อนุทินล่าสุด


ดอกหญ้าน้ำ
เขียนเมื่อ

(78) ได้รับข่าวร้ายตั้งแต่เช้า แม่โทรมาบอกว่า ไก่ที่เลี้ยงไว้ ถูกสุนัขกัดตายไปเกือบ 20 ตัว



ความเห็น (1)
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ดอกหญ้าน้ำ
เขียนเมื่อ

(77) ไม่จำเป็นว่าต้องทำงานตามสาขาที่เรียนจบ ถนัด และหรือให้รายได้สูง...แต่เราสามารถทำงานอะไรก็ได้..แค่...เปิดใจที่เรียนรู้
(กับโครงการสร้างความสามารถชาวบ้านให้วางแผนการผลิตผักจำหน่ายได้ตรงตามความต้องการของโรงเรียน)
...มีเรื่องให้เรียนรู้ตลอดเวลาจริง ๆ ..ออกจากงานนี้ไม่อดตายละ ฮ่าาา



ความเห็น (3)

เหลือเลี้ยงหมูค่ะที่ยังไม่สามารถ

ถูกต้องแล้วคร้าบ.....ออกจากงานเราจะไม่อดตาย...อิๆ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ดอกหญ้าน้ำ
เขียนเมื่อ

(76) นำข้าวมาตากแดดเพื่อง่ายต่อการตำด้วยครกกระเดื่อง เพื่อไม่ให้เสียเวลาขณะนั่งเฝ้าไม่ให้ไก่มาจิกกินข้าว ก็นำด้ายมาม้วนก่อนนำไปทอผ้าสวมใส่ (จริง ๆ แล้ว ป้าบอกหนาว มานั่งตากแดด ฮ่าาาา)



ความเห็น (4)

คนแถวนั้นขยันมากเลยครับ

สบายดีไหมครับ

>> ขยันค่ะ หาอะไรทำตลอดเวลา แต่ก็มีช่วงที่ไม่ทำอะไรเลยเหมือนกันค่ะ

>> สบายดีค่ะ อ้วนท้วมสมบูรณ์ค่ะ

ปลูกข้าวขั้นบันไดไหมคะ

วิวสวยจัง (ข้างหลัง)

ขอบคุณค่ะคุณหมอธิ ในพื้นที่จะมีการปลูกข้าวสองแบบค่ะ

1. นาขั้นบันได (จากการสังเกต จะมีเฉพาะคนที่มีเงินมีพื้นที่ใกล้แหล่งน้ำ สามารถเบิกนา ขยายพื้นที่ทำนา หลีกเลี่งการทำไร่)

2. ทำไร่ (ซึ่งไม่ได้ปลูกแบบขั้นบันได) ที่ชาวบ้านจะมีพื้นที่จับจองครอบครัวละ 5-7 แปลง เพื่อเวียนกันทำปีละแปลงค่ะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ดอกหญ้าน้ำ
เขียนเมื่อ

(75) "เข้าหน้าหนาวทีไร มักจะเห็นบรรยากาศแบบนี้ บรรยากาศที่คนจากในเมืองมาปันน้ำใจให้กับพวกผมบนดอย พวกผมสุขใจที่ได้สิ่งของไว้บรรเทาความหนาวเหน็บ ส่วนผู้ใจบุญจากในเมืองก็สุขใจที่ได้ให้และมาสัมผัสกับอากาศดี ๆ ที่บ้านของผม"

ณ บ้านเลอะกรา อมก๋อย

ภาพ : พี่นัท



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ดอกหญ้าน้ำ
เขียนเมื่อ

(74) "เพราะเกิดบนดอย พ่อแม่มีรายได้น้อย ฉันจึงต้องกินพืชผักที่พ่อแม่ปลูกไว้ในสวน พืชผักที่เด็ก ๆ รุ่นเดียวกันกับฉันหลายคนไม่ชอบกิน"



ความเห็น (1)

ดีจังค่ะ เคยชินกินผักแต่เด็ก

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ดอกหญ้าน้ำ
เขียนเมื่อ

(73) ไม่มีของเล่นมากมายและทันสมัย แค่เท่าที่มีก็สนุกแล้ว



ความเห็น (2)

มีความสุขอยู่แล้วค่ะอาจารย์ Wasawat Deemarn

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ดอกหญ้าน้ำ
เขียนเมื่อ

(72) "ค่ำคืนเหน็บหนาว แสงดาวทอประกาย"

ชวนน้อง ๆ นศ.พยาบาลนอนดูดาวตก นับดาวตกได้ 4-5 สิบดวง เราต่างก็ตื่นเต้น เก็บภาพแห่งความทรงจำไว้ก่อนเข้านอน
น่าเสียดายที่ต้องกลับลงมาในเมืองวันที่ 14 ธันวาคม 58 ไม่งั้นนอนดูฝนดาวตกให้จุใจไปเลย

ภาพ : คืนวันที่ 13 ธันวาคม 58 ก่อนฝนดาวตกหนึ่งคืน By พี่นัท



ความเห็น (1)
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ดอกหญ้าน้ำ
เขียนเมื่อ

(71) เมื่อนั่งทำงานอยู่เฉย ๆ จู่ ๆ ก็ปวดหลังขึ้นมา แปล๊บ ๆ และปวดมากขึ้น ไม่หายสักที

เพื่อนร่วมงานบอกเป็น Offce Syndrome แน่เลย

ชื่อโรคเท่ห์มากเลย แต่คงต้องพึ่งยาแก้ปวดอีกแล้ว



ความเห็น (3)

คลินิค "หมอพจน์" ที่ปากทางไปแม่สา ครับ

ขอบคุณค่ะอาจารย์ต้น ขอบคุณค่ะอาจารย์Wasawat Deemarn คลีนิคแถวแม่โจ้ค่ะ ได้ยาแก้ปวด ยาคลายเส้น และคำแนะนำในการปฏิบัติตัวขณะทำงานด้วยค่ะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ดอกหญ้าน้ำ
เขียนเมื่อ

(70) "คนอยู่คู่กับความเชื่อเสมอ อยู่ที่ว่าแต่ละคน/กลุ่มชนมีความเชื่อเช่นไร"

ครั้งหนึ่งเมื่อน้องนศ.พยาบาลไปฝึกงานในพื้นที่อมก๋อย พยายามเข้าไปหาชาวบ้านทุกครัวเรือน เพื่อเก็บข้อมูลและให้คำแนะนำในการดูแลตนเองเบื้องต้นสำหรับผู้ป่วย

ณ บ้านหลังหนึ่ง ลูกสาววัย 8 ขวบมีไข้สูง 39 องศา น้องนศ.จึงจับมาอาบน้ำเย็นเพื่อลดไข้ ตอนนั้นอุณหภูมิ 12 องศา แม่ที่ยืนดูอยู่ก็บ่นอุบอิบ จับประเด็นได้ว่า "หนาวขนาดนี้จับลูกฉันอาบน้ำเย็น คอยดูนะถ้าอาการหนักขึ้น น่าดู"

รุ่งเช้า..เห็นน้องที่ถูกจับอาบน้ำเมื่อวาน เดินมาเล่นในโรงเรียนก็โล่งใจ...

ปล.แม่เด็กเชื่อว่า ถ้าเด็กป่วยห้ามอาบน้ำ เพราะจะทำให้อาการหนักขึ้น พวกเราเลยต้องอธิบายให้แม่เข้าใจเสียใหม่ เฮ้อออออ โล่งอกเสียที ที่เข้าใจ



ความเห็น (5)

การให้ความรู้จึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ;)...

ความรู้สำคัยจริง ๆ ค่ะ แต่การเปลี่ยนความเชื่อของคนก็ยากเหลือเกินค่ะอาจารย์Wasawat Deemarn

ความเชื่อ ต้องให้ตัวเขาเป็นคนเปลี่ยนด้วยตัวเขาเอง ;)...

การเปลี่ยนความเชื่อต้องใช้เวลาครับ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ดอกหญ้าน้ำ
เขียนเมื่อ

(69) เพราะบางครั้งคนใกล้ชิด ก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ข้าง ๆ กันทุกวัน แค่เข้าใจ คิดถึง คุยกันทุกวันก็พอ และลูกสบายดีก็พอ (พ่อและแม่กล่าวไว้)

ภาพ : ณ เลอะกรา อมก๋อย By พี่นัท



ความเห็น (3)

ภาพสวย ๆ ต้องแลกกับอากาศที่หนาวเย็นจับใจในยามเช้าตรู่ค่ะอาจารย์ ขจิต ฝอยทอง

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ดอกหญ้าน้ำ
เขียนเมื่อ

(68)<หนาวก็ผิงไฟสิค่ะ> เวลานี้ที่ไหน ๆ ก็เย็น และเย็นมาก ๆ มากกว่าทุกปีที่ผ่านมา และที่น่าประหลาดใจที่สุดคือ เชียงใหม่หนาวเท่ากับหน้าหนาวที่อมก๋อยในทุก ๆ ปีที่ผ่านมา...

...รักษาสุขภาพนะค่ะ...



ความเห็น (2)

ขอบคุณค่ะอาจารย์ ขจิต ฝอยทอง บางทีรู้สึกเหมือนตัวเองจะบึกเกินไปละ ป่วยบ้างก็น่าจะดี ฮ่าาา

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ดอกหญ้าน้ำ
เขียนเมื่อ

(67) บทสนทนาของน้องนศ.พยาบาลกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้านหนึ่งในอ.อมก๋อย (แปลเป็นไทยกลางแล้ว)

น้องนศ. : ป้าคะ ป้าป่วยด้วยอาการหลายโรคแบบนี้ทำไมไม่ไปหาหมอละคะ

ป้า : ป้าไม่มีเงิน ป้าไปหาหมอไม่ได้หรอก ป้าทนเจ็บได้

น้องนศ. : ทำไมต้องทนคะ ไปนะไปหาหมอเถอะ หนูแค่แนะนำการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องให้เท่านั้นนะ

ป้า : ป้าไม่มีเงินจริง ๆ ถ้าป้าจะต้องไปหาหมอ ป้าต้องมีเงินเยอะมาก แค่ค่าเดินทาง ก็ 3,000 บาทแล้ว ไหนจะค่าหมออีกละ

น้องนศ. : ไม่ต้องจ่ายค่าหมอค่ะ ป้าไปหาหมอเลยนะ เดี๋ยวหนูจะหาค่ารถให้ค่ะ

ป้า : ป้าเคยไปหาหมอแล้ว หมอบอกว่าป้าไม่มีบัตรประชาชน ป้าต้องจ่ายเงินเยอะมาก

แล้วการสนทนาก็จบลงด้วยความเงียบ...(มันน่าสลดนะ คนไทยด้วยกัน แต่ขาดสิทธิในการรักษา เพราะบัตรประชาชนใบเดียว)

หมายเหตุ : ป้าเป็นโรคปอด นิ่ว ตับ และความดันสูง



ความเห็น (6)

ความเหลี่ยมล้ำของการรักษา

แล้วทำไมป้าไม่มีบัตร เดี๋ยวนี้บัตรก็ทำไม่ยาก หายก็ไม่ต้องแจ้งความ แต่คงต้องมีทะเบียนบ้าน กำนัน ผู้ใหญ่บ้านน่าจะอนุเคราะห์ด่วน นศใ อาจารย์ที่พบเห็นถ้าเป็นไปได้ ช่วย ๆกันได้นะคะ ถึงยังไง คนไม่มีก็ลำบากไปทุกเรื่อง ค่ารักษาไม่เสีย แต่ก็มีค่าใช้จ่ายอื่น เช่นค่ารถ ค่าที่พัก ชุมชนที่เอื้ออาทรก็ควรคิดวิธีการช่วยเหลือผู้ยากไร้จริง ๆ คนภายนอก คนห่างไกลหวังยาก เตร้า ๆ

ขอบคุณค่ะอาจารย์Wasawat Deemarn

ไม่ใช่แค่ความเหลื่อมล้ำด้านการรักษาเท่านั้นค่ะ ด้านอื่น ๆ ก็มีอีกมากมาย ค่ะอาจารย์ต้น

คุณGD ดูจากที่พูดมาก็เหมือนจะง่ายนะค่ะ แต่ในทางปฏิบัติยากเหลือเกิน (เรื่องการทำบัตร) ส่วนการช่วยเหลือเรื่องการรักษา ทางทีมงานกำลังให้ความช่วยเหลืออยู่ค่ะ

แต่ถ้าพูดถึงชุมชนเอื้ออาทร...ชาวบ้านเอื้ออาทรต่อกันแน่นอน แต่ถ้าการรักษาต้องเดินทางบ่อยครั้ง นั่นคือค่าใช้จ่ายทั้งนั้นค่ะ (ชาวบ้านบนดอยไม่ได้มีรายได้ประจำค่ะ)

ถ้าคุณGD จะเอื้ออาทร ให้ความช่วยเหลือ ก็ยินดีนะค่ะ

น่าสงสารครับ มีหมอเคลื่อนที่ไปรักษาไหมครับ

ขอบคุณค่ะอาจารย์ขจิต ฝอยทอง มีหมอเคลื่อนที่ค่ะ แต่ก็ไม่ได้มีตลอดทุกเดือน และได้ข้อมูลว่ามีหมอฝรั่งไปฝังตัวอยู่ในหมู่บ้านบริเวณนั้นด้วยนะค่ะ แต่ก็ให้ความช่วยเหลือได้ไม่มาก เพราะอาการบางอาการต้องใช้เครื่องมือทางการแพทย์ในการตรวจและรักษาค่ะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ดอกหญ้าน้ำ
เขียนเมื่อ

(66) ว่าด้วยเรื่องสุขภาพ ทำไมน๊าาาา? คนส่วนใหญ่รู้ว่าต้องดูแลสุขภาพอย่างไร จึงจะไร้โรคภัย แต่พฤติกรรมที่คนส่วนใหญ่แสดงออกมักตรงกันข้ามเสมอ



ความเห็น (2)
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ดอกหญ้าน้ำ
เขียนเมื่อ

(65) เวลาออกพื้นที่ไปเจอเด็ก เยาวชนและชาวบ้าน มักจะเจอกับรอยยิ้มที่สดใส ร้อยยิ้มที่จริงใจเปิดเผย นอกจากนั้นเมื่อถึงมื้ออาหารมื้อไหนก็ตามถ้าไม่ถูกชวนให้ไปกินข้าวที่บ้านพวกเขา ก็จะมีผักต่าง ๆ นานาตามฤดูกาลมาให้เสมอ โดยเฉพาะในฤดูฝนนี้ มีทั้งผักกาด ผักคะน้า ถั่วฝักยาว ผักอีหลึน ผักเผ็ด และลูกมะก่อ ทุกคนช่วยกันผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันทำอาหาร จนรู้สึกเหมือนคนทำงานกับชาวบ้านเป็นครอบครัวเดียวกันไปแล้วจริง ๆ



ความเห็น (2)

ลงพื้นที่อีกแล้วเนาะ ;)…

คนเดินทาง ที่ทำงานต้องออกพื้นที่ค่ะอาจารย์

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ดอกหญ้าน้ำ
เขียนเมื่อ

(64) "ครอบครัว คือ ความสุขที่ไม่ต้องใช้เงินซื้อ คือความสุขที่บริสุทธิ์ที่สุด" 

ภาพหลานชายยืนอยู่บนคันนา

ทุกวันเสาร์และอาทิตย์จะติดตามตายายไปสวน ไปทุ่งนาเสมอ

ไม่ได้ไปทำงานหรอกค่ะ ไปก่อกวนตามประสาเด็ก



ความเห็น (4)

