- อิ่มจนหน้ากลมเลยครับ คุณหน่อย
- ได้เสื้อ G2K สุดเท่ห์มาแล้ว แต่ยังหาตากล้องฝีมือดีมาถ่ายไม่ได้ครับ ผมต้องการแบบ ถ่ายแล้วดูกระชากวัยลงมานะครับ
- ขอบคุณคุณ Moo มีบุญมาแบ่งให้ทุกคนด้วยครับ ถ้าแล้วอมยิ้มไปด้วย ล่ะใช่เลย
พฤหัสที่แล้้ว ผมมีโอกาสนำหนังสือที่มีส่วนร่วมทำ ไปถวาย พระอาจารย์ชัยวุธ ที่หน่วยวิทยบริการ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วัดหงษ์ประดิษฐาราม หาดใหญ่ และได้พบ blogger หน้าใหม่ในดวงใจ ครบเป็นท่านสุดท้าย
ครับ ..อิ่มอกอิ่มใจ ที่
สวัสดีครับหลวงพี่เต็ม
ท่าทางจะภูมิใจมากกับข้อสุดท้ายนะครับ
ผมต่างหากที่ต้องกลุ้ม วันก่อนไปนั่งกินข้าวที่ Bugis คุยกับป้าคนครัว เธอถามว่าผมอายุเท่าไหร่ พอตอบว่า 35 เท่านั้น เธอตกใจ บอกผมว่า คิดว่า 40
พุธโธ่ ก็วันนั้นน่ะ ทั้งเหนื่อยทั้งง่วงจนหัวฟู โหวงเฮ้งหล่นครับ
อาจารย์หมอ....
ตามรอยมาเยี่ยม....
ตอนแรกก็คิดอย่างนั้น แต่ก็หวลระลึกได้ว่า อาจารย์หมอยังโสด (.... )
เจริญพร
อ่านจบแล้วรู้สึกว่า คุณหมออิ่มอกอิ่มใจ จริงๆคะ
ไม่ให้เรียกหลวงพี่ ก็เรียกพี่หลวงก็แล้วกันนะครับหลวงพี่
ไปถนนนางงามบ่อยเหมือนกัน แต่ไม่เคยสนใจดูวัดเลยจริงๆ ดูก็เห็นแต่ภายนอก ไม่กล้าเข้าไป (ไม่มีเหตุผลอื่นใดครับ)
ไปเพื่อดูบ้านสวยๆ
เรื่องของกินไม่เคยคิดครับ เพราะสามสาวที่บ้านไม่ช่างกิน ผมชอบร้านแต้เฮียงอิ๊ว แต่ก็ได้กินเพียงครั้งเดียวเท่านั้นเองจริงๆ อร่อยมาก เสียอย่างเดียวเมียไม่ชอบ เลยอดตลอดกาล ว่างๆค่อยพาอาจารย์หนีเมียผมไปกินกันครับ ว่าแต่ว่าถือศีล 8 หรือเปล่า เดี๋ยวชวนเก้อนะครับพี่หลวง
สวัสดีครับ อ.หมอครับ
กำลังคิดว่า จะลงไปเที่ยวใต้ และถือโอกาสถ่ายรูปให้ อ.หมอด้วย
กว่จะได้เสื้อและไซส์ ที่ลงตัว ถามขนาดกันวุ่นวายเลย แต่เสียงกระซิบบอกผมว่า อาจารย์หมออ่อนวัยกว่าภาพที่นำแสดงเห็นท่าจะจริงครับ
มีความสุขดีครับ จากที่ผมอ่านจากบันทึก
ศีล 8 มีข้อหนึ่งครับ
วิกาลโภชนา เวรมนีสิขาปทัง สมาธิยามิ
นึกไม่ถึงใช่ไหมครับ
อาจารย์หมอและบรรดาญาติธรรมทั้งหลาย ศีลข้อ ๘ เขียนผิดอยู่ ถ้าจะเขียนให้ถูกต้องเขียนว่า
บาลี... วิกาลโภชนาเวรมณีสิกฺฺฺฺฺขาปทํ สฺมาทิยามิ
ไทย... วิกาละโภชะนาเวระมะณีสิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
คำแปล... ข้าพเจ้าขอรับเอาซึ่งหัวข้อแห่งการศึกษาว่าด้วยเจตนาเป็นเครื่องเว้นจากของกินในยามวิกาล
เจริญพร
นมัสการพระอาจารย์เช่นกันครับ
ขออนุญาตเรียนถาม
เปล่าครับพี่หลวง
ผมกลับวันอังคารครับ
ต้องทำงานวันจันทร์และวันอังคารอีกครึ่งวันเช้า
ไม่อยากเหลวไหล เพราะกำลังเป็นที่รักของครูอยู่ครับ
ถ้าจะไปได้ อาจจะเป็นวันพุธ เย็นๆครับ
แว่วเสียงถูกพาดพิงว่า ถ่ายรูปแล้วดูหน้าอ่อน
รีบเข้ามาบอกเลยค่ะว่า ตัวจริงดูหน้าอ่อนกว่าในรูปที่ว่าอ่อนแล้วนั้นค่ะ..อิอิ...(น้องเอกไปยืนยันให้หน่อยนะคะ....ฮา)
อ่านแล้วรับรู้ถึงปิติสุขของอาจารย์ค่ะ..
นาย เต็มศักดิ์ พึ่งรัศมี ธนพันธ์ ชูบุญ
คำถามโยงถึงกัน ก็จะว่าเชื่อมต่อไปเลย...
สิกขา หรือ ศึกษา อาจแปลได้ว่า เห็นเอง (ส +อิกขา)... หรือแปลว่า ทำให้แห้ง ซึ่งในความหมายนัยหลังนี้ หมายถึงการทำกิเลสให้เหือดแห้งไป และจะไม่ขยายความตามนัยนี้ จะว่าด้วยนัยแรกเท่านั้น...
ดังนั้น สิกขาบท อาจแปลได้ว่า หัวข้าที่จะต้องเข้าใจเอาเอง (ปท แปลว่า หัวข้อ)
ศีลข้อ ๘ อาจแปลให้เข้าใจได้ง่ายๆ ว่า ข้้าพเจ้าขอรับเอาซึ่งหัวข้อที่จะเข้าใจได้ด้วยตัวเองถึงความจงใจในการเว้นจากการกินในเวลาวิกาล.... นั่นคือ การเว้นการกินในเวลาวิกาล จะมีคุณหรือโทษอย่างไร ก็ต้องเข้าใจเอาเอง เรียนรู้เอาเอง ทำเอาเอง... ประมาณนี้
จะเห็นได้ว่า ศีล เมื่อแปลตรงๆ ทำนองนี้ จะมีนัยในการใช้ความคิดสูง... แต่เบื้องต้นบอกว่า ห้าม เพื่อความเข้าใจง่าย แต่กลับกลายเป็นว่าแนวคิดพื้นฐานทำท่าจะเลือนหายไป... ประมาณนี้
....
คำว่า วิกาล มีหลายกรอบ เฉพาะในกรอบแห่งศีลข้อ ๘ นี้ กำหนดเอา ตั้งแต่หลังเที่ยงถึงรุ่งอรุณ...
แต่ในกรอบอื่นก็อาจหมายถึง หลังจากตะวันตกดินจนกระทั้งอรุณขึ้น... เป็นต้น
.....
การดื่มนม น้ำหวาน ชา กาแฟ ว่าสมควรหรือไม่ ในศีล ๘ ...เรากำหนดเองได้เมื่อบ่งชี้คำว่า สิกขาหรือศึกษา ตามที่อธิบายไว้เบื้องต้นแล้ว...
แต่ถ้าว่าตามกรอบ อาจจำแนกการรักษาศีลไว้ ๓ ระดับ ระดับเคร่งครัดก็อาจรับแต่น้ำดื่มเท่านั้น... ระดับกลางๆ ก็อาจมีน้ำหวาน น้ำผลไม้... ระดับเพลาก็อาจมีชากาแฟหรือนมก็ได้...
นัยศีลนี้ อาจจำแนกออกไปอีก เช่น รักษาเพื่อให้เค้ายกย่องสรรเสริญว่าเป็นคนดีมีคุณธรรม... รักษาเพื่อประสงค์ผลบุญไปสู่สวรรค ์... รักษาเพื่อตรวจสอบธรรมชาติแห่งตัวเอง... เป็นต้น
......
ไม่เฉพาะศีลข้อ ๘ ข้ออื่นๆ ก็เป็นไปทำนองนี้..
เฉพาะการอธิบายคำว่า สิกขา สิกขาปท หรือศีล.... มีหนังสือของพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) ขยายความตามทำนองที่อาตมาว่ามา... ชื่อหนังสือ นิติศาตร์เชิงพุทธฯ หรืออะไรนี้แหละ ? จำไม่ได้อ่านมาหลายปีแล้ว... อาจารย์หมอท่านใดสนใจก็ลองไปค้นดู ท่านอธิบายแนวคิดไว้อย่างละเอียด...
เจริญพร
อื้อหือ ตรงตามหลัก health promotion หรือ empowerment เลยนะนี่ ที่แท้ก็จับไต๋ฝรั่งว่าลอกเลียนมาจากพุทธศาสนาอีกแล้ว...
evidence-based medicine หรือการแพทย์เชิงประจักษ์ ก็ว่าตามกาลามสูตร
problem-based learning หรือการเรียนใช้ปัญหาเป็นฐานก็ลอกเอาอริยสัจจสี่
แล้วนี่ health promotion ก็เอาจาก "สิกขา" กันดื้้อๆ
ขอบพระคุณหลวงพี่มากครับ (ทรงความรู้ เมตตา และปากหวานมากครับ ป่านนี้พี่เต็มนอนสว่างเต็มห้อง ส่องประกายรัศมี (ตามนามสกุล) จากหน้า (อันเยาว์วัย อิ อิ อิ)
กราบนมัสการ พระอาจารย์ ชัยวุธ
หนูได้อ่านบทวิจารณ์ที่พระอาจารย์เขียนตอบรู้สึกว่าได้ความรู้เพิ่มขึ้น
จึงขอเรียนถามพระอาจารย์สัก ๒ ข้อ
๑. การประยุกต์หลักไตรสิกขาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร ?
๒. ขอคำอธิบายหลักไตรสิกขาแบบง่าย ๆ เอาชนิดที่ว่า ให้ผู้ที่ไม่เคย
ศึกษาธรรมเข้าใจได้ และก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน ?
กราบนมัสการลาพระอาจารย์ที่เคารพยิ่ง