การเข้าร่วมประชุม “National Training Programme for Teacher Educators and the Next Generation of Teachers on ICT-Pedagogy Integration” ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ยังมีอะไรน่าสนใจอีกบ้าง?....
สิ่งที่น่าชื่นชมสำหรับการจัดงานครั้งนี้มีหลายอย่าง เริ่มตั้งแต่การรับสมัครก็ใช้วิธีง่ายๆแต่มีประสิทธิภาพ คือให้เรา Fax. ใบสมัครไปแล้วคอยตรวจสอบรายชื่อจาก Website ของหน่วยงานคือ http://www.it.chiangmai.ac.th/ ผ่านไปแค่ 1 วันผมก็ได้เห็นชื่อตัวเองอยู่ใน List รายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมรายการ เขาจัดแยกเป็นภูมิภาค เมื่อกวาดตาดูในวันนั้นก็ยังไม่เห็นชื่อคนคุ้นเคยเลยมีแต่หนึ่งเดียวคือ ผศ. ดร.ประสิทธิ์ สังขมณี จาก มรภ.สงขลา ซึ่งเป็นรุ่นน้องผม 1 ปีตั้งแต่สมัยเรียน ปกศ. ก็ได้แต่เล็งๆอยู่ว่า คงได้เจอและอาจได้พักด้วยกัน แต่ก็ไม่เคยได้ติดต่อสื่อสารกันแต่อย่างใด
ผมเดินทางโดยการบินไทย เที่ยวบิน TG-112 ค่าตั๋วไปกลับลด 5 % แล้ว = 5515 บาท แต่นำหลักฐานไปเบิกคืนได้ เพราะเขา Support ทั้งค่าที่พัก ค่าเดินทางและค่าอาหารวันละ 2 มื้อตลอด 5 วันของการฝึกอบรม
ออกเดินทางวันที่ 27 สิงหาคม เวลาตามที่กำหนดคือ 13.15 น. แต่จำได้(จากการจด) ว่า เครื่อง Boeing-737 Take off เวลา 13.30 น. โดยใช้เวลาเพียง 40 วินาทีเท่านั้นจากจุดเริ่มต้น เวลา13.45 น. ก็มีอาหารว่างมาเสริฟ มีไก่อบชิ้นโต น้ำผลไม้ ขนมหวานเป็นวุ้นกะทิ และกาแฟร้อน ทุกอย่างดูรสดี อร่อยไปหมด เนื่องจากมันเป็นทั้งอาหารเช้าและเที่ยงของผมในวันนั้น เพราะกว่าจะจัดของเสร็จก็หวุดหวิดเต็มที แต่ก็ได้ใช้โทรศัพท์โทรจากในรถ Taxi ขณะเดินทางไปสนามบิน ประสานเรื่องตั๋วที่จองไว้ พอไปถึงก็เร็วขึ้นอีกมาก ณ เวลา 14.00 น. ผมจัดการเรียบกับอาหาร-เครื่องดื่มทุกรายการที่กล่าวมา
14.45 น. กัปตันก็ประกาศลดเพดานบินลงสู่ท่าอากาศยานเชียงใหม่
หลังจากรอรับกระเป๋าสัมภาระเรียบร้อยแล้วผมก็เดินมองหาคนถือป้ายที่จะบ่งบอกว่าจะมารับไปยังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เนื่องจาก 1 วันก่อนออกเดินทางมีเจ้าหน้าที่โทรถามว่าจะไปเที่ยวบินไหน จะมีรถมารับ แต่ก็ไม่เห็นมีตามที่คาดหวัง ผมเริ่มคิดเชิงลบว่า "แล้วโทรไปบอกทำไม?" แต่แล้วอีกความคิดหนึ่งก็มาเตือนว่า "มองมุมบวกดีกว่ามั้ง" เลยหาเหตุผลให้เขาเรียบร้อยว่าอาจวุ่นกับการเตรียมงานหรือมีปัญหาอีกมากมายให้เขาต้องเหนื่อยยาก นั่งรถรับจ้างไปก็ได้ไม่เห็นจะเป็นอะไร .. ทุกข์ผมก็น้อยลงทันที
ช่างบังเอิญเหลือเกินที่ผมเดินออกประตูอาคารพร้อมกับ "น้องประสิทธิ์" คนที่กล่าวถึงมาแล้วข้างต้น เขามาจากสงขลา โดย นกแอร์ คนละเวลากับผมแต่ก็ออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย เขาชวนผมไปด้วยกันกับเพื่อนคือ ผอ.วิรัตน์ สหายร่วมรุ่นของเขาที่ขับรถมารับ แต่ที่แท้โชเฟอร์กลายเป็น คุณพรรณี ศรีภรรยาของท่านวิรัตน์ เหตุเพราะท่านผอ.เกิดเข่าอักเสบรุนแรงถึงขนาดต้องใช้มือประคองขาค่อยๆลงจากรถ นั่งมาด้วยแต่ขับรถไม่ได้
เราต้องแวะไปบ้านผอ.วิรัตน์ก่อนเพราะ มีรถยนต์ของดร.ประสิทธิ์ ฝากจอดไว้ 1 คันรออยู่ที่นั่น เห็นบอกว่าเป็นรถที่ลูกชายเคยใช้ตอนเรียนอยู่ มช.ก่อนไปต่อปริญญาเอกที่ ออสเตรเลียเมื่อไม่นานมานี้ ช่างบังเอิญอีกนั่นแหละ เป็นรถ Mazda 323 รุ่นเดียวกับเจ้า "น้ำว้า" ที่ผมใช้อยู่ที่ กทม. เพิ่งขับไปจอดไว้เมื่อไม่ถึง 2 ชั่วโมง ก็ได้มานั่งต่อที่เชียงใหม่อีกแล้ว
เจ้าของบ้านจัดการดูแลเราแบบกันเองและอบอุ่นอย่างยิ่ง ก็คุณพรรณีนั่นแหละ เธอยกมาทั้งกล้วยนำว้า น้อยหน่า ขนมปังทาแยม ส่งมาไม่ขาดตอน อาหารไม่เท่าไหร่ แต่ดูใจคนต้อนรับแล้วเกิน 100 % ครับ
ผมกับดร.ประสิทธิ์ ซึ่งกลายเป็นโชเฟอร์ไปแล้ว ออกเดินทางจากบ้านผอ.วิรัตน์ เวลา 15.45 น. และเพื่อความไม่ประมาท เราแวะเติมน้ำมันเต็มถัง เตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ สำหรับการ หลงทาง แล้วก็เป็นจริงตามนั้น คือเราหลงได้ทุกวัน มากบ้างน้อยบ้าง เมื่อออกจาก มช.หลังการอบรม แต่ก็ไม่เครียด เรากลับมองว่าการหลงทางทำให้ได้พบอะไรที่แปลกออกไป เช่นได้ซื้อกล้วยน้ำว้า หวีละ 5 บาท 10 บาท ไปตุนไว้กินได้ตลอด 5 วัน และได้นั่งทานก๋วยเตี๋ยวข้างทางที่มากด้วยปริมาณ และรสชาติใช้ได้ ในราคา ชามละ 10 บาท เป็นต้น
เราไปหลงอีกเล็กน้อยใน มช. ก่อนที่จะไปยังที่พักคือ อาคาร UNISERV หรือ สำนักบริการวิชาการ ของมหาวิทยาลัย เรากำลังจะไปขอเปลี่ยนแปลงการจัดที่พักเพื่อให้ได้พักอยู่ด้วยกัน แล้วก็อีกหนึ่งบังเอิญครับ เขาจัดให้ผมพักห้องเดียวกับ "น้องประสิทธิ์" เรียบร้อยแล้วโดยไม่ต้องเปลี่ยนให้วุ่นวาย ทั้งที่คนหนึ่งไปจาก กทม. อีกคนจากสงขลา ไม่มีใครรู้ว่าเรา พี่น้องกัน สุดท้าย เลขห้องพักคือ 323 ช่างไปพ้องกับ Mazda 323 ที่เพิ่งขับเข้าจอดไว้ที่หน้าอาคารอีกแล้ว นี่ถ้าเป็นคนชอบเล่นหวยคงหมดกันเพราะเลขนี้อีกไม่น้อยเป็นแน่แท้
ที่พักก็ธรรมดาๆครับ ไม่หรูหราแต่สะดวกสบายและอยู่ใกล้ที่อบรม ห่างกันเพียง 2-3 ร้อยเมตรเท่านั้น มีตู้เย็น มีทีวี 14 นิ้ว ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะทำงาน และหลอดไฟก็สว่างเพียงพอ ที่น่าสนใจคือเขามีวิธีการควบคุมการใช้น้ำและไฟฟ้าที่หลายที่ไม่ได้ทำ เช่นการมีวาล์วน้ำคอยควบคุมอีกชั้นในแต่ละจุดในห้องน้ำ เพื่อป้องกันและแก้ปัญหาการรั่วซึม ส่วนไฟฟ้าเข้าตู้เย็นนั้น มีสวิตช์ควบคุมด้วยอีกชั้นหนึ่ง คือเสียบปลั้กแล้วต้องเปิดสวิตช์ด้วย จึงจะใช้งานได้
บทสรุป
บันทึกตอนนี้ยาว โดยไม่ค่อยมีสาระ แต่เป็นความตั้งใจ ไม่ใช่บังเอิญครับ ตอนที่ 3 น่าจะมีอะไรเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นบ้าง โปรดคอยติดตาม.
ผมได้เรียนรู้อย่างหนึ่งเรื่อง ความรอบคอบ ครับ ปกติผมไม่ค่อยรอบคอบ ...แก้ปัญหาไปเรื่อยๆ นี่คือสิ่งที่ผมต้องแก้ไข
อาจารย์เติมน้ำมันเต็มถัง...เพื่อเดินทางไปยัง มช. ในความเป็นจริงในฐานะที่เป็นศิษย์เก่า มช. ก็ระยะทางไม่ไกลครับ...
แต่ผู้แปลกถิ่น คงต้องเตรียม เรื่อง "การหลงทาง" ซึ่งถูกต้องครับ ที่ต้องเติมน้ำมันเต็มถัง หลายจุดที่ มช.ก็ซับซ้อนครับ ..
สิ่งที่ได้เรียนรู้
และ...เหตุการณ์ที่บังเอิญ ตัวเลขที่พ้อง สามารถนำไปซื้อหวยได้ หากเชื่อว่า...
บันทึกอาจารย์สนุก ธรรมชาติและเห็นภาพครับ สาระแฝงอยู่ข้างในอยู่แล้วครับ(ตามสิ่งที่ผมได้เรียนรู้)
ผมฟังเพลง Handy man แล้วนึกถึงอาจารย์ครับ
เป็นการเดินทางที่น่าสนุกนะครับอาจารย์ บังเอิญพบแต่สิ่งดี ๆ
ขอบคุณทุกท่านครับ
ชอบจังค่ะ อยากเขียนเล่าได้อย่างนี้บ้างจัง แต่เป็นคนไม่ชอบการเดินทางเอาเสียเลย อยู่ห่าง"บ้าน"นานจน พอกลับมาแล้ว ไม่อยากไปไหนเลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับความรู้สึกดีๆ หลังจากอ่านจบนะคะ ไม่มีอะไรจะต่อยอดค่ะเพราะ "อิ่ม"เกินไป