ติดตามตอน 4 ได้ที่ "Click"
ติดตามตอน 3 ได้ที่ "Click"
ติดตามตอน 2 ได้ที่ "Click"
ติดตามตอน 1 ได้ที่ "Click"
การจัดการความรู้เหมือนพระนารายณ์ 10 กร เพราะแต่ละกรของท่าน มีของวิเศษแต่ละอย่างไม่เหมือนกัน สามารถหยิบใช้เพื่อแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ตามความเหมาะสม
ก่อนจะรู้จักเครื่องมือแต่ละชิ้นของการจัดการความรู้ว่าทำหน้าที่อย่างไร อยากจะขอฉายภาพรวมของการจัดการความรู้ในอีกมุมมองหนึ่งก่อนนะค่ะ นั่นก็คือ โมเดลปลาทู : TUNA Model
โมเดลนี้ออกแบบโดยท่านอาจารย์ ดร.ประพนธ์ ผาสุขยืด ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการสื่อสารพัฒนาการเรียนรู้ สถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้เพื่อสังคม(สคส.) เป็นโมเดลหรือความคิดรวบยอดที่สรุปรวมเป็นภาพภาพเดียวที่วิเศษยิ่ง (ดิฉันอยากมีความสามารถแบบเดียวกันนี้บ้างจัง) นอกจากนี้ ชื่อโมเดลยังมีที่มา ที่มีความหมายให้ตามขุดไปพบซากประวัติศาสตร์ได้อีก กล่าวคือ ย้อนไป เมื่อวันที่ 8 – 9 กรกฎาคม 2547 ดร.ประพนธ์ ได้เข้าร่วมประชุมในงาน “ตลาดนัดความรู้เพื่อพัฒนาขีดความสามารถการจัดการด้านเอดส์ ” ณ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นงานใหญ่ระดับอินเตอร์เชียวค่ะ ในงานนี้ ดร.ประพนธ์ ได้ร่วมรับฟังการบรรยายโดย Mr. Frannie Léautier Geoff Parcell (ที่ปรึกษาการจัดการความรู้ ของ UNAIDS ผู้แต่งหนังสือเรื่อง “ Learning to Fly” ร่วมกับ Mr. Chris Collison ที่โด่งดังมาก) Mr. Parcell ได้นำเสนอ เครื่องมือชุดหนึ่ง ที่น่าสนใจมาก และช่วยทำให้บรรยากาศของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องโรคเอดส์ มีสีสัน มีพลัง มีชีวิตชีวา ดร.ประพนธ์ จึงได้นำวิธีการดังกล่าวมาปรับใช้กับโครงการด้านจัดการความรู้ ที่ สคส. ดำเนินการอยู่ ดังนั้น ชื่อ TUNA Model จึงมาจาก Thai –UNAids Model นั่นเอง
TUNA Model แสดงองค์ประกอบของการจัดการความรู้ที่มีความจำเป็นและสำคัญมาก 3 ส่วน คือ
1) Knowledge Vision (KV) เป็นส่วนที่ต้องตอบให้ได้ว่าทำการจัดการความรู้ไปเพื่ออะไร
จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ดิฉันยอมรับว่าส่วนนี้เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในการก่อเกิดส่วนอื่นถัดไป เหมือนตัวอ่อนในครรภ์มารดา ส่วนหัวเป็นส่วนแรกที่เกิดก่อน แล้วจึงพัฒนาส่วนตัวและแขน ขาได้ การกำหนด KV ต้องการผู้มีสายตาที่เล็งการณ์ไกลได้อย่างแม่นยำ มีสมองอันชาญฉลาด
และเพื่อให้สัมพันธ์กับการพัฒนาเป็นส่วนลำตัว สิ่งที่เป็น ความสนใจร่วมหรือปัญหาร่วมของชุมชนในองค์กร น่าจะเป็นจุดเริ่มที่ดีที่สุด
2) Knowledge Sharing (KS) เป็นส่วนที่สำคัญมากเพราะทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านเวทีจริง และเวทีเสมือนเช่นผ่านเครือข่าย Internet
ส่วนนี้ เป็นหัวใจของการจัดการความรู้ เป็นส่วนที่จะดึงความรู้ซ่อนเร้นที่ฝังลึกอยู่ในตัวคนเปิดเผยให้แก่ผู้อื่นได้รับรู้และเข้าใจได้
เพราะเกี่ยวกับหัวใจ ส่วนนี้จึงต้องการความไว้เนื้อเชื่อใจเป็นสำคัญ ถ้าไม่สามารถทำให้รู้สึกรักและปรารถนาดีต่อกันด้วยความจริงใจได้ ใจใครก็บังคับใครไม่ได้ อย่างนี้ เค้าเรียกว่า เลี้ยงได้แต่ตัว ใช่ไหมค่ะ
3) Knowledge Assets (KA) เป็นส่วนขุมความรู้ที่ทำให้มีการนำความรู้ไปใช้งานและมีการต่อยอดยกระดับขึ้นไปเรื่อย ๆ
ถ้าเปรียบกับปลา ก็เหมือน หางปลา ไม่มีหางก็ว่ายน้ำไม่ได้ ถ้าเปรียบกับคน ก็เหมือนแขน ขา ไม่มีก็อยู่ได้ แต่อยู่อย่างคนพิการ ซึ่งลำบากกว่าคนปกติหลายเท่า
ตอนที่ดิฉัน รู้จักโมเดลนี้ครั้งแรก ดิฉันยังไม่รู้จัก Blog ยอมรับว่า ตอนนั้นไม่เข้าใจ และคิดไม่ออกว่า จะเก็บความรู้จากส่วนตัวปลาไว้เป็นคลังได้อย่างไร และจะเผยแพร่ออกไปเป็นวงกว้างได้อย่างไร แต่ตอนนี้ ดิฉันสามารถประยุกต์โมเดลปลาทู ไปใช้งานได้จริง จนครบทั้งตัวแล้ว
วันนี้ท่านอาจารย์หมอวิจารณ์ เขียนเรื่อง โมเดลปลาทู แบบเตือนสติ อีกครั้ง อ่านเพิ่มเติม แล้วจะยิ่งซึ้งค่ะ "Click"