เบาหวาน 20 ปีของพ่อหมดไปได้อย่างไร


ในบล็อกที่ดิฉันเขียนไว้เกี่ยวกับเรื่องพ่อกับการรักษาเบาหวานและหลอดเลือด (http://dad.gotoknow.org) ดิฉันได้รับคำถาม และข้อคิดเห็นมากๆ จากผู้อ่านที่มาจากที่อื่นที่ไม่เป็นสมาชิก GotoKnow ค่ะ

แต่ดิฉันไม่ได้ตอบเป็นกิจลักษณะ ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง เพราะเขียนอยู่หลายบล็อก

ดิฉันเห็นประโยชน์มากขึ้นเรื่อยๆ จากการเขียนบล็อกเพื่อการให้ โดยที่เราไม่ได้ตั้งธงเอาจำนวน comments หรือจำนวนผู้อ่าน เป็นหลัก แต่เน้นหัวใจของเราที่ต้องการจะให้ความรู้ประสบการณ์ในสิ่งที่เรามีแก่ผู้อื่น

..............................

บันทึกนี้ถือเป็นการให้อีกครั้ง เป็นบันทึกสรุปในการรักษาตัวของคุณพ่อของดิฉัน ซึ่งปัจจุบันนี้เบาหวานของพ่อเกือบหมดแล้วค่ะ ระดับน้ำตาลตอนนี้อยู่ที่ 130 ลดจากที่เคยเป็นๆ มาคือ 200 กว่า ตลอด 20 ปีค่ะ

ส่วนอาการอัมพฤกษ์ด้านซ้ายที่เกิดจากโรคหลอดเลือดตีบก็สามารถหายจนเกือบเป็นปกติ เรียกว่า ได้กลับมา 90% แล้วกันค่ะ แต่สุขภาพโดยรวม แข็งแรงขึ้นมาก หนุ่มขึ้น หล่อขึ้น (ฮาฮา) จิตใจสบายขึ้น อย่างเห็นได้ชัดค่ะ

ก่อนจะมาดูว่า พ่อปฏิบัติตนโดยรวมอย่างไรนั้น  ต้องบอกว่าสิ่งสำคัญที่ดิฉันได้เรียนรู้จากการดูแลพ่อคือ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ค่ะ ใจที่ไม่ท้อแท้และตั้งมั่นในการหายจากโรคเหล่านี้ให้ได้ เป็นปัจจัยแห่งความสำเร็จของพ่อค่ะ

วิธีการปฏิบัติดูแลตนเองของพ่อเพื่อรักษาโรคเบาหวานและโรคหลอดเลือด

- ออกกำลังกายตอนเช้าวันละ 2-3 ชม. ด้วยการเดิน ออกกำลังกายตามข้อต่อต่างๆ ให้ครบ 360 องศา ด้วยไม้พลอง และ การแกว่งแขนแกว่งขาด้วยอุปกรณ์ที่ประดิษฐ์ขึ้น (หาอ่านที่ http://gotoknow.org/blog/dad/toc )

- ฟังเพลงสบายๆ ตอนออกกำลังกายเพื่อสร้างสมาธิและลดความเครียด ควบคุมระดับความดัน

- ทำจิตใจให้สบายตลอดทั้งวัน

- ทานยาตามที่หมอสั่งอย่างเคร่งครัดทั้งหมออายุรกรรมและหมอศัลยกรรมหลอดเลือด

- เลิกบุหรี่ และ เหล้าอัลกอฮอล์ต่างๆ

- ควบคุมอาหารอย่างเคร่งครัด คือ อาหารที่ขายทั่วไปนี่แหละค่ะ แต่เน้นไม่หวาน ไม่มัน ไม่เค็ม

- ดื่มน้ำต้มก้านพริก 1 กำมือ วันละ 3 มื้อในหนึ่งอาทิตย์ทุกครึ่งปี เพื่อเป็นการฟอกไต (พ่อทานมาเป็นเวลาเกือบ 15 ปีแล้วค่ะ) ไตทำงานได้ดีเป็นปกติค่ะ (http://gotoknow.org/blog/dad/112414)

- ตอนเช้าดื่มน้ำมะนาวคั้นสดหนึ่งผลไม่ต้องผสมอะไร เพื่อลดเบาหวาน

- แต่ละวันกินสมุนไพรบรเพ็ด (http://gotoknow.org/blog/dad/113246)

