บันทึกนี้ ผมไม่ได้เป็นพระลูกวัดสอนเจ้าอาวาสนะครับ คือ ไม่ได้สอนเรื่องการประชาสัมพันธ์ หรือว่าสอนนักประชาสัมพันธ์ แต่ว่าประสบการณ์ที่พบเห็นมามันพาไปครับ
คือ ผมจะต้องเป็นนายแบบให้เขาถ่ายสารคดี รายการ "คิดได้ไง" เมื่อโอกาสมาถึง ผมก็ไม่ลืมสถาบันที่ผมเป็นสมาชิกอยู่ ผมได้สอบถามไปยังหัวหน้าภาควิชา, คณบดีและคณบดีคณะวิทยาศาสตร์ และฝ่ายประชาสัมพันธ์มหาวิทยาลัยว่า อยากจะมามีส่วนร่วมให้มีภาพบางภาพปรากฏในสื่อบ้างไหม หรือเอาแค่มีตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องกับ beeman หรือ อื่นๆ
เอาเข้าจริงๆ ก็มีคนรู้เรื่องการประชาสัมพันธ์น้อยมาก เป็นการบ้านให้ต้องไปขบคิดกัน พอสมควรครับ
ผมคิดเล่นๆ ครับ แค่
- จะแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าชุดไหน เรื่องนี้ก็เป็นการประชาสัมพันธ์แล้วครับ จะมีตราสัญญลักษณ์ของหน่วยงานหรือไม่
- สถานที่ถ่ายทำ จะถ่ายตรงไหน มีภาพตรงไหนปรากฏออกไป นี่ก็เป็นการประชาสัมพันธ์
- จะให้หน่วยงานไหนที่ beeman ไปสัมผัส มีภาพขึ้น แม้เพียง 2-3 วินาที เมื่อคนเห็นภาพก็จะจดจำได้ (เป็นความจำสั้นๆ แบบว่า เคยเห็นที่ไหนครั้งหนึ่ง) อย่างนี้ก็ยังดี
-
บางคนเข้าใจว่า ประชาสัมพันธ์ แค่ลง website ก็เป็นประชาสัมพันธ์แล้ว แต่ว่าสื่อต่างชนิดกัน ก็ดึงดูดกลุ่มคนได้เฉพาะกลุ่ม ดังนั้นการประชาสัมพันธ์ หรือสื่อสารมวลชน จะต้องทำให้หลากหลายสือ จึงจะครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายครับ
ผมได้ไปคุยกับท่านอาจารย์จรัญ อดีตรองคณบดี (เทียบเท่าคณบดี) คณะวิทยาศาสตร์ มน. ท่านบอกว่า
- บางคนจะประชาสัมพันธ์ตัวเอง หรือหน่วยงานตัวเอง ที่คนอื่นเขาไม่อยากดู ลงทุน 2 แสน ไม่รู้ว่าจะมีคนดูหรือไม่
- แต่บางคน มีโอกาสที่เขามายื่นให้ แบบที่มีคนอยากดู แต่ก็ไม่คิดที่จะลงทุนแบบไม่เสียสตางค์ เป็นเรื่องน่าคิดนะครับ