เรัยนรู้กับท้องทุ่งเป็นการดีที่เขาอยู่กับความจริง

ขอบคุณค่ะ คุณ prayat duangmala

เขาเรียนรู้จากการคลุกคลีในชีวิตประจำวันค่ะ

แต่ตำราในห้องเรียนไม่ต้องพูดถึงค่ะ

ไม่ได้เรื่องเสียเลย

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ดอกหญ้าน้ำ
เขียนเมื่อ

(63) เมื่อรู้สึกอยากหางานเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ ลองทำมาหลายอย่างละ แต่จบด้วยทำข้าวเหนียวหมูปิ้งขาย ทำให้ต้องตื่นเช้ากว่าที่เคยตื่น ได้มาทำงานเช้ากว่าที่เคยทำปกติ (ปกติกว่าจะตื่นได้บิดขี้เกียจอยู่นั่นแหละ กว่าจะลุกจากที่นอนได้" เพิ่งได้มาสัมผัสกับตัวเองว่าการตื่นเช้า เรามักจะมีเวลาเหลือเฟือสำหรับทำอย่างอื่นอีกมากมาย เช่น กินข้าวเช้า ให้อาหารไก่ รดน้ำผัก ขับรถออกไปทำงานแบบสบาย ๆ ฯลฯ ทุกกิจกรรมทำอย่างไม่รีบเร่ง ทำให้การดำเนินชีวิตลดความประมาทลงค่อนข้างมาก ....ผลลัพธ์ คือ อารมณ์ดีทั้งวัน....



ความเห็น (4)

ข้าวเหนียว หมูปิ้ง ซาวบาทครับ ;)…

สนใจสักชุดไหมค่ะอาจารย์ Wasawat Deemarn

ขอบคุณค่ะอาจารย์ ขจิต ฝอยทอง ปลูกผักช่วยละค่าใช้จ่ายในการทำอาหารเยอะเลยค่ะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ดอกหญ้าน้ำ
เขียนเมื่อ

(62) ในวันที่ฟ้าสวยสดใส ได้มีโอกาสไปเยือนอำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่เป็นครั้งที่สองนับตั้งแต่เกิด  วันนี้อากาศดีมาก แต่ลืมนำกล้องตัวโปรดไปด้วย จึงใช้ Nokia lumia 625 ภาพออกมาอย่างที่เห็นค่ะ... อาจจะไม่สวย แต่โดยส่วนตัวชอบภาพนี้มากค่ะ



ความเห็น (4)

เข้าถึงตัวอำเภอเลยไม๊?

ถึงเลยค่ะอาจารย์ แต่มันยังไม่เป็นเมืองเท่าอมก๋อยนะค่ะ ผ่านตัวอำเภอไปแล้วยังเข้าใจว่าเป็นหมู่บ้าน เลยไปตั้งไกล ชาวบ้านบอกว่าเลยตัวอำเภอมาแล้ว ฮ่า ๆ 

สวยสดชื่น ดูเราตัวเล็กไปมากเลยนะคะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ดอกหญ้าน้ำ
เขียนเมื่อ

(61) พ่อแม่คือคนที่เข้าใจและรู้ใจเราเสมอ ไม่ว่าเราจะอายุมากขึ้นเท่าไหร่ก็ตาม... ทุกๆครั้งที่กลับบ้าน จะมีเมนูโปรดเสมอที่พ่อแม่ทำให้กิน ขอบคุณความรักที่สวยงามและอบอุ่นของพ่อแม่ค่ะ



ความเห็น (3)

ลูกคงจะอ้วนขึ้นแน่ ๆ ;)…

ถ้าอยู่บ้านทุกวัน อ้วนขึ้นแน่นอนค่ะอาจารย์ แต่ก็ไม่แน่นะค่ะ เพราะอาหารส่วนใหญ่เน้นผักค่ะ

ผักน่ากินนะครับ

อยู่บ้านก็ปลูกผักเพิ่มเลยครับ

ออกกำลังกายจะได้ไม่อ้วน

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ดอกหญ้าน้ำ
เขียนเมื่อ

(60)งานรับราชการ เป็นอาชีพใฝ่ฝันของทุกคน เพราะเหตุผลมากมาย ที่สำคัญคือสวัสดิการที่ครอบคลุมถึงพ่อแม่ด้วย....

