2007.03.03 ถ้ำเสาหิน, ลำคลองงู


ไม่เอาอะไรออกมานอกจากภาพถ่าย ไม่ทิ้งอะไรไว้นอกจากรอยเท้า ไม่ฆ่าสิ่งใดนอกจากเวลา

Adventure Trip  (ไม่ลองไม่รู้)

Lam Klong Ngu, Thong Pha Poom, Kanchanaburi

อุทยานแห่งชาติลำคลองงู  อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

     เป็นอุทยานที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก เพราะที่ตั้งอยู่ในบริเวณเทือกเขาตะนาวศรี จึงมีความหลากหลายทางด้านพรรณพืชและสัตว์ป่า นอกจากนี้ยังมีภูเขาหินปูนที่สูงที่สุดของประเทศไทย ซึ่งเป็นต้นน้ำของเขื่อนศรีนครินทร์ มีเนื้อที่ประมาณ 600 ตารางกิโลเมตร หรือ 375,000 ไร่

     ในพื้นที่ที่ทำการสำรวจ ส่วนใหญ่จะเป็นถ้ำ และน้ำตก พบมากบริเวณลำห้วยคลองงูและพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งมีสภาพเป็นหุบเขาลึกและเป็นเขาหินปูน

ถ้ำเสาหิน เป็นจุดเริ่มต้นในการผจญภัยของเรา

     ถ้ำเสาหิน  อยู่บริเวณตอนปลายของลำห้วยคลองงู ซึ่งภายในถ้ำเป็น ธารน้ำไหลตลอดปี จุดเด่นที่น่าสนใจคือ เสาหินขนาดใหญ่ เกิดจากหินปูนก่อตัวกันมาเป็นเวลานานนับล้านปี ตั้งตระหง่านอยู่ภายในตรงกลางถ้ำมี ความสูงจากพื้นถึงเพดานถ้ำ วัดได้ประมาณ 62.5 เมตร จัดว่าเป็นเสาหินปูนที่สูงเท่าที่เคยพบมาในและภายในถ้ำยังมี หินงอกหินย้อย รูปทรงต่างๆ เป็นจำนวนมาก จัดว่าเป็นปฏิมากรรมทางธรรมชาติที่งดงามอย่างยิ่ง

 

 เริ่มต้นแบบสบายๆ ด้วยการนั่ง 4WD ตัดแนวเขาไป

 

   
 

 การไปเที่ยวต้องเตรียมตัวพอสมควร

เพราะต้องเดินป่า

สลับกับการปีนป่ายตลอดเวลา

เดินขึ้นลงเนินเขาใหญ่ๆ

ที่สำคัญต้องพกชูชีพไปด้วย

เพราะเดี๋ยวเราจะไปลุยถ้ำกัน

 ชื่นชมบรรยากาศน้ำตกหน้าถ้ำ

หลังจากเดินกันมาจนเหนื่อย

ก็ต้องกำจัดสัมภาระที่พกมา

ด้วยการกินซะให้หมดก่อนผจญภัยในถ้ำต่อไป

 

ปากทางเข้าถ้ำ

ที่ต้องปีนขึ้นไปด้วยความยากลำบากพอควร

 

 ตลอดทางเข้าถ้ำมืดสนิท ต้องใช้ไปฉายคาดหัวและไฟฉายกันน้ำที่แสงแรงพอสมควร เพื่อป้องกันอันตรายระหว่างการเดินทาง

นอกจากต้องลุยน้ำแล้ว เรายังต้องปีนป่ายหินที่ลื่นด้วยมูลค้างคาว และกระแสน้ำอันเชี่ยวกราก บางช่วงต้องไต่เชือกที่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เสี่ยงชีวิตไปโยงข้ามฝั่งให้เรา

 
 

 ในที่สุดก็มาถึง Highlight ของถ้ำ

เสาหินขนาดมหึมาสูง 62.5 เมตร

แต่หากไม่มีสปอร์ตไลท์ กล้อง และถุงกันน้ำ

ก็ไม่สามารถเก็บภาพความประทับใจนี้ไว้ได้

 เมื่อเข้าไปชื่นชมเสาหินจนหายอยากแล้ว ก็ต้องตะลุยออกมาทางเดิมที่เข้าไป และในช่วงสุดท้ายนี้ จะต้องกระโดดน้ำตกเพื่อวัดใจ ก่อนเดินทางเท้ากลับไปยังจุดเริ่มต้นอีกครั้ง

เมื่อผ่านน้ำตกด่านแรกนี้ไปได้ ก็ไปลองวัดใจกับน้ำตกอีกชั้นหนึ่ง...เสียวกว่าตรงนี้นิดหน่อยค่ะ เพราะต้องลงให้ตรงจุดที่ลึกทีสุด

(ต้องกระโดดลงไปตรงที่มีฟองเยอะที่สุด)

 
 

 บรรยากาศสวยๆ ระหว่างการเดินทางกลับ

ผจญภัยวันแรกด้วยความยากลำบากตั้งแต่ตะวันขึ้นจนตะวันตกดิน...

 กลัยมานอนที่พักอย่างสลบไสลด้วยความเมื่อยล้า

และเก็บพลังที่เหลืออันน้อยนิดไว้ลุยวันต่อไป

 

      หลังจากรอดตายมาได้ เราก็ไปเวียนเทียนที่สำนักป่าสุญญตาธรรมสนอง ที่มีเพียงพระธุดงค์จากต่างแดนมาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาให้ เรามักทำบุญกันแต่ในเมือง ในวัดที่มีทุกอย่างพร้อมสรรพ แต่วัดที่อยู่ห่างไกลกลับไม่ได้รับการเหลียวแล พระที่ไม่รับปัจจัยที่พวกเราพร้อมใจกันถวาย ขอแต่เพียงชากาแฟซึ่งขาดมาเนิ่นนาน และความมุ่งมั่นในการทำดี เพื่อธำรงค์ไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา...สาธุ

     หลายคนสงสัย ว่าทำไมถึงต้องเอาชีวิตไปเสี่ยง ไปหาความยากลำบากให้ตัวเอง ด้วยการผจญภัยต่างๆ นานา เป็นคำถามที่ไม่สามารถหาคำตอบที่ชัดเจนได้

     แต่สิ่งที่ได้รับนอกจากการวัดใจตัวเองแล้ว ยังมีมิตรภาพจากเพื่อนใหม่ทั้งสิบสี่ ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เราเสี่ยงชีวิตไปด้วยกัน ช่วยเหลือกัน เห็นใจกัน และรักกันในที่สุด

     ขอขอบคุณพี่สุทัศน์และพี่เอก เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ที่ช่วยชีวิต จากการหลุดไหลไปกับกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากในถ้ำอันมืดมิด 

     สิ่งสำคัญที่สุด คือการมีสติอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการก้าวเดินบนทางยากลำบากอย่างมั่นคง การคิดหาทางเอาตัวรอดในวินาทีคับขันที่อยู่ระหว่างความเป็นและความตาย...นี่แหละคือชีวิต... 

อุทยานแห่งชาติ

ถ้ำนกนางแอ่น

น้ำตกนางครวญ

คำสำคัญ (Tags): #diary
หมายเลขบันทึก: 82285เขียนเมื่อ 6 มีนาคม 2007 20:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 เมษายน 2012 10:53 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท