ประโยคด้านบนนี้ พี่เม่ยตัดตอนมาจากส่วนหนึ่งของความเห็นที่พี่เม่ยไปทิ้งไว้ท้ายบันทึกชื่อ Pitty girl ของคุณรัตติยา ค่ะ....."......หนูได้เรียนรู้ว่า เมื่อหนูเติบโตเป็นผู้ใหญ่ สิ่งใดที่ควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ โดยการเรียนรู้จากผู้ใหญ่หลายๆคนที่ผ่านมาในชีวิตของหนู"
ทำให้นึกถึงเรื่องราวที่น้องจิ้นมาบ่นให้แม่ฟังเมื่อสองสามวันก่อนหน้านี้ เรื่องคุณครูท่านหนึ่งที่โรงเรียน ที่มีวิธีการสอนแบบ "แปลกๆ" จนเป็นที่กล่าวขวัญถึงกันในกลุ่มผู้ปกครอง ความจริงมีเรื่องราวที่สะสมมานานตลอดเทอมนี้แล้วค่ะ กำลังมีการร้องเรียนจากผู้ปกครองหลายท่านไปยังโรงเรียน แต่ด้วยเหตุผลใดไม่ทราบได้ คุณครูก็ยังคงสอนเด็กต่อไปเหมือนเช่นเดิม...
น้องจิ้นเล่าให้ฟังว่า.....
"ครูสั่งให้แปลบทกลอนรามเกียรติ์ ตั้ง 29 หน้า ให้ส่งภายในสองวัน...."
"ครูสั่งให้เด็กเตรียมรายงานหน้าชั้น โดยไม่แนะนำอะไรเลย พอเด็กเริ่มจะรายงานครูก็เริ่ม...ด่า..ว่าทำไมไม่เตรียมอย่างโน้น? ทำไมไม่เตรียมอย่างนี้?....(โห..มีการใช้คำที่ไม่สุภาพกับเด็กด้วย!).....จิ้นก็โดนด้วย..."
ครูฝากไปบอกคุณพ่อเพื่อนด้วยว่า "พ่อเธอ........"
ครูบอกเพื่อนอีกคนด้วยว่า "แม่เธอ....."
"............."
น้องจิ้นบ่นต่อไปว่า "นี่ถ้าโตขึ้นจิ้นเป็นคุณครูนะ จะไม่ทำแบบนี้เด็ดขาด...."
จริงสินะ! ลูกก็ควรจะได้มีประสบการณ์ที่ แย่ๆ บ้าง เพื่อที่จะได้เรียนรู้ว่า เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ มีเรื่องราวใดที่สมควรทำ และเรื่องราวใดไม่สมควรทำ โดยเรียนรู้จากการกระทำของผู้ใหญ่หลายๆคนที่ผ่านมาในชีวิตของลูกนี่แหล่ะ
"ครูทำแบบนี้ดูเหมือนจะไม่ถูกนะ แต่ลูกก็ต้องแก้ไขปัญหานี้ให้ดีที่สุดนั่นแหละ เช่นไปแบ่งงานกันทำกับเพื่อนก็ได้ หรือเวลาคุณครูดุว่า ก็ต้องชี้แจงเหตุผลไปนั่นแหละ...."
พี่เม่ยบอกลูกต่อว่า " ที่จริงลูกก็ได้ประโยชน์อยู่เหมือนกันนะ เพราะครูกำลังทำตัวอย่างให้ลูกเห็นว่า ทำแบบนี้ไม่ดี.....ใช่มั๊ย?"
เฮ้อ! คราวนี้ได้พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสค่ะ .....เรื่องการร้องเรียนพฤติกรรมคุณครูก็เป็นหน้าที่ของกลุ่มผู้ปกครองที่จะทำกันไปตามขั้นตอนที่สมควร
ในบันทึกนี้มีหลายมุมมองดีนะคะ
มีทั้งคุณแม่สอนคุณลูก คุณลูกสอน(เตือนสติ)คุณแม่ คุณครูสอน(ตัวอย่างที่ไม่ดี)คุณลูกและคุณแม่
เรียนรู้จากประสบการณ์จึงจะรู้ได้จริงค่ะ
ยิ้มๆ