หลายคนตั้งใจอ่านหนังสือวันแล้ววันเล่าเพื่อให้ตัวเองสอบบรรจุได้ อ่านอย่างตั้งใจ อ่านอย่างมีความหวัง  แต่แล้ว ถ้ามีใครคนหนึ่งมาพูดกับคุณขณะที่คุณกำลังกรอกใบสมัครสอบว่า "น้อง ๆ จะสอบเข้าที่นี่เหรอ อยากเข้ามากมั้ย จ่ายมาสองแสนสิ จะสอบได้หรือไม่ได้ รับรองมีชื่อติด และได้บรรจุเป็นข้าราชการที่นี่แน่นอน..." พร้อมทั้งบอกรายละเอียดการจ่ายตังค์โดยละเอียด 

ความรู้สึกสำหรับคนที่อ่านหนังสือมาตลอดจะรู้สึกอย่างไร เมื่อรู้ว่ามีกระบวนการแบบอยู่ทั่วไป แล้วเราจะสู้อ่านหนังสือไปทำไม

ปล. ยังเชื่อว่าหลายคนใช้ความสามารถสอบเข้าเป็นข้าราชการ แต่คงมีอีกหลายคนที่ซื้อตำแหน่งเข้าไป แล้วคนขยัน คนดีจะเกิดอาการท้อใจไหมเนี่ย (เท่าที่เห็นมาคนขยัน มักจะไม่มีตังค์ซื้อตำแหน่งด้วยสิ หุหุ)

......

ไม่ใช่ประสบการณ์ตรงของตนเองนะค่ะ ฟังน้อง ๆ เล่าให้อีกที



ความเห็น (5)

มีจริงครับ เรื่องนี้ ได้แต่สาปแช่งคนที่ทำแบบนี้ทำให้ชาติแย่ลงไปเรื่อย ๆ

ยังมีกระบวนการแบบนี้ ปะปนอยู่ในระบบราชการไทยเราอยู่ค่ะ อยู่ที่เราจะเชื่อเขาหรือไม่…อย่างที่คุณบอก น่าจะเป็นการสอบบรรจุครูกระมังค่ะ เพราะได้ข่าวมาเช่นกัน บรรจุได้ยังไม่พอ แต่พอย้ายก็ขออีก ๓ แสน…อะไรจะขนาดนั้น…ถ้าเรามีจิตสำนึกที่ดี อย่าไปเสียเงินดีกว่าค่ะ ตั้งหน้าอ่านหนังสือเพื่อสอบ ภูมิใจกว่ากันเยอะค่ะ…พี่เป็นผู้อำนวยการกองบริหารงานบุคคลมานาน…พูดได้เต็มปากว่า…“ไม่เคยเรียกร้องเงินจากใคร ๆ…ของพรรณนี้เราภูมิใจและเห็นคุณค่าของตัวเองมากกว่าค่ะ” ใครจะทำอย่างไร ขึ้นอยู่กับกรรมของคน ๆ นั้นค่ะ…เขียนมาเพื่อรณรงค์อย่าไปยอมเสียเงินให้กับพวกนี้นะคะ…ถ้าเราไม่…กันทุกคน สักวันมันคงหมดไปจากระบบราชการไทยค่ะ…แต่ขอบอก ถ้าสอบบรรจุเป็นข้าราชการของสำนักงาน ก.พ. พี่ขอบอกว่า…โปร่งใสค่ะ เพราะเคยสอบและไม่เคยเสียเงินให้ใคร ๆ สักแดงเดียว นับจากรับราชการมาเกือบ ๓๐ ปี ค่ะ…เป็นกำลังใจให้เตรียมตัวสอบให้ดีนะคะ สู้ ๆ ๆ ค่ะ

ค่ะอาจารย์Wasawat Deemarnขอสาปแช่งเช่นกันค่ะ 

ขอบคุณค่ะคุณพี่ บุษยมาศ ที่มาแลกเปลี่ยน น้องที่เขามาเล่าให้ฟัง เขาเพิ่งไปสมัครสอบ อปท. หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ผ่านมานี่เองค่ะ ขอไม่บอกนะค่ะว่าจังหวัดอะไร 

เมื่อประกาศผลสอบออกมา มีชื่อผู้สอบผ่านแค่ 1 คน ทั้ง ๆ ที่มีคนสมัครสอบเป็นพันๆคน เป็นไปได้เหรอค่ะว่าคนไทยโง่ขนาดสอบไม่ผ่านกันเลยขนาดนี้....

เป็นห่วงโซของวงจรอุบาทก์มานานนับร้อยปีแล้วในประเทศ เกิดเพราะผู้ที่มีความอยากที่ขาดความละอายเกรงกลัวต่อบาป นำมาให้ ผู้รับก็เช่นกันจึงขาดวินัยผลประโยชน์ จึงทำให้ประเทศชาติล้าหลังมาตลอด ดีใจแทนครับที่ท่านจะร่วมกันต่อต้านและตัดวงจรอุบาทก์ให้หมดไป

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ดอกหญ้าน้ำ
เขียนเมื่อ

(59) เมื่อต้องเป็นวิทยากรจำเป็นแทนอาจารย์ บรรยายเรื่องการถอดบทเรียนโดยใช้เครื่องมือแผนที่ความรู้ หรือ k-map ซึ่งอาจารย์บอกล่วงหน้า17 ชั่วโมง (16.00 น. - 9.00 น. ของอีกวัน) ปกติจะเป็นเพียงแค่ผู้ช่วยอาจารย์เท่านั้น เมื่อต้องเป็นวิทยากรบรรยายให้คนฟังมากกว่า 40 คน มันรู้สึกตื่นเต้น ตื้นเต้น และตื่นเต้น ทำอะไรแทบไม่ถูก ด้วยความกลัวในเรื่องจะพูดผิดๆถูกๆ บวกกับกลัวเสื่อมเสียชื่อสถาบัน ฮือๆๆ แต่อาจารย์ให้กำลังใจดีมากเลย "ถ้าไม่ทำวันนี้ แล้วเมื่อไหร่จะทำเป็น อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด มันคือบทเรียนให้ปรับปรุงตนเอง ไม่มีใครทำได้ดีในครั้งแรก แม้แต่คนที่เก่งอยู่แล้ว ยังเกิดเหตุผิดพลาดได้เลย" วันนั้นฉันจึงตั้งใจถ่ายทอดความรู้อย่างตั้งใจและประหม่าน้อยที่สุด และฉันก็ได้บทเรียนจริงๆในการปรับปรุงเพื่อไปใช้ในครั้งต่อไป หากยังมีโอกาสอีก ....ขอบคุณอาจารย์ ขอบคุณผู้เข้าร่วมถอดบทเรียนทุกท่าน ขอบคุณโอกาส และขอบคุณตนเองที่ไม่ปิดกั้นโอกาสของตนเองค่ะ<-_~>



ความเห็น (2)

เยี่ยมจังเลย

เอาบรรยากาศมาให้ดูบ้างนะครับ

ขอบคุณครับ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ดอกหญ้าน้ำ
เขียนเมื่อ

(58) มาประชุมที่อุทยานแห่งชาติดอยอิทยนนท์ วันที่ 2 อากาศยังหนาวมาก เวลานี้ 11.14 น. อุณหภูมิยังิยู่ที่ 10 องศาค่ะ หนาวมาก  นั่งประชุมกันใต้ผ้าห่มกันเลยทีเดียว



ความเห็น (2)

ว้าว ... ไปดอยอีกแล้ว 555

ไปแอ่งกะทะเชียงใหม่  ๑๗ - ๒๐  มีนาคม  ๕๖    ออกมานอกอาคาร  ร้อนมากค่ะ

ดอกหญ้าน้ำ
เขียนเมื่อ

(57) ฝนตกในหน้าร้อน

เวลานี้คนส่วนใหญ่แม้แต่ผู้เขียนบันทึกเองจะมีความสุขกับสายฝนที่ทำให้อากาศในหน้าร้อนเย็นลงทันตาเห็น...เพราะสายฝนมาช่วยดับร้อนทั้งภายนอกและภายใน  เพราะสายฝนทำให้หมอกควันจางลงไป  เพราะสายฝนทำให้ผิวพรรณไม่ต้องถูกบำรุงมากกว่าปกติ   เพราะสายฝนทำให้ไม่ต้องเสียค่าไฟเยอะขึ้น (จากการเปิดแอร์)   เพราะสายฝนทำให้สิ่งรอบ ๆ ตัวดูสวยงาม (จริงหรือเปล่านะ) 

ในทางตรงกันข้าม..ชีวิตของชาวบ้านบนดอยสูง  สายฝนในหน้าร้อนคือความกังวลมากมายที่สุด เพราะมันเป็นเรื่องของปากท้อง  ฝนตกแบบนี้พวกเขาจะทำอย่างไรกับไร่ดี...ถ้าเผาไร่ไม่ได้ นั่นก็หมายความว่าปีนี้ไม่มีข้าวกิน  จะปลูกข้าวที่ไหน จะทำอะไรดี... หาของป่ามากินหรือขายจะพอประทังชีวิตใน 1 ปีหรือไม่?  จะลงมารับจ้างในเมือง จะทำอะไรดีละ?  ลงมาในเมืองแล้วจะใช้ชีวิตอยู่อย่างไร?  ความปลอดภัยในชีวิตมีมากน้อยแค่ไหน? ค่าแรงที่ได้จะพอส่งกลับบ้านไหม? จะเป็นปัญหาของสังคมโดยรวมหรือไม่อย่างไร? ..... คงมีคำถามเกิดขึ้นมากมาย..แต่ก็เพื่อความอยู่รอดของพวกเขา : ใครกันละจะตอบคำถามเหล่านี้ได้




ความเห็น (3)

ความรู้สึกที่แตกต่าง ;)...

ค่ะอาจารย์....คุณยายมองเห็นชัดเจน หูได้ยินชัดแจ๋ว แข็งแรงด้วยค่ะ หนูเห็นยายถือมีดอีโต้ไปถางหญ้าแปลงผักใกล้บ้าน

ดอกหญ้าน้ำ
เขียนเมื่อ

(56) สอบหัวข้อ proposal ผ่านไปด้วยดี ก่อนสอบมีอาการเครียด กังวลเป็นที่สุด มึน ๆ ศีรษะนิด ๆ ขอบคุณอาจารย์ยุวนุชมากมายค่ะที่สอนและแบ่งปันความรู้มากมาย มีค่าเหลือเกินค่ะ



ความเห็น (2)

ยินดีด้วยนะ ลูกศิษย์ก้นกุฏิ ;)...

ดอกหญ้าน้ำ
เขียนเมื่อ

(55) ขอบคุณคุณครูทุกท่านที่สั่งสอน อบรมบ่มนิสัย ศิษย์ได้ก้าวมาอยู่ในสังคมที่มีความแตกต่างมากมาย แต่เพราะมีเกราะป้องกัน (คำสอน คำตักเตือน) จากคุณครูที่หยิบยื่นให้เสมอมา  ศิษย์จึงใช้ชีวิตได้บนพื้นฐานของความดี ไม่ทำให้ตัวเองและคนอื่นเดือดร้อน  ศิษย์ขอเพียงแค่ครูที่รักและเคารพมีเวลาได้พักผ่อนบ้าง  มีความสุขทั้งทางกายและใจ...ระลึกถึงคุณครูเสมอค่ะ... 



ความเห็น (2)

แฮะ แฮะ ครูยังไม่ได้นอนเลย ;)...

ยังมีงานต้องตรวจอีกครับ

ครูขาทำงานหนักและเยอะไปนะค่ะ...พักบ้างนะค่ะ  สุขภาพสำคัญที่สุด หากไม่สบายมา ใครกันจะคอยสอดส่องดูแลศิษย์หอพัก  ลูกศิษย์เป็นห่วงนะค่ะ

ดอกหญ้าน้ำ
เขียนเมื่อ

(54)ได้เวลากลับมาติดตามเรื่องราวของกัลยาณมิตรโกทูโนแล้ว หลังจากหายไปนาน กลับมาพร้อมกับหน้าตาที่แปลกใหม่ของโกทูโน แต่ชอบมากค่ะ ใช้งานง่ายดี



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท