Learn 4 Change ที่เมืองทองธานี (23) ห้อง Lead & Learn - บ้านกาญจนาภิเษก - งานที่ทำนี้ ยากตรงไหน


"เด็กเหล่านี้ไม่ต้องการผู้คุม ไม่ต้องการกฎเหล็ก ไม่ต้องการความเป็นคุก ต้องการผู้ใหญ่ที่พร้อมจะฟังเขา แลกเปลี่ยนเขา เข้าใจเขา"

 

อ.ประพนธ์ บอกว่า ผมมองเห็นภาพการเปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือ เวลาที่เราพูดถึงบ้านที่เป็นสถานกักกัน แต่ตอนนี้ไม่เหมือนสถานกักกันเลย ... ท่าน ผอ. คิดว่า อะไรที่ทำมา ใน 4-5 ปี ที่ท้าทายที่สุด ที่เมื่อกี้ท่านพูดมาว่า การเปลี่ยนมนุษย์ยากที่สุด แต่ผมคิดว่า จริงๆ ที่ท่านทำเหมือนเป็นธรรมชาติ ไม่น่าเป็นของยากของท่าน ก็อยากถามว่า ที่ยากจริงๆ ที่อาจยังทำไม่สำเร็จเท่าที่ควร มีไหมครับ

ผอ.ทิชา บอกมาตรงๆ เลยละค่ะ ว่า ... ระบบราชการยากจริงๆ บ้านกาญจนา จริงๆ แล้ว เป็น 2 วัฒนธรรม

งานแบบนี้ ตอนที่เข้าไปใหม่ๆ ตกลงจะให้ทำอะไรนะเนี่ยะ อะไรก็ไม่ได้ไปหมด แล้วจะทำอะไร ก็เลยไม่เอาสักอย่าง ... ดิฉันมาคิดเรื่องการไม่รับเอามรดกทันที่ก้าวย่างไปในบ้าน และตัดสินใจเลยว่า ไม่ใช่ หลังจากที่ตัดสินใจเดินไปเดินมา แล้วก็ชนกำแพง รู้สึกว่าตัวเองถูกขังอีกคน

ดิฉันรู้สึกว่าต้องมาทำอะไรสักอย่าง ลุกขึ้นมาสร้างวาทกรรมอย่างที่บอก

เพราะฉะนั้น ความยากจริงๆ ก็อยู่ที่ความเข้าใจแบบนี้ จิตวิญญาณจริงๆ คืออะไร ว่าขณะนี้ดิฉันสื่อสารกับกรมพินิจฯ กระทรวงยุติธรรมมาก ถึงแม้เด็กเหล่านี้จะมาด้วยข้อหาอุกฉกรรจ์ บ้านกาญจนาภิเษกมีเด็กเคยฆ่าคนมา 2 คน หลายคนร่วมกันฆ่าคน เด็กที่ปาก้อนหินใส่ตลกก็อยู่ที่นี่

แต่ดิฉันยืนยันว่า บ้านแบบนี้ ตั้งแต่ 2495 จนถึงบัดนี้ มันต้องออกแบบผิดแน่ๆ "เด็กเหล่านี้ไม่ต้องการผู้คุม ไม่ต้องการกฎเหล็ก ไม่ต้องการความเป็นคุก ต้องการผู้ใหญ่ที่พร้อมจะฟังเขา แลกเปลี่ยนเขา เข้าใจเขา"

ตอนนี้บ้านกาญจนาภิเษกเปลี่ยนจุดประสงค์จากผู้คุมพนักงานพินิจฯ มาเป็นผู้ให้คำปรึกษา ที่ปรึกษา 1 คน ต่อเด็ก 1 บ้าน ซึ่งมีประมาณ 15 คน เขาก็ยังงงๆ บ้านกาญจนาภิเษกมีสังคมสงเคราะห์คนเดียว ไม่มีนักจิตวิทยา เขาก็ถามว่า แล้วจะทำได้ยังไง

ดิฉันก็ถามว่า "คุณมีลูกกันไหม ก็มี"

"คุณคุยกับลูกคุยแบบไหน"

หลายคนมีหน้าที่พิเศษ ขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ขี่วิน "คุณเคยมีผู้ชายในวินที่อายุน้อยกว่าคุณมั๊ย"

"คุณเคยคุยจับจิ๊กโก๋มั๊ย" ... ถ้าคุณคุยกับจิ๊กโก๋ ได้ คุณก็คุยกับเด็กพวกนี้ได้ไง

"ใช่ไหมคะ"

ก็เริ่มจากง่ายๆ แบบนี้ ภายใต้ข้อจำกัดของทรัพยากร ตอนนั้นนักจิตวิทยาหาไม่ได้ เมื่อไม่ได้ก็ต้องสร้างจากสิ่งที่เรามีอยู่ ซึ่งก็มีค่าเพียงพออยู่แล้ว

เพราะฉะนั้น ทุกคนในบ้านกาญจนาภิเษก ตอนนี้ counseling ได้หมด เพราะว่าคุยกับจิ๊กโก๋ก็ไม่ยากอะไร ก็กลายเป็นเรื่องที่ปกติ

แต่สิ่งที่ดิฉันว่าที่ยากกว่านั้น คือ การทำให้ระบบราชการเข้าใจว่า การที่คุณออกแบบมาทั้งหมดผิดพลาด และคุณต้องคืนสิ่งทั้งหมดนี้ให้กับสังคมด้วย อย่าเดินต่อไป เพราะว่ามันผิด

ในบ้านกาญจนาภิเษก ถ้าคุณเห็นบอร์ดตารางกิจกรรมอันหนึ่ง มีสีแดง น้ำเงิน ในบ้านกาญจนาภิเษก เนื่องจากเด็กเหล่านี้มาด้วยคดีต่างๆ นานา และดิฉันคิดว่าเขาไม่ได้เป็นอาชญากร เป็นลูกคนหนึ่งที่ก้าวพลาด ก้าวผิดจังหวะ

บ้านกาญจนาภิเษกที่ดิฉันออกแบบ ว่าจะเป็นวิถีชีวิตของบ้านหลังนี้ 50% ให้ไปเลยทำเรื่อง Lifeskill อย่างเดียว ทำเรื่องของการวิเคราะห์ตัวเอง วิเคราะห์สังคม ใครต่อใคร ทำเรื่อง Lifeskill อย่างหนักมาก 50% ก็จะวิเคราะห์ทุกเรื่อง

  • อย่างที่วันหนึ่งที่บ้านกาญจนาภิเษก มาด้วยคดีปล้นเป็นลำดับหนึ่ง เขาต้องวิเคราะห์เลย ว่า เช้านี้มีข่าวแท็กซี่คนหนึ่งถูกปาดคอนอนอยู่
  • ... เป็นไปได้ไหมว่า แท็กซี่คนนี้ในข่าวอายุ 40 ปี เขาจะต้องมีลูกเมีย
  • ... เป็นไปได้มั๊ยลูก ก็เป็นไปได้
  • ... และเป็นไปได้มั๊ยว่า แท็กซี่คนนี้เขาออกมาขับรถเมื่อคืน แล้วเขาไม่สามารถกลับไปที่บ้านได้เลย คนที่บ้านเขาจะเป็นยังไง
  • ... เป็นไปได้มั๊ยว่า ลูกชายเขาอาจกำลังเรียนหนังสืออยู่ อายุเท่าพวกเรา ความตายแบบนี้เป็นความตายที่รับได้มั๊ยลูก
  • เด็กๆ ที่เคยเป็นผู้ฆ่าคนอื่นมา เขาก็รู้สึก

เราก็ต้องคุยกันในเรื่องนี้เยอะมาก เขาพบว่า 50% ในบ้านกาญจนาภิเษก ทำเรื่อง Lifeskill กันโดยเฉพาะเลย ซึ่งกลายเป็นบทเรียนชุดใหญ่ 25% เด็กจะเรียนหนังสือ เราขอให้คุณครู กศน. มาสอนที่บ้านกาญจนาภิเษก ทุกวันอังคาร 25% ว่าด้วยเรื่องของการเรียนอาชีพ แต่ไม่ใช่เรื่องจริง อาจเรียกได้ว่ากิจกรรมบำบัด แต่ไม่ใช่เรียนอาชีพ ... เรียนตัดผม เรียนไปทำไม ... สมัยนี้เขาไปกันถึงไหนแล้วนะ

ถามว่า บ้านกาญจนาภิเษกอยากทำอะไร ... สิ่งหนึ่งที่เรากำลังสนใจมากๆ ตอนนี้ และเด็กๆ ทำไปแล้ว ก็คือ เขามีกล้องวีดิโออยู่อันเดียว เราก็ทำหนังสั้นตัดต่อเอง

และก็มีข้อค้นพบว่า เด็กลุกขึ้นมาทำหนังสั้น 5 นาที มันตอบอะไรได้มากเลย จากสาวก การเสพอย่างเป็นสาวก เด็กๆ เริ่มรู้สึกว่า อันนี้มันมีความเป็นมายาสูงมากเลย เมื่อเขาเป็นผู้ผลิตด้วยตัวเขาเอง เขารู้ว่า พวกนี้เป็นมายา เขาเสพอย่างสาวกมากๆ จงรักภักดีต่อสื่อทุกชนิด เขาก็เกิดการค้นพบใหม่ว่า มันไม่ใช่ เป็นมายา เขาก็ออกมาจากหลุมดำได้ด้วยตัวของเขาเอง

ตารางทั้งหมดในบ้านกาญจนาภิเษก เด็กๆ เขาชอบมายืนดูมากเลย เพราะว่าจะบอกอะไรบางอย่าง คือ activity ในบ้าน สีแดงออกข้างนอกหมดเลย สีน้ำเงินอยู่ข้างใน

เพราะฉะนั้น บ้านกาญจนาเป็นภาคีของการขับเคลื่อน

  • พรบ. เหล้า ออกไปร่วม
  • ไปยื่นหนังสือ กับ สสนช. เขาทำหมดเลยกิจกรรมอย่างนี้ทั้งหมด
  • เขาจะต้องเดินไปบนเส้นทางเดียวกับมนุษย์คนอื่นๆ และลดความแปลกแยกกับสังคม วันที่เขากลับคืนสู่สังคม เขาก็ไม่ต้องตั้งหลักยาว
  • เขาได้กลับบ้านทุกเดือน ทำกิจกรรมต่างๆ เหมือนกับมนุษย์ปกติ
  • ตอนสึนามิ ก็ขึ้นลงตะกั่วป่า
  • ตอนโคลนถล่มที่ลับแล ก็ไปช่วยกวาดโคลน

กิจกรรมเหล่านี้มันปลุกความเป็นมนุษย์ของเขาให้ตื่นขึ้น ซึ่งดิฉันคิดว่า อันนี้ต้องเปลี่ยนระบบคิดทั้งหมดเลย ดิฉันเชื่อเลยว่า มันตอบโจทย์ไม่ได้

รวมเรื่อง Learn 4 Change ที่เมืองทองธานี

 

หมายเลขบันทึก: 151862เขียนเมื่อ 6 ธันวาคม 2007 19:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 21:51 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท