เช้านี้มีหนังสือเข้าเรื่อง ชวนร่วมงานสัมมนา บทบาทสถานศึกษาต่อพรบ.คอมพิวเตอร์ ในวันถัดไป (เรื่องด่วน) เราทำบันทึกขออนุญาตเข้าร่วมงานสัมมนา พร้อมกับเจ้าหน้าที่ดูแลระบบของรร. (อัตราจ้าง)
ระหว่างรอเรื่องอนุมัติจากผู้บริหาร เราก็ทำเรื่องขอใช้รถรร. เพราะเราไม่มีรถและจนท.มีรถมอเตอร์ไซต์ ระยะทางของรร.ถึงสถานที่อบรม ก็ไม่ไกลมากประมาณ 17-18 กม.
ไม่เกิน 1 ชม.เรื่องรถก็ออกมาว่า เนื่องจากระยะทางไม่ไกลและรถต้องไปสำรวจเส้นทางเข้าค่ายของนร. ให้ไปเอง เขียนโดยรองผู้บริหารฝ่ายธุรการ
เราก็เดินเข้าไปถามว่า ไม่มีรถจะให้ไปอย่างไร เขาก็เปิดหนังสือการขอรถที่อนุมัติแล้วให้ดูว่าพรุ่งนี้รถไม่ว่างต้องไปค่าย แต่เราดูเวลาที่ขอ คือ 12.00-15.30 น. เราขอให้ไปส่ง 8.00 น. รับกลับ 16.30 น. เราก็ต่อรองว่าขากลับจากค่ายแวะรับที่สัมมนาเลยได้หรือเปล่า ก็บอกว่าได้
แต่อีกวันหนึ่ง (สัมมนามี 2 วัน) ไม่ได้จริง ๆ มีคนอื่นเขาขอใช้รถ 12.00-16.00 น. (ที่ รร. มีรถตู้ 2 คัน พนักงานขับรถ 1 คน แล้วมีคำสั่งของรร. แต่งตั้งให้ นักการภารโรงคนหนึ่ง เป็นพนักงานขับรถหมายเลข 2) เราก็เลยถามว่า ขากลับขอคนขับอีกคนไปรับได้ไหม ผู้บริหารคนนั้นพูดทำนองว่า มันจะไปได้หรือ แล้วก็บอกว่าจะประสานให้ แต่วันแรกให้โทรประสานกับคนขับเองว่าเขาจะกลับจากค่ายกี่โมง แล้วนัดหมายเวลาเอง
ช่วงพักกลางวัน เจอคนขับรถพอดี เลยถามนัดหมายกับเขา เขาก็พูดว่าผมกลับมาก่อนอาจารย์จะเลิกสัมมนาอีก เราเลยย้อนให้ว่า งั้นก็มาส่งเขาก่อนแล้วกลับไปรับไหมล่ะ เขาก็อึ้งไป เราเลยถามเขาว่าแล้วอีกวัน ให้อีกคนไปรับได้ไหม ผู้บริหารเขามาบอกหรือยัง เขาก็ว่าคนนั้นไปไม่ได้หรอกมีงานเก็บขยะ กับกวาดใบไม้ทำอยู่ แล้วเขาก็บอกประมาณว่าที่ผู้บริหารพูดแบบนี้ ก็คือว่าเขาจะไม่ให้รถนั่นแหละ (แบบว่าคุณแกล้งโง่หรือเปล่า) เราก็ว่าไม่มีรถจะให้ไปอย่างไร แล้วก็เดินออกมา (พูดไปก็ไม่มีประโยชน์)
คนดี ๆ ..ท้อแท้กับระบบที่อยู่ในมือของคนที่ไม่เข้าใจระบบบมานักต่อนัก
......
แต่เราต้องไม่สูญเสียความตั้งใจที่จะทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ใช่ไหมครับ
ยังไม่สูญเสียกำลังใจค่ะ เพียงแค่อึดอัดใจค่ะ