อาจารย์วิจารณ์ได้กล่าวในพิธีเปิดมหกรรม และให้ข้อเสนอแนะ นานาวิธี ในการ ลปรร. กันในงาน NKM 4 นี้ด้วยนะคะ คือ

สิ่งที่เราพยายามให้ท่านได้เห็นเมื่อได้เข้ามาร่วมงาน คือ ให้ท่านได้เห็นเองว่า เมื่อใช้เครื่องมือการจัดการเรียนรู้แล้ว เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ต่อองค์กร และต่อบุคคลอย่างไร

แล้วในห้องต่างๆ นี้ ก็จะนำเสนอเพื่อให้ท่านได้เห็น เข้าใจด้วยตัวเองว่า การเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นเกิดขึ้นได้เพราะอะไร มีการประยุกต์ตัวเองในด้านการจัดการความรู้อย่างไรจึงจะได้ผล

นี่คือ ตัวเป้าหมายของการจัดงานมหกรรมนี้

และเพื่อบรรลุเป้าหมายการเรียนรู้ ... ตัวผู้ที่มาแลกเปลี่ยนนั้น เราก็จะเลือกมา สรรมา จากผู้มีประสบการณ์ตรง และได้เห็นการเปลี่ยนแปลงแล้วสามารถบรรลุได้จริง ... คณะผู้จัดได้พยายามอย่างที่สุด เพื่อที่จะได้ให้ท่านได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ เพราะว่าประโยชน์ที่ได้รับจาก KM มันเป็นเรื่องของการเอาไปใช้จริง เรื่องของการมีประสบการณ์ตรง จึงจะเห็นผล

ในงานนี้จะมีกิจกรรมที่ท่านจะได้ซึมซับ และได้ประโยชน์ คือ

• กิจกรรมแรก คือ วีดิทัศน์เปิดการประชุม ตัวอย่าง 3 หน่วยงาน
• แหล่งที่สอง งานนิทรรศการ (Shine&Learn) ... ท่านจะได้แลกเปลี่ยนกับคนที่เขาทำจริง สองต่อสอง หรือกลุ่มเล็กๆ ทั้งหมด 20 หน่วยงาน (รวมทั้งห้องจุดเปลี่ยนด้วยค่ะ)
• บรรยายพิเศษ โดย ศ.นพ.จรัส สุวรรณเวลา เป็นการเรียนรู้แบบที่สาม ... ซึ่งพรุ่งนี้ คุณประยงค์ รณรงค์ ก็จะมาปาฐกถาพิเศษในช่วงก่อนปิดการประชุม
• มีห้องเรียนรู้ 3 ห้องพร้อมๆ กัน คือ Love&Learn, Lead&Learn และ Tool&Learn
  ... ผมแนะนำว่า ท่านอยู่ห้องไหน ก็ขอให้อยู่จนจบ เพราะความเข้าใจเรื่อง KM ต้องมีสมาธิ ฟังอย่างลึก ฟังให้เลยไปจากถ้อยคำที่ท่านวิทยากรได้มาเล่า ถ้าจะเปลี่ยนก็เปลี่ยนหลังจาก session นั้นๆ ไปแล้ว
• อันที่ห้า คือ ห้องฝึก (Play&Learn) โดยมี KM Intern / KM Extern เป็นห้อง KM Learn
• ประการที่ 6 ... มีหนังสือและ VCD จำหน่ายราคาย่อมเยา เป็นการสะสมความรู้จากประสบการณ์
• ประการที่เจ็ด คือ ในผู้มาร่วมงานจะมีคนที่ประสบการณ์เยอะจำนวนมาก วิทยากรมากอย่างที่ไม่เคยปรากฎที่อื่น จำนวนเป็น 100 และวิทยากรคือ ผู้มีประสบการณ์ตรง ... น่าอย่างยิ่งที่จะคุยกัน รู้จักกัน วันหน้าก็จะได้เจอกันอีก ถามคำถามอะไรลึกๆ กันได้

KM จะได้ประโยชน์ก็จะต้องมีความเข้าใจในมิติที่ลึก ซึ่ง รร.เพลินพัฒนาพูดออกมาแล้ว ... ว่าเด็กเรียนจากร่างกายของตัวเอง จากที่ตัวเองกระโดดๆๆ แม้เด็กอนุบาล 2 ก็บวกเลข โดยไม่ต้องนับนิ้ว บวกนิ้ว เพราะว่ามันซึมเข้าไปอยู่ในตัว KM จะช่วยในเรื่องของการที่ร่างกายเปลี่ยนสมอง หรือว่าพฤติกรรมเปลี่ยนสมอง ก็ทำให้เกิดความสุข เกิดการทำงานที่มีความสำเร็จอย่างไม่คาดหมาย อย่างมหัศจรรย์ ... เพราะฉะนั้นใน 2 วันนี้ เรามาเรียนเรื่อง มหัศจรรย์ KM กัน

จริงหรือไม่ก็ขอเชิญพิสูจน์ได้ด้วยตัวเองกันครับ

รวมเรื่อง Learn 4 Change ที่เมืองทองธานี