เรื่องนี้ผมได้ฟังท่านปรัชญา เวสารัจจ์ เล่าให้ฟังเป็นครั้งแรก หลายปีมาแล้ว ฟังแล้วขนลุก และน้ำตาซึม จึงได้นำไปบอกต่อกับใครต่อใครอีกมากมาย ตอนหลังได้เจอเป็นข้อเขียนที่อ้างอิงที่มาได้ จึงเก็บเอาไว้ เคยคิดจะนำมาวางที่นี่ก็เกรงว่าจะอ่านกันแล้ว แต่คิดแบบนั้นไม่น่าจะดีนัก เพราะจะเป็นการปิดโอกาสคนที่ไม่เคยรู้เรื่องราวอันน่าสนใจนี้ออกไปอีก คนเคยอ่านย่อมอ่านซ้ำได้ ไม่น่าจะมีปัญหา จึงขอเชิญทัศนาได้เลยครับ ....
เมื่อหลายปีก่อน อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอพกินส์ มอบหมายให้นักศึกษาปริญญาโททำงานวิจัยชิ้นหนึ่ง โดยเก็บข้อมูลเด็กชายอายุระหว่าง 12-16 ที่อาศัยอยู่ตามชุมชนแออัดต่าง ๆ จำนวน 200 คนแล้วให้วิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเด็กกลุ่มนี้บ้างในอนาคต
หลังจากที่นักศึกษาได้ศึกษาข้อมูลเชิงสังคมและพูดคุยกับเด็ก ๆ เพื่อเก็บข้อมูลแล้ว จึงพร้อมใจกันสรุปว่า 90% ของเด็กชายเหล่านั้นจะต้องติดคุก
25 ปีต่อมา นักศึกษาปริญญาโทอีกกลุ่มหนึ่งได้รับมอบหมายให้กลับไปทดสอบผลสรุปในครั้งก่อนนั้น พวกเขาจึงกลับไปยังสถานที่เดิม จากเด็กชาย...บัดนี้พวกเขาได้เติบโตเป็นหนุ่มใหญ่ มีเพียงสองสามคนที่เสียชีวิต บางคนได้ย้ายนิวาสสถานไปอยู่ที่อื่น อย่างไรก็ตาม พวกเขาได้พบกรณีศึกษา 180 คน จากจำนวนเดิมสองร้อยคน ซึ่งปรากฏว่ามีเพียงสี่คนเท่านั้นที่เคยใช้ชีวิตอยู่ในคุก
ทำไม...ทำไมคนที่อาศัยในถิ่นกำเนิดอาชญากรรมเยี่ยงนั้น กลับมีประวัติที่ขาวสะอาดอย่างไม่น่าเชื่อ...หลังจากที่ซักไซ้ไล่เลียง จึงได้รับคำบอกเล่าว่า...
"อืมม์.. มีคุณครูอยู่ท่านหนึ่ง.." ซึ่ง 75% ของเด็กกลุ่มดังกล่าวเคยเล่าเรียนกับคุณครูสาวผู้นี้ นักวิจัยจึงตัดสินใจเดินทางไปพบคุณครูท่านนั้น ซึ่งบัดนี้อาศัยอยู่ในบ้านพักครูเกษียณอายุ และได้ตั้งคำถามว่า
"ทำไมครูถึงได้มีอิทธิพลกับเด็กมากมายขนาดนี้ พอจะบอกได้ไหมว่าทำไมเด็ก ๆ เหล่านั้นยังจำคุณครูได้"
"ไม่รู้สิ.." คุณครูสั่นศีรษะ "ฉันตอบไม่ได้หรอก..."
แต่เมื่อกลับไปคึดถึงวันคืนเหล่านั้น เธอก็รำพันกับตัวเองมากกว่าที่จะตอบคำถามนักศึกษา
" ฉันรู้แต่ว่า...ฉันรักเด็กพวกนั้น "
..... จบ .....
ผู้เขียน : นิรนาม / ผู้แปล : แบ่งปัน
คอลัมน์ของนอก น.ส.พ. ผู้จัดการรายวัน
วันที่ 4-5 พฤศจิกายน 2543
อ่านแล้วดีจังเลยค่ะ และดีใจกับเด็กเหล่านั้นที่มีครูที่รักพวกเขา และเคยได้ยินคำหนึ่งที่บอกว่า "ความรักทำให้ชนะทุกสิ่ง" และความรักของครูจึงมีผลต่อการเปลี่ยนวิถีชีวิตของพวกเขา
เรียนท่านอาจารย์พินิจ
เมื่ออ่านจบแล้ว ทำให้ดิฉันมองย้อนดูตนเอง ในฐานะครูคนหนึ่ง เหมือนคุณครูท่านนี้ ที่เป็นครูได้ทั้งชีวิตและจิตวิญญาณ น่ายกย่องและน่าสรรเสริญมาก ค่ะ ดิฉันก็รักลูกศิษย์ทุกคนเหมือนลูก แต่บางครั้งดิฉันก็นึกเสียใจกับบางสิ่งที่เราให้ได้ไม่เต็มที่กับลูกศิษย์ของตนเอง
ขอบคุณทั้ง 3 ท่านครับ