นิทานปลาดาว


บ่อยครั้งที่ท้อ บ่อยครั้งที่ไม่อยากทำอะไรต่อไป นิทานปลาดาว เป็นนิทานเล็กๆที่อ่านแล้ว ให้พลังใจเสมอ

ทุกวันที่เราทำงานกัน มีเหนื่อยบ้าง สุขบ้าง ท้อบ้าง

ผลของงานก็มีทั้งประสบความสำเร็จและล้มเหลว

มาวันหนึ่ง เกิดท้อกับหลายเรื่องราวที่ผ่านเข้า พาลไม่อยากทำอะไรต่อไปอีกแล้ว

บ่อยครั้งที่ผมกับน้องหมอ kmsabai นั่งคุยเพื่อให้กำลังใจซึ่งกันและกัน

ผมเล่านิทาน “ปลาดาว” ให้น้องฟัง ผมคิดว่าหลายๆท่านคงรู้จักและเคยอ่าน นิทานเรื่องนี้ทำให้ผมมีพลังทางบวกขึ้นมาก หากเมื่อไหร่ก็ตามที่ผมท้อ เรามาเติมกำลังใจไปพร้อมๆกัน กับเรื่องราวของ “นิทานปลาดาว” กันเถอะ

ณ ชายหาดแห่งหนึ่ง ซึ่งทะเลแถบนั้นเป็นที่อาศัยของปลาดาวจำนวนมาก

ทุกๆ เช้า น้ำทะเลจะซัดสาดเจ้าปลาดาวน้อยใหญ่ขึ้นมาเกยตื้นบนพื้นหาด

เมื่อเข้าสู่เวลาสาย แสงตะวันอันร้อนแรงก็จะเริ่มแผดเผาเจ้าปลาดาวจนมันค่อยๆ แห้งตายไปทีละตัว สองตัว...

แต่ถึงกระนั้น ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่เขาจะออกมาที่ชายหาดในทุกๆ เช้า เพื่อจะโยนปลาดาวที่เกยตื้นลงทะเล

แม้ว่าจำนวนปลาดาวบนชายหาดจะมากขนาดไหนก็ตาม แต่เขาก็ยังคงทำสิ่งนี้อยู่ทุกวัน

จนถึงเช้าวันหนึ่ง ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังโยนปลาดาวลงทะเลเหมือนกับทุกๆ วัน ก็มีชายชราคนหนึ่งเดินเข้ามาหา แล้วก็พูดว่า

“เจ้าหนุ่มเอ๋ย...มันจะมีประโยชน์อะไรที่เธอจะทำแบบนี้ทุกวัน เพราะในวันต่อไป ปลาดาวก็ต้องถูกน้ำซัดขึ้นฝั่งอีกอยู่ดี และปลาดาวที่อยู่บนฝั่งมันก็มากเกินกว่าที่เธอจะช่วยมันได้ทั้งหมด ถึงเธอจะช่วยมันได้บ้าง แต่ถ้าเทียบกับปลาดาวอีกมากที่เธอช่วยมันไม่ได้ มันก็ไม่ต่างกับการที่เธอจะเพิกเฉยต่อพวกมันหรอก”

ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ พร้อมทั้งหยิบปลาดาวตัวหนึ่งโยนอย่างสุดแรงเกิดลงไปที่พื้นน้ำทะเล พร้อมทั้งกล่าวว่า

“มันต่างกันที่ตรงนี้แหละครับ”

 

คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 22625เขียนเมื่อ 5 เมษายน 2006 10:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 มิถุนายน 2012 21:12 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

                         Passover Parting Of Sea 

  • ยอมดีกว่าอยู่เฉยครับ เข้าไปดูเรื่องของคุณเคียง คงแก้วหรือยังครับ
  • เข้าไปที่http://phatthalung.doae.go.th/d.htm นะครับ

 

                                





     ผมว่าจะสุดยอดในตอนต่อไป หากได้เล่าต่อว่า "ชายชรา" ได้สนทนาต่อกับชายหนุ่มอีกหรือไม่ และท่านคิดได้อย่างไรครับ

คุณขจิต

ผมไปแอ่วเจียงฮายมา เมื่อวานนี้ครับ ช่วงนี้ภาระกิจเยอะครับ ขอบคุณสำหรับ Link ครับ ผมจะตามเข้าไปดูครับ แล้วจะเอาประเด็นมา ลปรร.กันครับ

พี่ชายขอบ

จริงๆแล้วมี ภาค 2 ครับ ผมกำลังจะเอามาลงเร็วๆนี้ ครับผม

 

-ขจิต ฝอยทอง( khajit's blog)
  • ขอบใจมาก
  • อยากอ่านภาค 2 เร็วๆ
ดอกไม้ แห่ง ศรัทธา
ณ ชายหาดแห่งหนึ่ง ซึ่งทะเลแถบนั้นเป็นที่อาศัยของปลาดาวจำนวนมาก ณ ชายหาดแห่งหนึ่ง ซึ่งทะเลแถบนั้นเป็นที่อาศัยของปลาดาวจำนวนมาก

ทุกๆ เช้า น้ำทะเลจะซัดสาดเจ้าปลาดาวน้อยใหญ่ขึ้นมาเกยตื้นบนพื้นหาด

เมื่อเข้าสู่เวลาสาย แสงตะวันอันร้อนแรงก็จะเริ่มแผดเผาเจ้าปลาดาวจนมันค่อยๆ แห้งตายไปทีละตัว สองตัว... แต่ถึงกระนั้น ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อ ที เขาจะออกมาที่ชายหาดในทุกๆ เช้า เพื่อจะโยนปลาดาวที่เกยตื้นลงทะเล

แม้ว่าจำนวนปลาดาวบนชายหาดจะมากขนาดไหนก็ตาม แต่เขาก็ยังคงทำสิ่งนี้อยู่ทุกวัน จนถึงเช้าวันหนึ่ง ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังโยนปลาดาวลงทะเลเหมือนกับทุกๆ วัน ก็มีชายชราคนหนึ่งชื่อยอดดอย เดินเข้ามาหา แล้วก็พูดว่า “เจ้าหนุ่มเอ๋ย...มันจะมีประโยชน์อะไรที่เธอจะทำแบบนี้ทุกวัน เพราะในวันต่อไป ปลาดาวก็ต้องถูกน้ำซัดขึ้นฝั่งอีกอยู่ดี และปลาดาวที่อยู่บนฝั่งมันก็มากเกินกว่าที่เธอจะช่วยมันได้ทั้งหมด ถึงเธอจะช่วยมันได้บ้าง แต่ถ้าเทียบกับปลาดาวอีกมากที่เธอช่วยมันไม่ได้ มันก็ไม่ต่างกับการที่เธอจะเพิกเฉยต่อพวกมันหรอก” และชายชราชื่อ ยอดดอย ก็เดินต่อไปพบผู้หญิงที่ชื่อ ลอย และก็ตั้งคำถามว่า “ จะมีประโยชน์อะไรที่เธอจะทำแบบนี้ทุกวัน เพราะในวันต่อไป ปลาดาวก็ต้องถูกน้ำซัดขึ้นฝั่งอีกอยู่ดี และปลาดาวที่อยู่บนฝั่งมันก็มากเกินกว่าที่เธอจะช่วยมันได้ทั้งหมด ถึงเธอจะช่วยมันได้บ้าง แต่ถ้าเทียบกับปลาดาวอีกมากที่เธอช่วยมันไม่ได้ มันก็ไม่ต่างกับการที่เธอจะเพิกเฉยต่อพวกมันหรอก”หญิงสาวยิ้มน้อยๆ และตอบว่า พร้อมทั้งหยิบปลาดาวตัวหนึ่งโยนอย่างสุดแรงเกิดลงไปที่พื้นน้ำทะเลย พร้อมทั้งกล่าวว่า “มันต่างกันที่ตรงนี้แหละ..ที่ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย”

 นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า....
นิทานปลาดาว (version ต่อมา) ครับ ...หลังจากวันนั้น ชายหาดก็ยังอยู่ที่เดิม ปลาดาวก็ยังถูกน้ำซัดขึ้นมาเหมือนเดิม และชายหนุ่มก็ยังคงออกมาโยนปลาดาวลงน้ำเหมือนเดิม แต่นอกจากทั้งหมดที่กล่าวมา...มันกลับค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไป ความเปลี่ยนแปลงมันเริ่มขึ้นเมื่อมีนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งผ่านทางมายังชายหาดแห่งนี้ พวกเขาประทับใจความงามของหาด และเริ่มเอาความงามที่เขาได้เห็นไปบอกต่อกับเพื่อนนักท่องเที่ยว หลังจากนั้นก็เริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ มากจนชาวบ้านแถบนั้นที่เดิมทำอาชีพประมง ต้องเปลี่ยนมาเปิดบังกะโลให้นักท่องเที่ยวได้พักค้างคืน ร้านอาหารทะเล คาราโอเกะ และเสียงจ๊อกแจ๊กจอแจผุดขึ้นที่ริมหาดหยั่งกะดอกเห็ด อยู่มาวันหนึ่ง มีนักธุรกิจมากว้านซื้อที่แถบนั้น แล้วก็นำมาสร้างโรงแรมขนาดใหญ่เอาไว้รองรับนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนัก โดยโรงแรมปล่อยน้ำเสียจากการให้บริการลงที่ทะเลแห่งนั้นแหละ บังกะโลและร้านอาหารเล็กๆ ที่เหลืออยู่ก็ร่วมปล่อยน้ำเสียผสมโรงไปด้วยอีก จนเมื่อผ่านไปกว่า ๓๐ ปี น้ำที่เคยใส ก็กลายเป็นน้ำขุ่นคลั่กไปด้วยกากของเสีย แต่ชายหนุ่ม (ที่ตอนนี้กลายเป็นชายชราไปแล้ว) ก็ยังคงโยนปลาดาวเกยตื้นลงน้ำเช่นเดิม จนมาถึงเช้าวันหนึ่ง ในขณะที่ชายชรายังคงทำสิ่งเดิมๆ ที่เคยทำอยู่ตลอดชีวิตของเขา ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาถามว่า “ลุงๆๆ ลุงกำลังทำอะไรอยู่ครับ” ชายชราตอบว่า “ฉันกำลังช่วยชีวิตเจ้าปลาดาวเหล่านี้อยู่ เพราะถ้าขืนปล่อยไว้ เมื่อเวลาสายมันจะถูกแดดเผาจนตาย” “แล้วมันจะไม่ตายเพราะน้ำเน่าเหรอครับลุง เพราะตอนนี้น้ำมันแย่เสียจนไม่มีใครกล้าลงไปเล่น ลุงโยนลงไปปลาดาวมันก็ต้องตายอยู่ดี” เด็กหนุ่มถาม ชายชราเริ่มละจากมือจากปลาดาว แล้วก็มองลงไปในน้ำทะเลสีขุ่น ชายชราไม่ว่ากระไรนอกจากทรุดตัวลงไปกับผืนทรายพร้อมกับน้ำตาที่นองหน้าเขาอยู่ ชายหนุ่มเดินเข้าไปตบไหล่ชายชราเบาๆ พร้อมทั้งบอกว่า “ไม่เป็นไรน่าลุง เอางี้...พรุ่งนี้ลุงมาโยนปลาดาวลงน้ำเหมือนเดิม ส่วนผมก็จะนั่งเรือตระเวนเก็บขยะบนทะเลรอบๆ นี้ เดี๋ยวไม่นานทะเลก็สะอาดเองแหละ แล้วปลาดาวก็จะไม่ตายด้วยนะลุง” ชายชราไม่ว่ากระไร ได้แต่ยิ้มทั้งน้ำตา หลังจากวันนั้นไป ถ้าใครได้เดินผ่านชายหาดแห่งนั้น ก็จะได้เห็นภาพของชายชราคนหนึ่งกำลังโยนปลาดาวเกยตื้นลงน้ำ ในขณะที่บนทะเลก็มีชายหนุ่มกำลังเก็บขยะที่ลอยในน้ำอยู่ด้วยสายตายิ้มแย้ม.. : อ้างอิงจาก http://www.noknoi.com/magazine/article.php?t=370

สนุกมากเลยคับ^ ^ได้แง่คิดด้วย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท