยเตือนตัวเอง บางทีก็ขี้สงสัย ฯลฯ

เรื่องจะกระโดดขึ้นขับใจให้ได้เลยยังยากอยู่เลยค่ะ ถ้าทำได้ก็คงอยากจะให้ตัวเองสามารถสามารถดูแลการให้ข้อมูลกับใจกับสมอง ในทางที่ดีได้มากกว่านี้ค่ะ

ขอบคุณค่ะ

อาจารย์จันทรรัตน์มาต่อบันทึกนี้(ตามคำชวนคุณเมตตา) สรุปได้ว่า "เยี่ยม"  "เต็ม"  จริง ๆ ค่ะ
P

สวัสดีครับท่านอาจารย์จันทรรัตน์

  • กราบขอบคุณท่านอาจารย์มากๆ เลยนะครับ ที่มาให้แนวคิด และบทความที่น่าสนใจมากมายเลยครับ ขอบคุณพี่เมตตาด้วยนะครับ ที่ให้ท่านผู้เชี่ยวชาญมาช่วยกันขับใจ เอ หรือว่าซอกแซกใจ ครับ ยิ้มๆ
  • ครับผมจะตามไปอ่านหลายๆ บทความเต็มเลยครับ และเต็มไปด้วยการควบคุมใจอย่างถ่อมตน อย่างน่าชื่นชมครับ
  • กราบขอบพระคุณมากๆ เลยครับ ผมเองก็ตั้งประเด็นไป หลายๆ อย่าง ทั้งๆที่ตัวผมเองประสบการณ์น้อยยิ่งนักครับ
  • โชคดีนะครับผม
P

สวัสดีครับพี่สาว

  • สวัสดีครับพี่สาว สบายดีไหมครับ
  • ยังมันส์กลอนของพี่อยู่เลยครับ เมื่อวานอ่านเข้าไปเต็มๆ เลยครับ
  • ขอบคุณมากๆ เลยครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท