2.2 ประกอบคุณธรรม 5 ประการคือ
2.2.1 การเก็บเกี่ยวและรวบรวมเสบียงสำหรับการเดินทาง โดยที่เสบียงที่ดีที่สุดคือความยำเกรงต่ออัลลอฮฺ อันหมายรวมถึง ความรู้ที่ได้รับการปฏิบัติ การขอพร (ดุอา) และบทกล่าว (ซิกรฺ) ในโอกาสต่างๆช่วงการทำฮัจญ์ การกระทำสิ่งที่อัลลอฮฺทรงใช้ และละเว้นสิ่งต่างๆ ที่พระองค์ทรงห้าม เป็นต้น
2.2.2 การโปรยสลาม ไม่ว่าด้วยคำพูด ด้วยการกล่าวอัสสะลามุอะลัยกุม ทั้งต่อคนรู้จักหรือไม่รู้จัก หรือด้วยการกระทำ มุสลิมจะไม่เป็นผู้สร้างความเดือดร้อนหรือลำบากใจแก่ผู้อื่น ผู้ประกอบพิธีฮัจญ์มีภารกิจหลักที่ติดตัวอยู่ตลอดเวลาคือการเป็นทูตสันถวไมตรีและสันติภาพระดับสากลที่ยึดมั่นในหลักการ “ไม่มีการกระทำที่สร้างความเดือดร้อนแก่ตนเอง และไม่มีการกระทำที่สร้างความเดือดร้อนแก่คนอื่น”(หะดีษรายงานโดยอิมามมาลิก/1426)
2.2.3 การใช้สัมมาวาจา โดยการใช้คำพูดที่ดีและไพเราะ ที่แสดงถึงความจริงใจของผู้พูด มีการถามไถ่ทุกข์สุขและรับทราบปัญหาของพี่น้องด้วยความเห็นอกเห็นใจกัน ทำความรู้จักระหว่างผู้ประกอบพิธีฮัจญ์บนพื้นฐานความเป็นภราดรภาพในอิสลาม
2.2.4 การให้อาหาร ซึ่งถือเป็นการให้ทานที่ประเสริฐสุดในช่วงการทำฮัจญ์ การให้อาหารถือเป็นกิจวัตรของมุสลิมอยู่แล้ว อิสลามได้กำชับแก่มุสลิมให้อาหารแก่คนยากคนจน เด็กกำพร้าหรือแม้กระทั่งเชลยศึกที่ถูกจับได้ในสมรภูมิสงคราม เพราะการให้อาหารถือเป็นหลักพื้นฐานของความดีงาม การมีจิตใจที่โอบอ้อมอารีและเผื่อแผ่เมตตา มุสลิมกระทำการดังกล่าว โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ เว้นแต่ความโปรดปรานของอัลลอฮฺเท่านั้น
2.2.5 การเปล่งเสียงตัลบียะฮฺและการหลั่งเลือดด้วยการเชือดสัตว์ฮัดย์หรือสัตว์กุรบานในช่วงประกอบพิธีฮัจญ์
การละเว้นข้อห้าม 3 ประการ และการประกอบคุณธรรม 5 ประการดังกล่าวช่วงการทำฮัจญ์ ถือเป็นเงื่อนไขสำคัญสำหรับการได้รับฮัจญ์มับรูรฺ และถือเป็นสาระหลักของความดีที่เป็นหัวใจของฮัจญ์มับรูรฺ ดัง อัลกุรอานกล่าวไว้ความว่า “และความดีใดๆ ที่พวกเจ้ากระทำนั้น อัลลอฮฺทรงรู้ดี และพวกเจ้าจงเตรียมเสบียงเถิด แท้จริง เสบียงที่ดีที่สุดนั้นคือความยำเกรง และพวกเจ้าจงยำเกรงข้าเถิด โอ้ผู้มีปัญญาทั้งหลาย” (2/197)
ไม่มีความเห็น