ของแจ้ห่มเป็นโครงการต่อเนื่องจากปีแล้ว คือ ปี 49 ปี 50 นี้ได้รับทันตแพทย์ใหม่ 2 คน ก็คือ เก๋ กับเพื่อนอีกคนหนึ่ง (พลอย) ... หมอเก๋เล่า (วันนี้หมอพลอย และคุณนันทริกา จาก รพ.แจ้ห่ม ก็ควงกันมาด้วยกัน 3 ท่านค่ะ)
- โครงการปีที่แล้ว พี่ปูทำไว้ (เดิมหมอปู หรือธาริณีทำโครงการนี้มาก่อน ตอนนี้ย้ายไปอยู่ดอยเต่า ที่เชียงใหม่แล้วค่ะ)
- ได้รับโครงการมาก็ไม่ทราบจะทำยังไง
- ทราบแต่ว่า ได้มีการขอความร่วมมือจากผู้สูงอายุที่ (ในแจ้ห่ม มี 7 ตำบล)
- และทราบว่าผู้สูงอายุที่เข้มแข็ง ใน 7 ตำบลนี้ มีอยู่ 2 ชมรม ก็คือ ที่ตำบลแจ้ห่มเอง กับตำบลแม่สุก ก็เลยโฟกัสที่ 2 ตำบลนี้ ละก็ได้รับความร่วมมือ
- ก็คือ พี่พยาบาล (คุณนันทริกา) ที่รับผิดชอบผู้สูงอายุอยู่แล้ว ก็ช่วยนัดกลุ่มมาให้ และมาทำกิจกรรมกัน
- ก็คือ เลือกมาและตั้งคำถามขึ้นสไลด์ และถามเขาว่า อยากจะทำอะไรให้มันดีขึ้น ด้านส่งเสริมสุขภาพช่องปาก และให้เขาคิดกันเอง และนำเสนอ
- ก็มา 2 ตำบลก็จะคล้ายๆ กัน คือ อยากให้มีการจัดอบรม ความรู้ จัดบอร์ด คือ เขาคิดกันของเขาเอง ให้มีการสอนการดูแล
- และเขาก็บอกเองว่า เขาอยากดูแลคนรอบข้างด้วย ก็เลยดำเนินการ
- ของปีที่แล้วก็เริ่มจากที่มีการจัดบอร์ด โดยข้อมูลในบอร์ดที่จัดไว้ ในที่ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่ประชุมของเขา ก็จะได้รับข้อมูลจาก รพ. อย่าง สสจ. ส่งโปสเตอร์มาให้ เราก็ส่งให้พ่อกับแม่ไปจัดบอร์ด (บอร์ดให้ความรู้)
- ตำบลแจ้ห่ม และแม่สุกจะแยกกัน
- อย่างแจ้ห่ม เขาจะมีวัด และไปออกกำลังกายกัน ทำกิจกรรมร่วมกันที่หน้าวัด บอร์ดก็จะอยู่ตรงนั้น
- และมีกิจกรรมให้ความรู้ ที่ทันตแพทย์ 2 คน ปีที่แล้วก็ได้ออกไปให้ทั้ง 2 ตำบล ทั้งให้โปสเตอร์ โมเดล สอนตัวต่อตัว เป็นรายกลุ่มด้วย และให้ผู้สูงอายุมีส่วนร่วมออกมาสอนกัน และก็มีการแปรงฟัน สอนแปรงฟัน สอนเสร็จก็ให้ย้อม plaque และดู
- มีทั้งหมอสอนให้ดู ว่าตรงนี้ยังติดอยู่ และคนที่พอจะเป็นก็ดูเอง หรือถ้าดูไม่เป็น ก็อ้าปากให้เพื่อนดู
- ส่วนปีที่แล้วจะมีการประกวดฟันด้วย ในวันแม่
- ที่นี่ ผู้สูงอายุทำทุกอย่างเอง ตั้งแต่ลงทะเบียน ทาง รพ. ช่วยแค่เป็นหมอ และไปช่วยตรวจฟันว่า ใครฟันดี และไปออกเกียรติบัตรให้
- ทีนี้ก็จะมีกิจกรรมหนึ่ง คือ ผู้สูงอายุออกตรวจฟันในชุมชน อันนี้เขาทำของเขาเอง ... คือ เดินในหมู่บ้านและก็ไปตรวจ เขียนวันที่ วันที่วันนี้ได้ไปออกตรวจตรงนี้ เจอหินปูน เขาตรวจในชุมชน ใครก็ได้ที่เขารู้จัก เขาก็ตรวจให้หมด
- พอดีเป็นช่วงที่พวกหนูมาใหม่ ก็มาดู และว่า การตรวจฟันนี่ ไปอ่านของเขาก็เป็นเล่ม ดูแล้วมันยังขาดอะไรอยู่ ... ในบันทึกบอกว่า ... มีหินปูน มีฟันผุ จบ ... ไปตรวจฟันตรงนี้ ตรงนี้
- ก็รู้สึกเหมือนกับเขายังไม่รู้ว่า ฟันผุคืออะไร
- มีแนวคิดขึ้นว่า จากปีที่แล้วมีการแปรงฟันตนเอง ผู้สูงอายุแปรงฟันได้ แปรงฟันก่อนนอน หลังอาหารทุกครั้ง
- ทีนี้ก็ดูแลตนเองได้แล้ว ... ก็อยากดูแลคนรอบข้างบ้าง
- ก็เลยจัดการอบรมขึ้นมา เป็นการให้ความรู้ดูแลสุขภาพช่องปาก ในเรื่องโรคในช่องปาก คือ สอนเรื่องโรคฟันทั้งหมด และสอนการตรวจฟัน เพื่อจะได้ไปตรวจคนอื่น กับการดูแลสุขภาพช่องปากของคนที่มีโรคประจำตัว เพราะว่าผู้สูงอายุก็จะบอกว่า ตัวเองมีโรคประจำตัวอย่างนี้ ทำยังไง
- อันนี้ก็คือ หมออบรมให้ ได้รับความสนใจจากที่ปีที่แล้วเริ่ม 2 ตำบล
- การนัดมาคราวนี้ก็คือ ผ่านแกนนำที่ตำบลแจ้ห่ม กับตำบลแม่สุก ทีนี้ก็ไม่ทราบว่าประสานงานกันยังไง คนที่มาอบรมกันในวันนั้นคาดว่าจะมี 40 คน ก็กลายเป็น 70 กว่าคน
- ที่มารับการอบรมครั้งนี้ ก็คือ แผ่ขยายไป 5 ตำบลแล้ว (เหลืออีก 2 ตำบล เพราะว่าเป็นพื้นที่ที่อยู่ไกล บนดอย ค่ารถ 500 บาท ก็เลยมาไม่ได้) ก็ได้รับความสนใจมาก
- ในการอบรมไม่มีใครนั่งหลับ ถ้าเขียนไม่ได้ (ส่วนใหญ่จะเขียนกันได้ค่ะ) ก็นั่งจ้อง และถามก็พอจะเข้าใจ และมีการซักถามปัญหา
- คนที่มาอบรมเป็นแกนนำ และผู้ที่สนใจ มีทั้งแบบสนใจอยากเรียนรู้
- เรื่องภาษาพูดมีปัญหาบ้าง (เพราะบอกว่าเก๋ก็คนใต้ พลอยก็คนภาคกลาง) ... แต่ก็มีพี่นันช่วย ... เริ่มตั้งแต่ไปถึง ก็พูด "ตา กับยาย" พี่เขาก็สะกิด "ที่นี่ไม่ได้เรียกตากับยาย" ... เราก็เป็น "ลุงกับป้า" ก็ไม่ใช่อีก ก็เป็น "พ่อกับแม่" ก็คือ ต้องปรับตัวตั้งแต่การเรียกชื่อ
- ตอนที่สอนการตรวจฟัน ก็จะออกแบบตรวจมาเป็นชื่อ สกุล และมีระบุความดันโลหิตสูง คือ บูรณาการเอาทั้งตัว
- แต่ตรงตรวจฟันก็จะเป็น ฟันหน้าบนกี่ซี่ และผุกี่ซี่ ฟันหน้าล่างกี่ซี่
- แล้วทีนี้ พอให้เขาตรวจ เขาก็พยายามตรวจกัน พอตรวจเสร็จ ก็สบายใจ มีแบบตรวจอะไรเรียบร้อย
- ก็ถามเขาว่า แบบตรวจที่ออกแบบมาให้นี่มันเป็นยังไง
- เขาก็ comment มาว่า มันน่าจะเป็นรูปนะหมอ มันต้องอย่างนี้ อย่างนั้น เขาบอกว่า ถ้าเป็นแบบคำพูดอย่างเดียว มันยาก ถ้าจะให้เขาออกตรวจฟัน
- เขาก็เลยเสนอมาให้เป็นรูปแบบนี้ คือ มี ฟอร์ม ของอายุเอง และทำเสร็จเขาก็ “หมอ มันตรวจแล้ว เขาก็อยากจะเก็บเป็นผลงานของเขาที่ชมรม" ... ก็เลยบอกว่า "เอ้า แล้วหมอจะรู้ได้ยังไงว่าไปตรวจหรือเปล่า" ... "งั้นหมอออกแบบมาอีกอันละกัน เป็นแบบที่ให้คนไข้ไป" ... เขาตรวจเสร็จเขาก็เก็บอันนี้ไว้ที่ชมรม หมออยากมาดูเมื่อไรก็มาดู
- แต่ว่าฟอร์มอีกฟอร์มหนึ่งก็เป็นการให้คำแนะนำเหมือนกับเขาจะได้รู้ว่ามีหินปูน เขาก็ต้องไปขูดหินปูน ... เขาก็จะเขียนไว้ในนี้ว่า มีหินปูน และเขียนอีกฟอร์มหนึ่งว่า คนไข้คนนี้ต้องไปขูดหินปูน ยื่นให้คนไข้ไป เขาก็จะเอาใบนี้ไปหาหมอ
- ก็คือ ช่วงแรกหมอก็จะได้เฉพาะฟอร์มนี้ ก็มาดูกันอีกว่า ไหนๆ ก็ตรวจแล้วก็เอามาให้หมอตรวจด้วยก็แล้วกัน ... คือ เวลามาคราวนี้ก็จะมีทั้งฟอร์มตรวจฟัน กับที่เขาแนะนำมา
- มันก็จะช่วยย่นระยะเวลาในการซักถามคนไข้ด้วย เพราะว่า มาถึงก็ดูปุ๊บก็ขูดหินปูนก็รู้เลย
- ซึ่งการตรวจฟันก็ดีพอสมควร เป็นการคัดกรองชุมชนให้โดยอัตโนมัติ และคนไข้ก็เยอะขึ้นอย่างมาก คนไข้เยอะเกินไป เขาก็จะรู้ตัวและมา ... แต่ก็รู้สึกว่าดี เพราะก็พบว่ามีคนหนึ่งมาเป็นหนอง แรกๆ เขาก็บอกว่า มันยุบเข้า ยุบออก แต่ว่าไปตรวจในชมรม รู้ว่าเป็นโรค ก็เลยมารักษา
- ชมรมนี้จริงๆ ก็มีการประชุมอยู่ ก็คือ ทุกวัน คุณพ่อกมลที่เป็นประธานชมรมผู้สูงอายุก็บอกว่า ที่ชมรมนี้มีการออกกำลังกาย สัปดาห์ละ 2 วัน คือ วันฝนตก กับวันฝนไม่ตก คือ เขาเจอกันทุกวัน และมีการตรวจฟันหลังการออกกำลังกายเป็นบางวัน
- และการตรวจฟันคือ คนที่มาเรียน 70 กว่าคนนี่คือ 5 ตำบล เขาก็ไปแผ่ขยาย คือ ตำบลเขาต้องรู้ทุกคน เขาบอกอย่างนี้
- “ที่หมอบอกเรื่องจะตรวจฟันยังไงนี่ ใน A4 นี่มันสอนไม่เห็น ... ก็ไปทำเป็นกระดานบอร์ดวาดรูปเอง และสอนเองว่า ฟันหน้าบนเป็นอย่างนี้ ฟันผุเป็นยังไง และให้ตรวจฟัน ตรวจก็ต้องนับฟัน แรกๆ ก็ชี้ๆ และมั่ว ก็เลยเอาปากกามาชี้ และดูกันเอง
- เขาบอกว่า มันดูไม่สะอาด อันนี้ก็เลยเปลี่ยนเป็นใช้ cotton bud จิ้มเข้าไปในปาก เขาประยุกต์ของเขาเองหมดเลย นี่คือกิจกรรมตรวจฟัน
- ส่วนความรู้ต่างๆ ที่ได้มา เขาก็จะไม่ใช่แค่ฟัน ตอนนี้จะมีโต๊ะตั้งในชมรม และเอาความรู้ตั้งแต่ ไปอบรมเรื่องหัวใจ มีนิตยสาร ก็จะมาวางไว้ตรงนี้
- สำหรับชมรมอื่น ตอนที่กองทันตฯ และศูนย์อนามัยที่ 10 มานิเทศติดตาม ... ก็ขอเชิญแกนนำมา ก็มากัน 5 ตำบลอีก 2 ตำบล ก็คิดไว้ก่อนว่าจะทำยังไง เพราะว่ามันเดินทางลำบากมาก
- 5 ตำบลนี้จะมีแกนนำที่สนใจ เขาเคยมาอบรม วันนั้นก็ให้แกนนำได้มีโอกาสพูดด้วยค่ะ คือ พูดกันทุกคน และก็ยกมือ อย่างบางตำบลบอกว่า ชมรมผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย ประธานผมก็ไม่ได้มา ผมมาคนเดียว เขาส่งผมมา เขามาที่นี่ก็เรียนรู้จะเอาไปทำ
- วันนั้นก็เลยคุยกันว่า ทำยังไงให้ตำบลอื่นๆ รู้เรื่องด้วย ก็คือ แกนนำของชมรมของตำบลก็บอกว่า เขาจะจับคู่ตำบลที่เข้มแข็ง กับตำบลที่อ่อนอยู่ จะไปให้ความรู้ ไปสอนอะไรกัน
- เพราะว่าแกนนำของตำบลที่ดูดีขึ้นอาจเป็นเพราะว่า เขาเป็นครู ข้าราชเกษียณมาก่อน 1) มีความรู้ระดับหนึ่ง และเป็นที่เชื่อถือของชุมชน 2) ก็คือ เขามีการออกเสียงตามสายด้วย และ 3) มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
- คงจะมีเรื่องการใช้แบบฟอร์ม และความสนใจของพื้นที่ที่เป็นหลักด้วย
- ก็จะมีพี่นันอีกคนที่ไม่ได้อยู่ในห้องฟันเลย แต่เป็นพยาบาลวิชาชีพที่รับผิดชอบเรื่องผู้สูงอายุ ก็เลยได้พี่เขาเป็นแกนหลักอีกคนที่ประสานงานให้เรา และพี่เขาก็ดูแลเรื่องอื่น เรื่องฟันของเรา ... เป็นทีมสุขภาพ คือ ทีมของเรา กับพี่นัน
- คิดว่านอกจากประธานแล้วก็จะมีในชมรมผู้สูงอายุ และคนอื่นๆ ในชมรม คือ ประธานก็บอกว่ามานะ ... แล้วคนอื่นก็ทำอันโน้น คนนี้ก็ทำอันนี้ก็ช่วยกันในชมรม ชมรมเข้มแข็งมาก มาก ทุกคนรู้สึกว่ามีหน้าที่ของเขาเอง
- หนูก็ไม่ทราบเขาทำหน้าที่อะไรกันบ้าง เพราะเพิ่งมาทำงานใหม่ และชมรมนี้ก็เป็นชมรมขนาดใหญ่ เพราะว่าเข้าไปแต่ละทีก็เจอใครมาใหม่ทุกคน
- ความเข้มแข็งอยู่ที่ทั้งคู่ คือ กรรมการก็เข้มแข็ง สมาชิกก็สนใจ คือ รู้ตัวเองว่า ต้องออกกำลังกายก็มา ถ้าไม่มาก็จะยกมือไหว้หมอตลอด ขอโทษมาไม่ได้ อะไรอย่างนี้ค่ะ
- และตอนนี้จะต่อยอดไปที่จับคู่ชมรม เราก็บอกเขาไปว่า ดูแลผู้สูงอายุ แล้วทำไมไม่ดูเด็กๆ ด้วย ก็คือ เขาตอนนี้จะแต่งนิทานประกวดกัน ตำบล ก็มีเรื่องในเสียงตายสาย เล่ากับเด็ก และไปช่วยกันในหมู่ กำลังลองจะถามดู
ต้องว่า โอ้โห มากมายก่ายกองจริงๆ อะค่ะ
นี่ละค่ะ หมอพลอย หมอเก๋ และคุณนันทริกา จาก รพ.แจ้ห่ม ลำปาง
รวมเรื่อง "รวมก๊วนสร้างพลังเรียนรู้ และพัฒนากิจกรรมผู้สูงอายุ"
ไม่มีความเห็น