เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 49 ที่เพิ่งผ่านมานี้ ผมได้มีโอกาสเข้าไปฟัง Prof. Ikujiro Nonaka ผู้ที่คิดโมเดลเกลียวความรู้ (SECI Model) ซึ่งสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สป. ได้ประสานขอผ่านทาง JICA ประเทศไทย
จึงอยากจะเก็บตกประเด็นเล็กๆที่น่าสนใจมารวบรวมเก็บไว้ในพื้นที่แห่งนี้
tacit knowledge นั้นเป็น micro knowledge
explicit knowledge นั้นเป็น macro knowledge
tacit knowledge นั้นเป็น way of life เป็นความเป็นจริงที่ปรากฏของตรงหน้า เป็นความรู้ที่สำคัญมากต่อการทำงาน แต่บางครั้งศักยภาพของคนเพียงคนเดียวอาจจะมีพลังไม่มากพอ จำต้องมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ หากทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ได้ดีพอ จะช่วยให้คนสามารถพัฒนา tacit knowledge ในระดับคุณภาพสูงได้
การสร้างความรู้ในองค์กรนั้น จำต้องใช้ความรู้ของภาวะผู้นำ ซึ่งหมายถึง สมรรถนะในการบูรณาการระหว่างวิสัยทัศน์ สุนทรียสนทนา การปฏิบัติ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และการสร้างบรรยากาศที่เชิญชวน ทั้งหมดเข้าด้วยกัน ซึ่งสิ่งนี้ Nonaka เรียกว่า Phronesis หรืออาจเรียกได้ว่าเป็น "ปัญญาปฏิบัติ" (Practical Wisdom)
ความสามารถในการสร้างปัญญาปฏิบัติ 6 ประการ
1. สามารถวินิจฉัยได้ว่า อะไรคือสิ่งดีๆ (ในงานที่ทำ หรือในองค์กร)
2. สามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวกับคนอื่นเพื่อสร้างอารมณ์ร่วมในการสนทนาได้
3. สามารถจับคว้าแก่นสาระของเรื่องราวหรือสถานการณ์เฉพาะได้
4. สามารถสร้างมโนภาพจากเหตุการณ์เล็กๆไปเป็นหลักสากลได้โดยการใช้ภาษาในหลายรูปแบบ แนวความคิด และการสื่อสารด้วยคำพูด
5. สามารถใช้เครืองมือที่จำเป็นสร้างแนวคิดให้กลายเป็นจริงขึ้นมาได้
6. สามารถเอื้ออำนวยให้ปัญญาปฏิบัติของคนอื่นเข้ามามีส่วนช่วยให้เกิดการพัฒนาองค์กรตามที่ปราถนาจะให้เป็น
เป็นชื่อตัวย่อของ Knowledge Spiral Model จากคำว่า
Socialization หมายถึง กระบวนการที่ความรู้ปฏิบัติในตัวคนหนึ่งถ่ายทอดไปยังอีกคนหนึ่ง (หรือหลายคนก็ได้) tacit to tacit
Externalzation หมายถึง การทำให้ความรู้ปฏิบัติในตัวคนออกมาเป็นความรู้ชัดแจ้ง tacit to explicit
Combination หมายถึง การประมวลความรู้ชัดแจ้งจากหลายๆแหล่งเข้าด้วยกัน explicit to explicit
Internalization หมายถึง การเรียนรู้จากความรู้ชัดแจ้งจนสามารถเกิดเป็นความรู้ปฏิบัติที่ฝังอยู่ในตัวคนได้ explicit to tacit