- และดื่มนำต้มใบแป๊ะตำปึง

พ่อทำเพียงเท่านี้ค่ะ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน จริงๆ ค่ะ พ่อรักษาตนเองเป็นระยะเวลา 2 ปีครึ่งเท่านั้นค่ะและสามารถกลับมาเป็นคนแข็งแรงปลอดเบาหวานที่เป็นมาตลอด 20 ปี

หมายเลขบันทึก: 111630เขียนเมื่อ 15 กรกฎาคม 2007 10:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 15:47 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (24)

โรคประเภทที่เกิดขึ้นอันเนื่องจากพฤติกรรมบวกกับพันธุกรรมนี้  วิธีการแก้ไขและรักษาที่ดีที่สุด คือ ตัวเราเองที่จะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยมีคนในครอบครัวเป็นกำลังใจ

สิ่งที่บ้านผมร่วมกันเพื่อช่วยพ่อผ่านวิกฤตคือ เราไม่ทำอาหารที่อาจส่งผลต่อพ่อที่บ้าน นั่นคือ เรา(ลูกๆ และคุณแม่) ก็เลิกกินอาหารที่พ่อไม่ควรกิน เพื่อให้พ่อสามารถระงับอารมณ์ในการกินได้

ส่วนพ่อจะแอบไปทานที่ไหน อันนี้ผมก็แกล้งทำเป็นไม่รู้บ้างครับ ฮิฮิฮิ 

ขอบคุณค่ะอ.จารุวัจน์ เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ กำลังใจจากคนในครอบครัวเป็นเรื่องสำคัญมากค่ะ

แต่พอดีว่า พ่อดิฉันต้องใช้วิทยายุทธกำลังภายในเยอะกว่าคนอื่นค่ะ เพราะพ่ออยู่กับครอบครัวของพี่สาวซึ่งเขาไม่ควบคุมเรื่องอาหารกันเลยค่ะ

ขอขอบพระคุณอาจารย์จันทวรรณ...

  • โลกยุคใหม่ที่คนเรามีอายุขัยมากขึ้น โรคเรื้อรังเพิ่มขึ้นนี้... คนไข้ที่ active หรือกระตือรือร้น ขวนขวายมีแนวโน้มจะมีพยากรณ์โรคดีกว่าคนไข้ที่ passive หรือไม่ยอมปรับเปลี่ยนอะไรเลย วันๆ รอแต่ยา
  • ตัวอย่างคุณพ่ออาจารย์นี่ชัดเจนมากครับ คือ คนไข้ดีๆ + ญาติดีๆ มีส่วนทำให้โรคที่เป็นอยู่ดีขึ้นอย่างมากมาย... สาธุ สาธุ สาธุ

ขอบคุณ อ.หมอวัลลภ ที่เข้ามาร่วม cheers คุณพ่อค่ะ

ถูกต้องที่สุดเลยค่ะ ที่อ.บอกว่า คนไข้ต้องไม่คอยรอเอาแต่ยาอย่างเดียว ไม่หายหรอกค่ะโรคเรื้อรังอย่างนี้ คนไข้ต้องดูแลตนเองเยอะๆ ค่ะ

เวลาไปรพ.หลายต่อหลายครั้งก็จะสงสารบุคคลากรทางการแพทย์ค่ะที่แต่ละวันงานล้นมือเหลือเกิน อยากให้คนไข้ช่วยกันคนละไม้ละมือนะค่ะ

ปล. อยากตามไป comment ในบล็อกของอาจารย์อยู่หลายบันทึกค่ะ ไว้อ.จัดการเรื่องคำหลักเสร็จเมือไร จะตามเข้าไป comment ทันทีค่ะ :)

 

พ่อคงดีใจที่ทราบว่า อ.หมอวัลลภ ได้พูดถึงบันทึกนี้ไว้ในบล็อกของ อ. ด้วยค่ะ http://gotoknow.org/blog/health2you/112207

เป็นความรู้มากเลยครับ สำหรับคนเป็นเบาหวานแต่ไม่เข้าใจอยู่ แค่ว่า น้ำต้มก้านพริกนะครับคืออะไร แล้วมีวิธีการทำอย่าไรครับ ช่วยบอกด้วยนะครับ

 ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ ผมชื่อ ชูชาติ อายุ 45 เป็นเบาหวานมาประมาณ 2 ปี กินยาตรงตามหมอสั่ง และกินใบและต้นแปะตำตึงวันละ 5 ต้น(ยาวประมาณ 30 ซม.) นำมาปั่นให้ละเอียดผสมน้ำครึ่งลิตร กินเช้า-เย็น น้ำตาลลดลงเหลือประมาณ 130 จาก 260 ผมขอถามท่าน ดร.จันทวรรณ ว่า การกินแปะตำตึงของผมจะผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง ช่วยกรุณาชี้แนะด้วยครับ ขอให้บุญกุศลครั้งนี้จงดลบันดานให้ ดร. จันทวรรณ จงมีความสุขความเจริญตลอดไป 

เมื่อวานนี้หลังจากผมอ่านบทความที่ใช้ก้านพริกนำมาต้มดื่ม หลังจากนั้นผมก็เด็ดใบพริกมาปั่นผสมรวมกับต้นแปะตำตึงและผงชา (ชาลิปตั้นฉีกซองและเทผงชาผสมลไป เพื่อให้ได้กลิ่นชา ไม่เหม็นเขียว) แล้วผมนำไปแช่ในตู้เย็นประมาณ 2 ชม. แล้วนำมากิน (กินทั้งกากไม่ใช่นำมาคั้น) เมื่อดื่มเข้าไปจะรู้สึกเผ็ดร้อนเล็กน้อย ไม่ทราบจะมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง ขอบคุณครับ

คุณชูชาติค่ะ

ดิฉันไม่ทราบเรื่องผลข้างเคียงของแป๊ะตำปึงค่ะ

คุณพ่อบอกว่าเรื่องน้ำต้มก้านพริกนั้นมีเผ็ดบ้างไม่เป็นไรค่ะ แต่สูตรการต้มกินนั้นสูตรอื่นไม่ทราบนะค่ะ พ่อใช้แต่สูตรทีเขียนไว้ค่ะ ล้างไตด้วยน้ำต้มก้านพริกแห้ง

ขอบคุณครับ..พอดีผมสนใจและหาข้มูลของต้น แปะตำปึง แล้วมาเจอกับที่นี่ ได้ความรู้มากๆเลยครับ เพราะผมต้องการลดยาแล้วหันมาพึ่งสมุนไพรแทน เพราะผมทานยาทุกวัน ค่ายาก็แพงมาก  และระดับน้ำตาลผมอยู่ที่ 120-160 ขึ้นๆลงๆ  ยังไงผมขออาศัย Blog นี้เป็นแหล่งหาความรู้ด้วยคนนะครับ ...

คุณแม่สามีเป็นเบาหวานต้องฉีดทุกวัน เบาหวานตอนนี้ขึ้นเร็วและลงเร็วมาก ทำให้สุขภาพจิตแย่ด้วย เช่น ต่ำสุด 50-85 สูง ประมาณ 300-500 ไปหาหมอประจำ คุณแม่มีโรคประจำตัวคือเก๊าท์ ไทรรอยด์ กินยาหลายอย่างรวมกัน ไตก็เลยบทำงานหนักด้วย สงสารคุณแม่ อยากให้บรรเทาสักอาการใด อาหารหนึ่ง ตอนนี้อย่างได้เรื่องลดเบาหวาน รบกวน ดร.แนะนำด้วยคะ คุณแม่อายุ 71 ปี ขอบคุณมากคะ

อยากให้เบาหวานหายได้ สำคัญที่สุด คือ การเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิตค่ะ ออกกำลังกาย และ กินอาหารเพื่อสุขภาพไม่เน้นหวานมันเค็มค่ะ

มาเรียนรฦค่ะ ขอบคุณค่ะ

มารายงานยืนยันซ้ำอีกทีว่า ผลตรวจล่าสุดของคุณพ่อน้ำตาลในเลือดอยู่ในระดับปกติ รวมทั้งระดับ HbA1C (ซึ่งเป็นตัวชี้บ่งว่าระดับน้ำตาลในเลือดในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาอยู่ในระดับปกติหรือไม่) ก็อยู่ในเกณฑ์ของคนปกติค่ะ ยอดเยี่ยมจริงๆ

วันนี้อ่านรายงานเรื่องเบาหวานหายได้ด้วย และการควบคุมอาหารพวกแป้งจะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลได้ดีกว่าการคุมอาหารที่มีน้ำตาลสูงอย่างเดียว ก็เลยได้นึกถึงคุณพ่อขึ้นมา ชื่นชมท่านในหลายๆเรื่องเลยค่ะ ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมลูกสาวท่านจึงได้เก่งกาจอย่างนี้

ธรรมสวัสดีโยมอ.จันทวรรณ

โยมพ่อของอาจารย์ท่าน

มีใจเข้มแข็งมาก ดูข้อวัตรปฏิบัติ

ในการดูแลตนเองเพื่อจะห่างไกล

จากโรคเบาหวาน ถือว่าน่าศรัทธา

และเป็นตัวอย่างที่ดีของผู้ป่วยเบาหวาน

หลายๆคนที่ปรารถนาอยากจะหายจากโรคเบา

หวาน..จิตใจเป็นใหญ่กว่าสิ่งทั้งปวงจริงๆเลย

อนุโมทนาสาธุด้วย..บุญรักษา

เยี่ยม คงเรืองราช

สวัสดีค่ะอาจารย์ ดิฉันเคยเป็นศิษย์เก่ามอ.เมื่อหลายปีมาแล้ว ตอนนี้กำลังเรียน ป.โท ที่มช.ค่ะ เรียนAdult ลง pop DM ค่ะ ถ้าจะรบกวนถามอาจารย์เกี่ยวกับเรื่อง arm swing exercise กับการลดระดับน้ำตาลในเลือด อาจารย์พอจะมีรายละเอียดไหมคะ

ดีใจจังที่ได้มีโอกาสเห็นการโพสข้อความของคนที่รักพ่อรักแม่เช่นนี้ ถ้าห่วงใยคนที่ท่านรัก เราอยากให้ท่านได้มีโอกาสรู้จักกับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมชนิดหนึ่ง ซึ่งสุดยอดมากขนาดคุณหมอพรทิพย์ ยังพอใจเพราะช่วยดูแลร่างกายของคุณหมอที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งได้อย่างยอดเยี่ยม คนที่ป่วยเป็นเบาหวาน โรคเบาหวานคืออะไร ? มีสาเหตุมาจากอะไร?อินซูลิน เป็นฮอร์โมนที่สร้างจากตับอ่อน มีหน้าที่ ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ปกติ โรคเบาหวาน เกิดจากร่างกายขาดอินซูลิน หรือบางที่ไม่ขาด แต่อินซูลินที่มีอยู่ ใช้ไม่ได้ผลเต็มที่ ทำให้ร่างกายใช้น้ำตาล ไม่ได้ตามปกติ ยังผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น นานๆ เข้าทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆซึ่งเป็นเหตุให้พิการหรือเสียชีวิต

โดยปกติ เมื่อเรากินอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล เข้าไป อาหารเหล่านี้ จะถูกย่อยกลายเป็น โมเลกุลของน้ำตาลเล็กๆ แล้วจึงถูกดูดซึมจากลำไส้ เข้าสู่กระแสเลือดนำส่งเซลล์ต่างๆ ทั่วร่างกายเพื่อใช้เป็นพลังงาน การใช้น้ำตาลให้เกิดพลังงานนี้ ต้องอาศัยอินซูลินเมื่อขาดอินซูลิน น้ำตาลในเลือดจึงสูงกว่าปกติ น้ำตาลในเลือดนั้นมีหลายชนิด สำหรับ น้ำตาลในโรคเบาหวานเราจะ หมายถึง น้ำตาลกลูโคสเท่านั้น

โรคเบาหวานที่พบบ่อยมี 2 ชนิด คือ

ชนิดที่ 1 ต้องพึ่งอินซูลิน มักพบในคนอายุน้อย เด็กและวัยรุ่น ในผู้ใหญ่พบได้บ้าง ต้องรักษาด้วยการฉีดอินซูลินทุกวัน ถ้าขาดยา

อาจเกิดโรคแทรกซ้อนรุนแรงถึงตายได้ เกิดจากเซลล์สร้างอินซูลินในตับอ่อนถูกทำลาย ด้วยสาเหตุที่ยังไม่ทราบแน่นอน ทำให้สร้าง

อินซูลินได้น้อย หรือไม่ได้เลย

ชนิดที่ 2 ไม่ต้องพึ่งอินซูลิน เพราะตับอ่อนยังผลิตอินซูลินได้ ในจำนวนที่อาจปกติ น้อยลง หรือมากขึ้น แต่อินซูลินที่มีอยู่นั้น ไมมีประสิทธิภาพดีเท่าที่ควร พบได้ในผู้ใหญ่ และคนอ้วน คนอายุ มากกว่า 40 ปีขึ้นไป มีโอกาสเป็นเบาหวานมากขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุ ผู้ป่วยเบาหวาน ส่วนใหญ่เป็นชนิดที่ 2สาเหตุของโรคเบาหวาน ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่พบว่า กรรมพันธุ์ ความอ้วน การตั้งครรภ์ ความเครียด เป็นผู้สูงอายุ รวมทั้งโรคของ ต่อมไร้ท่อ บางชนิด เช่น เนื้องอกในต่อมหมวกไต และต่อมใต้สมอง เป็นปัจจัยส่งเสริมที่สำคัญของการเกิดโรคนี้

จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นเบาหวาน?

อาการกระหายน้ำบ่อย ปัสสาวะมากและบ่อย อ่อนเพลีย น้ำหนักลด กินเก่งขึ้น ตาพร่ามัว เป็นอาการที่เกิดจากน้ำตาลในเลือดสูง ถ้าสูงมากๆ อาจถึงกับซึม หรือหมดสติได้ ผู้ป่วยเบาหวานที่น้ำตาลในเลือดไม่สูงมาก อาจไม่แสดงอาการเลยก็ได้ ฉะนั้นการตรวจสุขภาพจึงมีความสำคัญ โดยเฉพาะในผู้ที่มีความเสี่ยงสูงเช่น คนอ้วน หญิงมีครรภ์ ผู้หญิงที่คลอดบุตรมีน้ำหนักแรกคลอดเกิน 4 กิโลกรัม และผู้มีญาติพี่น้อง (โดยสายเลือด) เป็นเบาหวาน คนปกติจะมีน้ำตาลในเลือด อยู่ในช่วง 70 - 115 มิลลิกรัม ต่อ เดซิลิตร น้ำตาลในเลือดต้องสูงเกิน 180มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรจึงจะออกมา ในปัสสาวะให้ตรวจพบได้ ดังนั้นการตรวจปัสสาวะอย่างเดียวเพื่อหาเบาหวานจึงไม่เพียงพอต้องใช้การตรวจเลือดดูระดับน้ำตาล

จะควบคุมเบาหวานได้อย่างไร รักษาให้หายได้ไหม

เบาหวานเป็นโรคเรื้อรัง ที่รักษาไม่หายขาดแต่ควบคุมได้ โดยการดูแลรักษาอย่างจริงจัง และต่อเนื่องตลอดชีวิต จุดประสงค์ของการรักษาเพื่อ

1. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ใกล้เคียงปกติมากที่สุดเพื่อป้องกันหรือชะลอการเกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ

2. ให้ผู้ป่วยมีชีวิตอยู่อย่างปกติหรือใกล้เคียงปกติ สามารถประกอบภาระกิจต่างๆ ได้เหมือนคนทั่วไป

อาการ : ระยะแรกไม่มีอาการบ่งชัด เมื่อเป็นระยะหลัง จะมีอาการชัดเจนคือ

- ดื่มน้ำบ่อยและมาก - กินจุแต่ผอมลง - เป็นแผลหรือฝีง่าย แต่หายยาก - ตาพล่ามัว - บุตรคนแรกคลอดน้ำหนักเกิน 4 กิโลกรัม

-ปัสสาวะบ่อยและมาก -น้ำหนักลดและอ่อนเพลีย-คันตามผิวหนังและบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์-ชาปลายมือปลายเท้า ความรู้สึกทางเพศลดลง

การรักษา : ต้องควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย และควบคู่กับการรักษาทางยา

1. อาหาร : อาหารที่รับประทานแบ่งเป็น 3 กลุ่ม

กลุ่มที่ 1 ควรหลีกเลี่ยงไม่ควรรับประทานได้แก่

- อาหารที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบโดยตง รวมทั้งน้ำผึ้งด้วย

- ผลไม้ที่มีรสหวานจัด เช่น ทุเรียน มะม่วงสุก ฯลฯ

- เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และน้ำอัดลม ฯลฯ

กลุ่มที่ 2 ต้องจำกัดปริมาณ ได้แก่

- อาหารประเภทแป้ง เช่น ข้าว ก๋วยเตี๋ยว เผือก มัน ฯลฯ

- อาหารประเภทไขมัน เช่น มะพร้าว น้ำมันหมู อาหารที่ทอดด้วยน้ำมัน ฯลฯ

- ผลไม้ที่มีรสหวานอ่อนๆ เช่น ส้ม มะละกอสุก ฯลฯ

กลุ่มที่ 3 รับประทานได้ไม่จำกัด เช่น

- เนื้อสัตว์ที่ไม่มีมัน และปลา

- เครื่องดื่มที่ไม่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ

- ควรกินอาหารที่มีเส้นใยมากๆ เช่น ข้าวซ้อมมือ ผักทุกชนิด เม็ดแมงลัก

2. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ จะเกิดผลดี

- ทำให้ระดับน้ำตาล ควบคุมได้ดีขึ้นและทำให้การใช้ยากินหรือยาฉีดน้อยลงได้

- ทำให้ช่วยลดน้ำหนักตัว

- ช่วยลดภาวะความดันโลหิตสูง และอัตราเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ

3. ยาควบุคมระดับน้ำตาล

โรคแทรกซ้อน

1. พบภาวะความดันโลหิตสูงร่วมด้วย

2. โรคตาจากเบาหวาน เช่น ตามัว ต้อกระจก

3. โรคไตจากเบาหวาน เช่น เกิดไตเสื่อมสมรรถภาพในการขับถ่าย และเกิดไตวายในที่สุด

4. หลอดเลือดสมองตีบ-ตัน ทำให้เป็นอัมพาต กลืนลำบาก พูดไม่ชัด

5. หลอดเลือดหัวใจตีบ-ตัน เกิดกล้ามเนื้อหัวใจตาย

6. กลุ่มโรคเส้นเลือดแดงส่วนปลายเกิดแผลที่เท้าและเน่า มีแผลจะติด เชื้อง่ายรักษายาก

7. เกิดอักเสบจากปลายประสาท ทำให้มีอาการชาปลายมือ ปลายเท้า หมดความรู้สึกทางเพศ

เหล่านี้เกิดจากต้นเหตุที่ระบบเลือด แต่ผลิตภัณฑ์ที่เราพบช่วยทำให้หลอดเลือดสะอาด เพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด เพิ่มเป็นเลือดแดง ปรับสมดุลย์ระหว่างเม็ดเลือดขาวและเม็ดเลือดแดง เพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญไขมันได้ เมื่อเลือดดี ระบบต่างๆของร่างกายก็จะดีตามไม่เสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายใดๆเลย คนที่ป่วยเป็นก้อนซีสที่เต้านมถึง 18 ก้อน ยังสามารถเคลียร์ให้หายได้ใน 1 เดือน คนที่ป่วยด้วยโรคหัวใจถึงขนาดต้องทำบอลลูนแล้วยังไม่ต้องเสียเงินทำเป็นแสนๆบาท ด้วยการทานผลิตภัณฑ์ตัวนี้เพียง เดือนครึ่ง สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข คนเป็นเบาหวานยิ่งดีใหญ่ เพราะผลิตภัณฑ์นี้ช่วยควบคุมคอเลสเตอรอล และรักษาระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยให้ตับอ่อนมีประสิทธิภาพดีขึ้น สามารถผลิตอินซูลินได้ ไม่ต้องเสี่ยงกับการเป็นโรคแทรกซ้อนใดอีกเลย ข้อมูลดีมีอีกมาก รับประกันผล หากไม่เห็นผลใน 15 วันยินดีคืนเงิน 100 เปอร์เซ็นต์ หรือถ้ากลัวเราจะหลอกก็ลองเข้าไปตรวจหลอดเลือดและหัวใจได้เลย ฟรี ถ้าตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนค่าตรวจ 2500 บาทนะ แต่ถ้าไปตรวจกับเราเ เรายินดีให้คำแนะนำ รับรองไม่หลอกลวง แน่นอน ลองปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญของเราได้ ติดต่อ 0891036977 คุณมาร์ค

สวัสดีค่ะดิฉันได้อ่านบทความเกี่ยวกับการที่ใช้ก้านพริกนำมาต้มดื่มเพราะดิฉันกำลังหาสมุนไพรที่ช่วยในการรักษาโรคเบาหวานความดันและโรคไตมาหลายชนิดเลยค่ะแต่ไม่รู้ว่าตัวไหนจเห็นผลนะคะแต่จะลองนำพมุนไพรตัวนี้ไปให้เพื่อนใช้เพราะว่าเพื่อนดิฉันอายุแค่33ปีก็เป็นโรคเบาหวานความดันมา2ปีกว่าก็เป็นโรคไตเลยช่วงนี้ก็ควบคุมอาหารอยู่ค่ะ

นางจินดา ประเสริฐสังข์

สวัสดีค่ะดิฉันเป็นเบาหวานมานานแลัวร่วม20ปีเห็นจะได้ไม่รู้จะไปหายาที่ไหนมากินให้หายบรรเทาแต่พอได้ทราบข่าวว่ามีต้นสุมนไพรก็เลยมาลองกินดูก็ได้ผล นำ้ตาลลดลงอาการตา่งๆก็บรรเทาลงไปเยอะแต่ต้องควบคุมอาหารและออกกำลังกายไปด้วยจึงจะได้ผลค่ะ

ผมมีโรคประจำตัวมายตั้งแต่ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หัวใจโต ไขมันในเส้นเลือดสูง ริสดวงทวาร ที่พอมีชีวิตอยู่ได้ทุกวันนี้คือกินยาหลวงจากโรงพยาบาลนานประมาณ 25 ปีแล้ว เรื่องอาหารกินทุกอย่างที่ตัวเองอยากจะกิน ในใจคิดว่าเมื่อเราตายมันก็ตายแล้วเรื่องอะไรให้มันมาเป็นเจ้าชีวิตเรา ตราบใดที่เรายังไม่ตายให้ปฏิบัติง่ายๆ คือ อย่าทุกข์ใจ อย่าเสียใจที่เราเป็นโรคอย่าไปคิด ทำใจให้สบาย ห้ถือว่าเกิดแก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ กินยาตามที่หมอแนะนำอย่าให้ขาด ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ผมเองออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานวันละประมาณ 1 ชม. อ๋อลืมบอกไปว่าวันก่อนไปตรวจที่ ร.พ.หาดใหญ่หมอบอกว่าไตข้างขวามันฝ่อไปข้างหนึ่งยังใช้การได้อยู่ข้างเดียว ผมก็ไม่ทุกข์ใจ ทำตัวเป็นปกติ ที่เขียนมาเป็นเรื่องจริงทุกประการ ตอนนี้อายุ 60 ปี

เห็นด้วยค่ะตนเป็นที่พึ่งแห่งตน คุณคนมีโรคคุณพ่อก็รักษาตนเองคล้ายๆแบบนี้แหละค่ะไม่มีโรคสุขภาพแข็งแรงปัจจุบันอายุ 91 ปีสุขภาพแข็งแรงตลอดค่ะ 

โรคเบาหวานก็ต้องหาหมอแล้วก็รักษา

ชีวโมเลกุล

การรักษาแบบใหม่นี้สร้างความหวังให้แก่ผู้ป่วยทุกข์ทรมาน ที่หมดหวังกับยาสามัญทั่วไปเป็นเวลากว่าสี่สิบปีที่การรักษาด้วยชีวโมเลกุลได้แสดงให้เห็นว่ามันมีประสิทธิภาพอย่างมาก

แม้ในกรณีที่รุนแรง เช่น มองกะลิสซึม(ภาวะผิดปกติของโครโมโซม), สมองพิการ, ตาบอดแรกเริ่ม

ไอคิวของผู้ป่วยปัญญาอ่อน ได้รับการปรับปรุงให้ดีอย่างเห็นได้ชัดและหลายเรื่องที่เป็นเชิงลบด้วยเช่นกัน แม้กระทั่งในผู้ป่วยที่ได้รับความทุกข์ทรมานจากโรคที่ไม่เฉพาะเจาะจงก็ได้รับผลประโยชน์จากการฟื้นฟูโดยทั่วไปเช่นกันโดยมีพัฒนาการอย่างมากทางความยืดหยุ่น,กล้ามเนื้อ,ความสามารถทางร่างกายและจิตใจรวมถึงประสิทธิทางเพศเพิ่มขึ้นอีกด้วย

แนวคิดเดิมของการรักษาด้วยเซลล์ที่มีชีวิตเริ่มต้นที่ยุโรปโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวสวิสที่ยอดเยี่ยม ศาสตราจารย์พอล เนลฮานส์ ในปี 1931 และได้มีการพัฒนาต่อโดยนักเรียนคนแรกชาวเยอรมันของเขา ดร. ซิกฟรีด บล็อก อย่างไรก็ตามแม้ว่าการรักษาด้วยเซลล์ที่มีชีวิตจะประสบความสำเร็จอย่างมากมาย ก็มาพร้อมๆกับปัญหาและข้อเสียมากมาย และในปีที่ผ่านมาศาสตราจารย์คาร์ล เทอเร่อ (Karl Theurer) ชาวเยอรมัน ได้มีการปฏิวัติแนวคิดใหม่ทั้งหมด

วิธี เทอเร่อ(Theurer) นี้ ใช้เนื้อเยื่อสดจากสัตว์สุขภาพดีที่มีอยู่ในสต็อก ปลดปล่อยมันออกจากทุกเรื่องภายนอกแล้ว อัดมันที่อุณหภูมิลบ 195 องศา หลังจากได้รับการรักษาในสุญญากาศที่เป็นกรดโดยไม่ใช้ความร้อน ผลที่ได้คือผงแห้งที่ประกอบด้วย อวัยวะส่วนเล็ก ๆ ที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอยู่ สิ่งนั้นสามารถฉีดหรือนำไปทำเป็นรูปแบบยาเม็ดหรือแคปซูล โดยไม่มีแนวโน้มที่จะปฏิเสธหรือการแพ้ และ สามารถบรรเทาความรู้สึกไม่สบายให้ลดลงเมื่อฉีดเข้าไปในผู้ป่วย

รูปแบบของชีวโมเลกุลหรือการบำบัดด้วยไซโตพลาสมาติก(Cytoplasmatic)นี้ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาของประเทศเยอรมันมานานกว่าห้าสิบปีและได้รับการยอมรับในการรักษาทางการแพทย์ที่ถูกต้องตามกฎหมายในกว่า 60 ประเทศ ทุกวันนี้ในประเทศเยอรมันนำมาใช้เป็นวิธีการหลักของการรักษามากกว่า 5,000 สถาบันการแพทย์และในการรักษาของแพทย์โดยตรงกับผู้ป่วยของพวกเขา

ซึ่งแตกต่างจากการรักษาทางการแพทย์สมัยปัจจุบันเป็นอย่างมากการรักษาด้วยชีวโมเลกุลพยายามที่จะรักษาที่สาเหตุไม่ใช่ที่อาการ

ตัวอย่างเช่น โรคเบาหวาน เกิดจากความล้มเหลวของเซลล์บางตัวในตับอ่อนที่จะสร้างอินซูลินให้เพียงพอ ดังนั้นเมื่ออินซูลินเป็นสิ่งที่จำเป็นในการเผาผลาญน้ำตาล ผลที่ตามมาก็คือ จำนวนน้ำตาลที่มีมากเกินไปในระบบเลือด

การรักษาแผนปัจจุบันนั้นแนะนำให้ฉีดอินซูลินเข้าไปซึ่งต้องกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันที่น่าเบื่อ วิธี เทอเร่อ(Theurer)การบำบัดรักษาตับอ่อนโดยตรงด้วยการฉีดอย่างรอบคอบ เลือกเซลล์ตับอ่อนที่มีสุขภาพดีเข้าไปในร่างกาย จึงช่วยให้อวัยวะซ่อมแซมตัวเองตามธรรมชาติและเพิ่มผลผลิตอินซูลินของตัวเอง

ผู้ป่วยโรคเบาหวานพบว่า มันทำให้พวกเขาสามารถลดจำนวนของการฉีดอินซูลินทุกวัน นอกจากนี้จากการรายงาน ยังพบว่า มันช่วยให้สุขภาพโดยรวมของพวกเขานั้นดีขึ้น เพราะ วิธีการของ เทอเร่อ (Theurer) นั้นตระหนักดีว่า โรคเบาหวานมักจะมีผลกระทบต่อตับไต และอวัยวะอื่น ๆ พร้อมกับการแนะนำการรักษาที่จะช่วยให้อวัยวะนั้น ๆ ถูกสร้างขึ้นใหม่ด้วยตัวเอง


ขอบคุณสำหรับคำแนะนะ และกำลังใจที่ดี ตัวเองก็ต่อสู้กับเบาหวานมานาน ทั้งทานยาจากคุณหมอ และก็สมุนไพรรักษาเบาหวาน ใครบอก อ่านเจอที่ไหนลองใช้หมด ตอนนี้ก็ดีขึ้นมากค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท