จดหมายลูกโซ่สำหรับคนเขียนบล็อก : Blog-Tag – A Game for a Virtual Cocktail Party.


จดหมายลูกโซ่นั้น หลายคนคงคุ้นเคย เช่น เมล์ที่ forward มา แล้วให้คนอ่าน forward ต่อไป
แต่จดหมายลูกโซ่สำหรับคนเขียนบล็อกล่ะ

จดหมายลูกโซ่นี้ ถูกเรียกขานว่า Blog tag ซึ่งกำลังระบาดด้วยความสนุกในหลาย blog ของไทย

จุดเริ่มต้นการแพร่ระบาด เริ่มเมื่อ 10 ธันวาคม 2549 นี้เอง
จาก http://pulverblog.pulver.com/archives/006087.html

รูปแบบคือ เขียนเรื่องความลับที่คนอื่นยังไม่รู้เกี่ยวกับตัวเรา ประมาณ 5 เรื่อง หลังจากนั้น ต้อง tag ต่อไปอีก 5 คน เป็นการส่งต่อ.. อยากให้ใครเป็นคนเขียนต่อไป โดยระบุชื่อ

ตัวอย่างครับ

ความลับที่คนอื่นยังไม่รู้เกี่ยวกับนายบอน


1. ทำไมต้องระบุชื่อ นายบอน!

ตอนอยู่ที่ มข. มีรุ่นน้องผู้หญิงชื่อ บอล เป็นหลานรหัสที่สนิทกันมาก เวลาคนอื่นเรียกจะต้องระบุ พี่บอนผู้ชายหรือพี่บอลผู้หญิง เวลามาเขียนใน blog ก็เลยใส่นาย ระบุให้ชัดเจนไปเลย

ส่วนที่ใส่ ! หรือที่หลายคนเรียกว่า เครื่องหมาย ตกใจ  มาจาก
เวลาเรียกนายบอน ส่วนใหญ่ หลายคนจะตะโกนเรียกชื่อ.....

2. นายบอนไปหาเรื่องจากไหนมาเขียนบันทึกใน blog ได้เรื่อยๆ

จากประสบการณ์ มุมมองของตัวเอง 40% จากคำถาม เพื่อนอยากรู้ ขอให้เขียน 60%

3. เอาพลังที่ไหนมาเขียนบันทึก

นายบอนเคยเขียนบันทึกเรื่องหนึ่งให้กำลังใจคนท้อแท้ ซึ่งบันทึกนั้น ไม่มีคนมาตอบ ไม่มีความคิดเห็น วันหนึ่งเจอเพื่อนมาทัก มาขอบคุณ บอกว่าน้องของเขามาอ่านบันทึกของนายบอน ทำให้น้องที่คิดจะหนีออกจากบ้าน คิดได้ และฮึดสู้ปัญหาชีวิตต่อไป

อีกประเด็น คือ เอาเรื่องที่คุยกับพรรคพวก มาบันทึก รวมทั้งเรื่องใกล้ตัว เป็นการดึงความสนใจ และเพื่อนรู้สึกว่า ให้ความสำคัญกับสิ่งที่พวกเขาพูด ทำให้เกิดพลัง ส่งเรื่อง หาเรื่องมาให้นายบอนเขียนลงบันทึก ถือว่าเป็นการประสานพลังจากเพื่อน และของนายบอนเอง จึงบันทึกอยู่เรื่อยๆ

4. หลายคนบอกนายบอนเขียนบันทึกเก่ง แต่ตัวจริงพูดไม่เก่ง จะพูดเก่งกับคนที่สนิทสนมด้วยเท่านั้น

5. ใน 1 วันที่เขียนบันทึก จะมีบันทึกหลากหลายแนว ในบล็อก Keep in Mind เพราะอยากทำหนังสือ, นิตยสาร ที่มีคอลัมภ์หลากหลายให้เลือกอ่าน บันทึกหลายประเด็นที่เขียน จึงแทนคอลัมภ์ต่างๆ เช่น คอลัมภ์เรื่องเพลงลูกทุ่ง คอลัมภ์ข่าวคราวจากกาฬสินธุ์ คอลัมภ์ให้กำลังใจ คอลัมภ์มุมมอง วิธิคิด ฯลฯ

ซึ่งถ้าเป็นท่านอื่น จะเขียนแยก blog ไปเลย เพื่อความไม่สับสน

แต่ในมุมมองของนายบอน ที่มองเป็นนิตยสาร 1 เล่มที่มีคอลัมภ์ต่างๆ ถ้าคนซื้ออ่าน ซื้อ 1 เล่ม มีหลายคอลัมภ์ กับต้องซื้อหลายๆเล่ม เพื่อให้ครบทุกคอลัมภ์ที่อยากอ่าน

นายบอนว่า 1 เล่ม สะดวกกว่า

tag ต่อ (อยากให้ใครเขียนต่อ) = ครูอ้อย, พี่โอ๋ อโณ, พี่พนัส แผ่นดิน, พี่ออต, อ.JJ, อ.paew , ดร.แสวง...

อ้าว เกิน 5 ไปแล้วสิ...

แต่ใน gotoknow อาจจะแตกต่างจาก blog อื่นๆ ที่คนเขียนบล็อก อยู่ในวัยเรียน และวัยเริ่มต้นทำงาน จะเขียน blog tag และส่งต่อให้คนที่ติดตามอ่าน กระตุ้นให้เขียนต่อไปด้วยความสนุกสนาน

กรณีศึกษานี้ หากนำมาใช้สร้างกระแสเรื่องที่น่าสนใจ ก็จะได้แง่คิดใหม่ๆที่เป็นประโยชน์ออกมาได้ เหมือนการระดมสมอง

เช่น
- 5 กิจกรรม KM ในองค์กรของคุณที่คุณอยากให้เกิดขึ้นจริง
- 5 ประเด็นที่คุณอยากให้คุณ.......................(ระบุชื่อ)......... เขียนบันทึกออกมา

นั่นคือตัวอย่าง Blog tag ที่กำลังระบาดในหมู่ blogger ชาวไทยหลายคนครับ

คราวนี้มาดูกันว่า blog tag ในไทย ระบาดขนาดไหน
http://www.keng.ws/files/blog-tag-trace.html
http://keng.ws/node/184

ตัวอย่างที่ blog อื่น
1. blog tag
หมายเลขบันทึก: 71967เขียนเมื่อ 10 มกราคม 2007 23:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 เมษายน 2012 02:59 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)
  • ยังคงรวดเร็ว ฉับไว เหมือนเคย
  • แต่เอ๊ะ..งั๋ย บันทึกนี้เล็ดลอดสายตาผมไปได้
  • แต่ชอบนะครับ..แปลกใหม่ดี  ครับโดยเฉพาะ KM  5  อย่างที่อยากให้เกิดขึ้นกับองค์กร
  1. สมควรเล็ดลอดสายตาหลายคนครับ เพราะนายบอนจะเขียนบันทึกเก็บสะสมไว้เรื่อยๆ เมิ่อถึงเวลาก็จะดึงออกมาใช้ประโยชน์ เหมือนกระัแสเรื่อง tag ถ้าใครอยากอ่าน tag นายบอนก็หยิบออกมาให้อ่านได้เลย
  2. tag แล้วก็จะัเขียนตามสไตลฺ์ครับ มอบข้อคิดเข้าไปด้วย ทั้ง KM 5 อย่าง และเรื่องอื่นๆ
  3. นอกจากความลับส่วนตัวแล้ว คนไทยสามารถคิดประเด็นอื่นเพื่อสร้างเครือข่าย ระดมสมองได้เช่นกันครับ ไม่จำเป็นต้องรอให้ชาวต่างชาติ เป็นคนริเริ่มคิดไปทุกประเด็น
  4. พี่พนัสน่าจะนำไปให้นิสิต ระดมสมอง นั่งล้อมวงเขียนใส่กระดาษในรูปแบบของ tag ก็ได้นะครับ ให้นิสิต ระเบิดไอเดียที่บรรเจิดออกมาใช้ประโยชน์เสียเลย
    • 5 กิจกรรมในค่ายอาสาพัฒนาที่อยากให้เกิดขึ้น
    • 5 กิจกรรมที่อยากให้กองกิจการนิสิต มมส ดำเนินการ
    • 5 กิจกรรมที่นิสิต มมส อยากให้จัดค่าย
    • 5 โครงการพัฒนาที่นิสิตอยากร่วมทำ
    • 5 5555 และ 55555 ... ฯลฯ
  • เอ๋า...พี่หนิงหลุดโผนี้ได้ไงเนี่ย....  เสียใจอย่างแรง 555 
  • ขอบคุณค่ะ นายบอน!-กาฬสินธุ์ พี่หนิงได้อะไรดีดีอีกแล้ว....  อิอิ DSSต้องเอาไป Tagเด็กๆชมรมเพื่อนแก้ว  เนอะ

 

 

  • ไชโยมีคุณบอนมา tag ครูอ้อยเพิ่มอีก 1
  • รวมเป็น 4 แล้ว  ครบ 5 เมื่อไร  จึงจะเขียนค่ะ...ความลับลมคมในของครูอ้อย...
  • อิอิ.....ขำขำ.....แต่ไม่มี.....ยี้
ขอบคุณนายบอนที่ชี้ทางกระจ่าง...วันนี้ทั้งวัน คิดอยู่ว่าตอนนี้เรื่องที่บันทึกกัน เมื่อดูจำนวนผู้ที่เข้ามา กับจำนวนคอมเมนท์ จะเห็นว่าลดลง แต่หากเป็น tag ความลับ ปรากฎว่านิยมและเล่นกันอย่างสนุกสนาน มีคนดู และคอมเมนท์สูงมากเมื่อเทียบกับบันทึกเบาๆ ทั่วๆไป และหากเป็นบันทึกงานละก็ยิ่งน้อยลงไปใหญ่ จึงมานั่งคิดว่า หลังจาก tag ความลับกันแล้วน่าจะมีอะไร tag กันได้อีกที่จะสนุกและก่อประโยชน์ในด้านต่างๆ ที่คิดๆไว้ก็มี...กิจกรรม 5 อย่างที่คุณทำหลังจากรู้จักกับ KM...ความดี 5 อย่างที่คุณทำ...ความสุข 5 เรื่องที่คุณมี...สิ่งที่เพื่อนหรือคนอื่นทำให้คุณแล้วคุณชอบ 5 อย่าง...ฯลฯ

เจ้..เอ๊ย พี่หนิงครับ
 ให้นายบอนไปร่วมแจมด้วยไหม tag กับชมรมเพื่อนแก้วน่ะ น่าสนุกนะครับ

 

ครูอ้อยครับ
  ความจริงสามารถ tag ได้เพียบ เพราะครูอ้อยมีเรื่องเขียนเยอะอยู่แล้ว รีบๆ tag  บ่อยๆนะครับ

อ.paew ครับ
  แหม โลกเราก็ต้องมีั้ทั้งบันเทิงและสาระกันบ้างสิครับ การที่จำนวนที่เห็นลดลง เหมือนกับว่า สิ่งนี้ เริ่มไม่ตื่นเต้นเหมือนตอนแรกแล้ว

เพราะช่วงแรกเป็นของใหม่ เลยสนุกสิครับ แต่เมื่อเวลาผ่านไป จะึถึงจุดอิ่มตัว เป็นวัฏจักรของสรรพสิ่ง เราก็เปลีั่ยนประเด็นใหม่บ้าง จำนวนที่ลด เหมือนการพักยก เมื่อเริ่มรู้สึกเหงา อยากคึกคักเช่นเดิม ก็สามารถกลับมา tag กันได้อีกครั้งตามใจปรารถนา

 นอกจากบันเทิงแล้ว ก็สามารถเติมสาระ เพื่อผลของงานให้มีสีสัน มีแนวคิดใหม่ๆมากยิ่งขึ้น ย่อมมีแต่ได้กับได้กำไรนะครับ

ได้กำไรโดยการเปิดรับมิตรภาพและความรู้สึกทีี่ดีแล้ว ก็ควรจะหากำไรจากการเปิดรับแนวคิดในการเิิติมเต็มการทำงานไปด้วย เพื่อให้ได้กำไรมากๆๆๆๆๆๆๆ ยิ่งขึ้น...

  

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท