เรียนรู้กับการรับฟังความคิดเห็น ร่างรัฐธรรมนูญ


สนทนาอย่างใคร่ครวญ ครุนคิด.. เพื่อการเมืองภาคพลเมือง

         วันนี้ได้เรียนรู้กับการประชุมทำความเข้าใจ  ทีมรับฟังความคิดเห็นของทีมคณะกรรมมาธิการรับฟังความคิดเห็น การร่างรัฐธรรมนูญ ฯ จังหวัดชุมพร  ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลนาโพธิ์  อำเภอสวี  จังหวัดชุมพร

   การประชุมวันนี้  มีการประชุมสองคณะ   ช่วงเช้าประชุมทีมอนุกรรมการ.. ฯ ระดับอำเภอสวี และ ทุ่งตะโก           ภาคบ่ายประชุมทีมอนุกรรมการวิชาการและวิทยากรกระบวนการ...... ทราบว่าทางทีม สสร. ชุมพรได้กำหนดการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นไว้  เบื้องต้น  10  เวที ( อาจดูข้อมูลจาก เวบไซด์ชุมพรเวที) โดยมีการกำหนดกระบวนการไว้สามขั้นตอนดังนี้  1. ทำความเข้าใจกับการร่างรัฐธรรมนูญ  2.สานเสวนา (การสนทนาอย่างมีสติ  ไคร่ครวญ  ครุ่นคิด พูดสั้นและกระชับได้ใจความ  .... มิใช่การโต้แย้งหรือเอาชนะกัน ..... โดยมีกติกาข้อตกลงในการพูดคุยสื่อสาร  ภายใต้  4  ประเด็น  หนึ่งสิทธิเสรีภาพ การมีส่วนร่วมของประชาชน และการกระจายอำนาจ  สองสถานบันการเมือง  สามองค์กรตรวจสอบอิสระและศาล  สี่เรื่องอื่น ๆ ที่ผู้เข้าร่วมอยากเสนอ )  3 การทำแบบสอบถาม ใน 3  กรอบสาระร่างรัฐธรรมนูญ

       ได้เรียนรู้กระบวนการทำงานในการร่างรัฐธรรมนูญ  และ เห็นบุคลากรสำคัญที่ทำงานเพื่อชาติ ...... พร้อมด้วยเพื่อนพ้องน้องพี่ทีมประชาสังคมชุมพร  ที่เข้าไปร่วมเป็นคณะอนุกรรมการ ฯ วิชาการและวิทยากร  และได้สร้างความเป็นกัลยาณมิตร.... เป็นการเสริมพลังการทำงานขับเคลื่อนการเมืองภาคพลเมืองในอนาคตอันไกล้

      หากได้สร้างการเรียนรู้ให้พี่น้องในชุมชนท้องถิ่น  เกิดสำนึกความเป็นพลเมือง  ( รู้ทั้งเรื่องสิทธิและหน้าที่ของตนในการจัดการชุมชนท้องถิ่น  และ  สังคมนี้ )   ปลดแอกความเป็นสำนึกไพร่ฟ้าให้น้อยลง ( การปล่อยปละละเลยต่อสังคมบ้านเมือง  ให้เป็นเรื่องของนักการเมือง  เรื่องของข้าราชการ  เรื่องของผู้นำ .... หากเป็นเช่นนี้แล้วไฉนเลยบ้านเมืองนี้จะอยู่รอดได้ท่ามกลางวิกฤตที่ถาโถม.. อยู่ขณะนี้  )          ฉะนั้นประชาธิปไตยมิไช่การเลือกตั้ง  แต่ประชาธิปไตยคือเรื่องของวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคน .......  การสร้างรัฐธรรมนูญที่กินได้   คือ รัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชน  ของประชาชน  เพื่อประชาชน ....... การสร้างการเมืองภาคพลเมือง  ก็เป็นเช่นนี้เอง

คำสำคัญ (Tags): #social chumphon
หมายเลขบันทึก: 82282เขียนเมื่อ 6 มีนาคม 2007 19:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:40 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
  • วันนี้ที่จ.พิษณุโลกเริ่มจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเป็นเวทีที่ 2 แล้วค่ะ   ที่อำเภอวังทอง   โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ
  • ดิฉันเองเป็นหนึ่งในทีม  รู้สึกภูมิใจค่ะที่ได้เห็นประชาชนมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น
  • แม้จะมีความคิดเห็นที่ขัดแยังกันบ้าง  แต่ต่างฝ่ายต่างก็โต้เถียงกันด้วยเหตุผลค่ะ
  • ชื่นชมในการมีส่วนร่วมและทำงานเพื่อประโยชน์ต่อสังคมค่ะ

ขอแสดงความคิดเห็นหากกำหนดในรัฐธรรมนูญได้น่าจะดี

1.ห้ามดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอร์และสูบบุหรี่ในวัดและที่เปิดเผย

2.ผู้หญิงที่แต่งตัวโป้ให้มีความผิดถือว่าทำอนาจาร หากถูกลวนลาม ข่มขืน จะเอาผิดเขาไม่ได้เพราะตัวเองเต็มใจยั่วอารมณ์ทางเพศเขา

3.สถาบันการศึกษาใดที่มีและให้นักศึกษาแต่งตัวกระโปรงสั้น  เสื้อฟิตๆ  ให้ติดป้ายประณามว่าเป็นแหล่งผู้หญิงขายบริการทางเพศ  เช่นเดียวกับพวกดาราโป้ส่วนมากขายตัว

พูดมานานแต่ไม่มีมาตรการ ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น

 

ผมคิดว่าคนไทยเรากำลังเพ้อฝันเรื่องประชาธิปไตยเกินไปหรือเปล่า เพราะการปกครองที่เหมาะกับคนไทยคงไม่ใช่ประชาธิปไตยของต่างประเทศ เพราะการปกครองระบบประชาธิปไตยนั้นถ้าจะทำได้องค์ประกอบของระบอบการปกครองระบอบประชาธิไตยต้องมีความรู้ความเข้าใจในสิทธิ บทบาท และหน้าที่ของตนเองในรัฐธรรมนูญ กล่าวคือนักการเมือง ข้าราชการ และประชาชนต้องมีความรู้ความเข้าใจในบทบาท หน้าที่ และสิทธิของตนเองในรัฐธรรมนูญกันทุกฝ่าย ตราบใดที่ประชาชนส่วนใหญ่ยังไมมีความรู้ความเข้าใจในบทบาท หน้าที่ และสิทธิของตนเองแล้วประเทศไทยก็จะเจอภาวะวิกฤติทางการเมืองแบบนี้ตลอดไป เพราะคนที่เป็นนักการเมืองที่ผ่านการเลือกตั้ง(แบบซื้อเสียง)มาครองเมืองก็มาใช้อำนาจบาทใหญ่รังแกข้าราชการและประชาชนที่ไม่ใช่พวกพ้องตัวเอง แล้วบ้านเมืองจะสงบ และพัฒนาไปได้อย่างไร ผมคิดว่าระบอบการปกครองที่เหมาะกับประเทศไทยขณะนี้ไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตยที่คนบางกลุ่มเรียกร้องกันปาวๆอยู่ขณะนี้อย่างแน่นอน ตัวอย่างมีให้เห็นอย่างชัดเจนอยู่แล้วจากรัฐบาลที่ผ่านมา ถ้าไม่เกิดการปฏิวัติก่อนผมว่าพรรคไทยรักไทยยึดประเทศไทยได้อย่างแน่นอนเพราะการสร้างระบอบเงินคือพระเจ้า ใช้เศษเงินซื้อใจประชาชนส่วนใหญ่ที่ยังไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาท สิทธิ และหน้าที่ของตนเองเป็นเรื่องที่ง่ายมาก ถ้าเป็นผมมีอำนาจผมยึดประเทศไทยได้แล้วจะบอกให้ อย่างเรื่องของการปกครองส่วนท้องถิ่นที่ให้อำนาจ นายก อบต. และ อบต. ที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่นบริหารจัดการและมีอำนาจเหนือข้าราชการประจำ สามารถชี้เป็นชี้ตายข้าชการประจำได้อย่างเบ็ดเสร็จแบบนี้ นายก อบต. และสมาชกอบต.รำรวยและมีความสุขสนุกสนานกับการโกงกินเงินภาษีของราษฎรอย่างเมามัน ไม่เชื่อลองสำรวจข้อมูลดูสิไม่เชื่อรับรองได้ว่า 99.99% เป็นอย่างผมว่าอย่างแน่นอน
        เรื่อง สว. ที่ต้องการให้เลือกตั้งกันนักกันหนานั้นผมว่าบ้านเรายังทำไม่ได้ถ้าพิจารณาดูวัตถุประสงค์ของการมีวุฒิสมาชิก ผมว่าต้องมาจากการสรรหา หรือแต่งตั้งจะเหมาะสมมากกว่า
        ประชาชนจะมีอำนาจได้ประชาชนต้องมีความรู้ความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ และสิทธิตามรัฐธรรมนูญก่อนจึงจะมีความเป็นไปได้ที่ระบอบการปกครองของไทยจึงจะเป็นระบอบการปกครองตามระบอบประชาธิไตยได้
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท