อนุทินล่าสุด


แมงโม่
เขียนเมื่อ

"หากมองดูรอบๆตัวเราแล้ว ยังมีคนที่แย่กว่าเราอีกมากมาย"

Cradit:คิดเอง



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
แมงโม่
เขียนเมื่อ

เกิดอะไรขึ้นงง



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
แมงโม่
เขียนเมื่อ

ทุกวันนี้นักข่าวมืออาชีพแสนสบาย เกาะกระแสอย่างเดียว แต่กระแสดีๆไม่ค่อยจะเป็นข่าว เพราะอะไรก็เป็นธุรกิจกันหมด ขอแค่ให้ได้ข่าว บางทีก็หาสาระไม่ได้เลยก็มี

https://cdn.gotoknow.org/assets/media/files/001/133/886/original_2016-01-23%2011.53.51.jpg" target="_blank">https://cdn.gotoknow.org/assets/media/files/001/133/886/default_2016-01-23%2011.53.51.jpg">

แต่เรื่องสาระดีๆมันไปอยู่ตรงส่วนไหนของหน้าจอทีวี สาระดีๆไปอยู่ช่วงดึก ข่าวไร้สาระมาอยู่หน้าหนึ่ง ข่าวมีสาระต้องคุ้ยหากันตาแทบเหลือก อยากให้ปรับเปลี่ยน การใช้คำที่ให้เกียรติมนุษย์ด้วยกันเท่าเทียมกัน ผมทนไม่ได้ที่หน้าหนึ่งมีแต่ภาพคนเสียชีวิต มีแต่โจรผู้ร้าย อยากจะเห็นสื่อสร้างสาระดีๆมากกว่า หวังว่าคงจะมีสักวัน

ในภาพหน้าปกเขียนว่าสาระ ครับผม



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
แมงโม่
เขียนเมื่อ

คนเดินอิจฉาคนปั่นจักรยาน

คนปั่นจักรยานอิจฉาคนจักรยานมีเกียร์

คนปั่นจักรยานมีเกียร์อิจฉาคนมีจักรยานแพงๆ

คนมีจักรยานแพงๆ อิจฉาคนที่เดิน..แบบช้าๆ อยากปล่อยวางจิตใจ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
แมงโม่
เขียนเมื่อ

ผมดูภาพนี้อยู่นาน เพราะผมคิดว่า เขาสร้างได้ยังไงใครเป็นคนคิดแล้วก็งดงามด้วยนะครับ ที่นี่เป็นประเทศที่วัดกันที่ GDH ไม่ได้วัดกันที่ GDP อย่างประเทศใดๆในโลกใบนี้ เป็นประเทศที่วัดเอาความสุขมวลรวมภายในประเทศ ประเทศเราก็อยากจะให้เป็นแบบนั้นบ้างจัง

ขอบคุณภาพจาก:VISA



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
แมงโม่
เขียนเมื่อ

ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบมอง สิ่งมีชีวิตรอบกาย และสิ่งไม่มีชีวิต ที่มนุษย์ได้สร้างขึ้น ผมเฝ้ามองความแตกต่างของความเป็นอยู่ ผมมองถึงเขาคิดอะไร และเราเอง ตัวผมเองคิดอะไร เรามองเขาพอเขามองเราจะคิดอย่างไร ผมอยากมีความสามารถมองเห็นความคิดของมนุษย์ ที่เดินไปมาขับรถ ไปตามถนนเขากำลังคิดอะไร แต่สำหรับตัวผมเองแล้ว ผมเก็บรายละเอียดริมทาง เก็บไปเรื่อยๆ จนมาเจอสุนัขที่มีเพื่อนมนุษย์ไปสวมเสื้อให้เขา คงจะกลัวว่ามันจะหนาว ผมมองไกลๆ นึกว่าคนแก่กำลังก้มทำอะไรสักอย่างหนึ่ง พอนั่งรถผ่านไปอีกก็มองเห็นชายคนหนึ่งอายุราวๆ 50 สวมรองเท้าบูท เสื้อเก่าๆ กางเกงเก่าๆ กำลังถือไม้กวาดเตรียมทำความสะอาดที่พักที่เอาป้ายผ้าไวนิลมากางปักไม้เป็นเสาทำเหมือนล้อมผ้า แต่ด้านบนโปร่ง ที่พักอยู่ไต้ทางด่วน ติดคลอง ผมมองเห็นสภาพความเป็นอยู่แล้ว้รายังดีกว่าเยอะ ผมยังมีผ้าห่ม มีเสื้อแขนยาว แต่เขาไม่รู้จะมีหรือเปล่าผมก็ไม่รู้ก็ขอคิดในแง่ดีแกคงจะมีเตรียมไว้เพื่อสวมใส่เวลาหน้าหนาวเหมือนกัน ผมนั่งรถผ่านไป จดจำมาเล่าผ่านตัวหนังสือ

แนะนำติชมได้ครับมือใหม่หัดเขียนครับผม น้อมรับคำติชม...ขอบคุณครับ



ความเห็น (1)
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
แมงโม่
เขียนเมื่อ

รถคันนี้แหละครับที่ทำให้ผมประหยัดค่าเดินทางไปวันละ50บาทเลยทีเดียว ระยะทางจากที่พักไปที่ทำงานประมาณราวๆ 1 กม.บางครั้งที่มีธุระก็ไม่ได้ปั่นแต่เมื่อไหร่ที่ปั่นไปทำงานมีตังเหลือติดกระเป๋า50บาททุกวัน วันนี้หนาวๆผมเลยอัดลมเข้าไปเกือบๆ 40 แรงลมยางจักรยาน จะได้เร็วๆหน่อย รู้สึกสนุกดี ครับไม่มีเกียร์ เพิ่มความเร็วโดยสปีดขา คอแห้งเลยครับ

จากหนาวๆมาอุ่นเลย คืนนี้ฝากกันแค่นี้ก่อนครับครูอาจารย์ทุกท่านครับผม ราตรีสวัสดิ์ จะเขียนบันทึกต่อ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
แมงโม่
เขียนเมื่อ

อดใจไม่ได้ทุกทีพอเจอบรรยากาศแบบนี้ต้อง "จก" โทรศัพท์มือถือออกมาถ่าย แชะๆไว้ซะหน่อย ภาพเวลาสวยงามมันเกิดได้ทุกที่ครับหากใจคิดแต่เรื่องขุ่นมัวที่ๆสวยงามมันก็กลายเป็นที่ๆไม่สวยงามเอาเสียเลยใช่ไหมล่ะครับ วันนี้ไปเดินหาอารมณ์พิมพ์อนุทิน หาเท่าไรก็ไม่เจอ มาได้บรรยากาศบนรถสองแถวเลยละเลงเสียเลยครับบ อิอิ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
แมงโม่
เขียนเมื่อ

นอกจากข่าว "ปอ" ดารานักแสดงแล้วเชื่อแน่ว่าคนไทยอีกไม่น้อยที่กล่าวถึงอากาศที่มันเย็นลง ฝนตกด้วย มีคนขับรถสองแถวบ่นฝนตกอย่างเดียวไม่ว่า เอาหนาวมาด้วย แต่คนขับรถสองแถวไม่ยอมใส่เสื้อเเขนยาว แล้วมาบอกว่าหนาวๆ แปลกคนนะครับเดี๋ยวพอร้อนมาก็เอาอีกล่ะ ร้อนฉิบหายไม่รู้จะร้อนไปไหน เป็นแบบนี้กันไหม ผมก็เคยเป็นนะแต่อยากจะเลิกบ่นล่ะ แดดฝนมันเรื่องของธรรมชาติ แต่เรื่องของตัวเรานี่ต้องดูแลให้เที่สุด "คุณดูแลคนในหน้ากระจกดีพอหรือยัง"



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
แมงโม่
เขียนเมื่อ

วันนี้กรุงเทพฝนตกว่าจะออกไปข้างนอกฝนดันมาตกเสีย แต่ยังไงเมื่อตั้งใจไว้แล้วก็ต้องไป ลงมาจากห้องพัก เดินมาขึ้นสองแถว พอขึ้นรถเจอชาวจีนนั่งสองแถวคุยกันเสียงดังมา พอรถจะออกคนจีนสามสี่คนพากันเดินลงจากรถ ทำให้มีที่ว่างมากขึ้น




ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
แมงโม่
เขียนเมื่อ

เมื่อวานตอนกำลังจะกลับห้องน้อยๆ พอเก็บอะไรเสร็จหน้าโต๊ะทำงาน เดินลงมาหน้าร้าน เจ้าของร้านเรียกให้ไปดูช่างงอเหล็กที่หน้าร้าน ผมว่าเขามีความสามารถในการสร้าง "โต๊ะแบบ" เพื่อใช้ในการงอเหล็ก เจ้าของร้านเดินไปพูดคุยทักทายยกนิ้วหัวแม่โป้งให้สุดยอด ทำได้ยังไง ผมมองดูพี่ที่งอเหล็กดูเขามีความสุขมาก พอนึกย้อนไปเมื่อก่อนหากเราเอง ก็เคยทำงานแบบนี้มันช่างเหนื่อยนักกว่าจะได้เงินแต่ละบาท ผมเก็บเอาความคิดนั้นไว้ในใจ แล้วก็กดชัตเตอร์ไว้พร้อมๆส่งแรงใจ ให้พี่เขาทางใจ "สู้ๆนะครับพี่" แล้วผมก็ลากเจ้าจรเข้ออกมาเติมลม ยกมือสวัสดีลาเจ้าของร้าน ติดไฟหน้ารถ ท้ายรถ ปั่นออกมา มุ่งสู่ห้องนอนชายโสด..



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
แมงโม่
เขียนเมื่อ

หลังจากเลิกงานมาปั่นจักรยานมาเรื่อยๆวันนี้วันเสาร์รู้สึกอยากออกกำลังกาย ก็เลยปั่นจักรยานกลับที่พักประมาณ 2 กม.เห็นจะได้เป็นจักรยานตราจรเข้ธรรมดานี่แหละครับไมามีเกียร์ พอมาถึงที่พักจอดรถ ซื้อกับข้าว โทรหาแม่ ที่ ตจว.แม่บอกว่าวันนี้หนาวมาก อยู่ๆก็หนาว แต่ผมมีความเชื่อในเรื่องๆหนึ่งที่ทุกๆปีจังหวัดนครพนมจะมีงานวัดพระธาตุเป็นประจำทุกปี และทุกๆปีพอจะเข้าสู่งานธาตุ ที่บ้านผมเรียกกันแบบนี้ อากาศจะหนาวเย็นลงทุกปีแม้นจะร้อนเพียงใด พอถึงงานธาตุอากาศจะหนาวลงแบบน่าแปลกใจ ...ผมไม่ได้คิดไปเองแต่ผมสัมผัสได้ทุกปีจริงๆ




ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
แมงโม่
เขียนเมื่อ

มีผู้รู้ท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า

ชาวนาเขาเกิดมาเขาก็เห็นแต่ท้องนาต้นข้าว แล้วจะให้เขารวยได้อย่างไร เมื่อเขาไม่ได้เรียนรู้ที่จะรวย หรือสภาพแวดล้อมที่เขาอยู่มันไม่เอื้ออำนวย

แต่คนที่รวยทุกวันนี้เพราะที่ๆเขาเกิดมามีสภาพแวดล้อมที่มีการค้าขายเด็กมันก็เติบโตมาเห็นพ่อแม่ค้าขายก็ได้รับเอาความรู้ว่า การค้าขายมันเป็นอย่างไรต้องแก้ไขอย่างไร

ชาวนาก็เช่นกันเมื่อรู้ว่าช่วงนี้ต้องปล่อยน้ำออกจากนา ต้องใส่ปุ๋ยตอนไหน เก็บเกี่ยวอย่างไรเขารู้ ถึงจะสอนให้คนรวยทำนามันคงอีกนานกว่าจะทำเป็น

งั้นจะสอนให้ชาวนาให้เขาเป็นคนรวยคงยากเพราะเขาไม่มีพื้นเพในด้านค้าขาย ที่บางคนมีได้ก็เพราะได้ไปเห็นแล้วมาลองค้าขาย บางรายก็ปิดไปเพราะพื้นฐานความรู้ไม่มี

งั้นอย่าหวังว่าชาวเกษตรกรจะรวย เพราะอำนาจอยู่ในมือรัฐบาลหมด ชาวสวนไม่มีสิทธิตั้งราคาของสินค่าตัวเองได้ แล้วทำไมโรงงานผลิตสินค้าเกี่ยวกับอาหารมันกำหนดราคาขายเองได้ล่ะ

นี่คือมุมมองในแง่ของพื้นเพวัฒนธรรมประเพณี อย่างไรเราก็เป็นแบบนั้นมันคงยากที่จะเปลี่ยน แต่ถ้ารัฐบาลอยากจะให้เขามีพออยู่พอกินลดต้นทุนราคาสินค้าการเกษตรซิ ทำอย่างไรให้ชาวสวน ชาวนา ชาวไร่พออยู่พอมี และให้มีหนี้ลดน้อยลง อย่างนี้จะดีกว่า ...

นี่คือสิ่งที่เขากล่าวไว้นิดเดียวแต่ผมมาเสริมเติมต่อ..ความรู้ยังด้อยนัก ..ผิดพลาดโปรดชี้แนะครับ

เพื่มเติม.ผมเองก็ได้รับอิทธิพลจากที่พ่อเป็นคนที่ทำงานในสมัชชา อยู่กับนักต่อสู้ จึงมีผู้คนมากมายมาหาพ่อมีหนังสือพิมพ์ มีหนังสือใหม่ๆมีเอกสาร ทำให้ผมได้เห็นอะไรที่ใหม่ ได้อ่านหนังสือพิมพ์ เพราะหนังสือพิมพ์ไม่ค่อยมีหรอกครับในช่วงนั้น จะมีก็แต่ในโรงเรียน ผมจึงมีแนวคิดที่อยากจะศึกษา จึงเป็นผลพลอยได้จากการได้เรียนรู้จากพ่อ ...จนทำให้ผมยังชอบเขียนเรื่องราวเก่าๆ และรักในหนังสือมาก มาจนทุกวันนี้



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
แมงโม่
เขียนเมื่อ

บ่นทุกวันไม่เบื่อบ้างหรือไง

ใจเย็นๆแล้วค่อยๆคิดแล้วให้มันผ่านไปได้ไหม

ผมอยากจะบอกอย่างนี้เมื่อสมองมันเรื่มบอกเราว่าอารมณ์นี้มันมาแล้ว

ต้องระงับมันให้ได้



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
แมงโม่
เขียนเมื่อ

เวลาผมคิดไม่ออกผมต้องเปิดหาไอเดีย เพื่อปูทางความคิดจะได้ต่อเติม แต่งแต้มสีสันได้ผมจะต้องมองภาพจากที่อื่นผมถึงจะมีไอเดียขึ้นมาได้ ผมจะเปิดหาข้อมูลแต่ผมไม่อ่าน ผมจะอ่านแต่ตัวหนังสือเข้มๆ หรือวิธีคิดของคนเขียน ผมมองไปถึงเขากำลังคิดว่าอะไรก่อนตัวหนังสือจะเกิดขึ้นก่อนการพิมพ์ นี่คือแนวคิดของผมเอง บางครั้งผมไปค้นหาตัวเองในตำรา How to เชื่อไหมผมอ่านจบแป๊บเดียว เพราะผมอ่านแต่ตัวหนังสือที่เน้น หนา เอียง ผมจะดูปก และดูคำนิยามด้านหลัง แต่ยังไม่ดูสารบัญ ผมจะสุมเปิดเข้าไปหน้าหนึ่งแล้วกวาดสายตาดูรอบๆก่อนว่าเนื้อหามีอะไรน่าค้นหา มีอะไรที่ตรงกับตัวผมเองบ้าง แล้วผมก็จะอ่านแต่แนวคิดดีๆ ที่มีตัวหนังสือหนาๆ ตัวเอียงๆ แค่นี้ก็จุกประกายแนวคิดของผมได้อย่างเพียงพอไม่ต้องลงลึกมาก และผมก็จะทำแบบนี้กับเล่มอื่นเสมอ แต่ถ้าเจอเรื่องที่ like จริงๆ ผมก็อ่านตั้งแต่สำนักพิมพ์คนทำใครมีส่วนช่วยทำอะไร ใครเป็นเจ้าของผู้ทวนใครเป็นคนเอารูปมาใส่ ผมอ่านจนเจอคำผิด แต่ผมก็ไม่ว่าอะไรถ่าเป็นเราคงผิดมากกว่าเขาเป็นแน่แท้ ผมอ่านแบบนี้อยากดูนามสกุลของคนจัดทำ คนเขียนยังไงก็รู้จักอยู่แล้ว แต่ผมสนใจคนที่มีส่วนร่วมในหนังสือของแต่ละเล่ม เป็นไปได้ไหมให้เครดิตคนที่มีส่วนร่วมใช้หนังสือตัวโตๆ เขาจะได้รู้กันไปเลยว่าเราก็ยังเป็นส่วนหนึ่งในความภูมิใจในหนังสือเล่มนั้นหนังสือขายดีเป็นร้อยเป็นพันรู้จักแต่คนแต่ง แต่คนที่ร่วมด้วยช่วยกันก็เหมือนอยากจะบอกดังๆว่า ฉันนี่แหละเป็นคนทำคลอดหนังสือเล่มนี้ออกมา

ดอกหญ้าแม้จะสวย แต่ก็แพ้ดอกไม้ที่บานสะพรั่ง มันคงมีค่าแค่ดอกหญ้าเล็กๆในหมู่มวลดอกไม้ที่มีคนชื่นชมว่าสวยงาม

เก็บเอาแนวคิดมาผสม.....



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
แมงโม่
เขียนเมื่อ

●มีคนกล่าวไว้ว่า☆☆

●ทำงานอย่าให้โดนแดด

ต้องไปทำงานแต่เช้าๆจะได้ไม่ต้องรีบร้อนเร่งรีบกับเวลาไปทำงาน รถติด

●กินอาหารที่มันอร่อยๆ

ถ้าไม่หิวอย่าไปกินเลย ปล่อยให้ท้องหิว กินอะไรมันก็อร่อยหมด เมื่อหิวขึ้นมา

●บัญชีไม่ต้องทำ

จัดการเรื่องการเงินการบริหารจัดการให้เรียบร้อยอย่าให้จวนตัวแล้วมาทำทีหลัง

●กลับบ้านให้ดึก

มาก่อนกลับหลัง คอยดูเเลความเรียบร้อยทุกสิ่งอย่างในที่ทำงาน แล้วค่อยกลับ

ได้ฟังมาจากผู้รู้...นำมาถ่ายทอด อีกครั้ง..เป็นแนวคิดเล็กๆ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
แมงโม่
เขียนเมื่อ


มีคนกล่าวไว้ว่า

ทำงานอย่าให้โดนแดด

ต้องกินอะไรที่มันอร่อยๆ

บัญชีไม่ต้องทำ

กลับบ้านให้ดึก



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
แมงโม่
เขียนเมื่อ

เมื่อผมพยายามจะบันทึกในอนุทิน

อนุทินผมกลายเป็นบันทึก

ผมจึงย้ายบันทึกออกจากอนุทิน

แล้วมาเขียนอนุทินเพื่อเป็น "บันทึก"

ดึกแล้ว ลมพัดเย็นสบาย พักกาย พักใจ เช้าวันใหม่ขอจงสดใส เช่นทุกวัน



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
แมงโม่
เขียนเมื่อ

ตะวันค่ำลงเวลาก็ 6 โมงครึ่งแล้วรีบจัดแจงโต๊ะทำงานให้เป็นระเบียบจับกระดาษ สมุดบันทึกที่วางอยู่เต็มโต๊ะจัดให้เข้าที่เข้าทาง ปิดคอมพิวเตอร์บอกลาเจ้านายกลับบ้านยกมือสวัสดี เดินสะพายกระเป๋าออกจากร้านที่ทำงาน เดินตรงไปขึ้นวินมอเตอร์ไซ 15 บาท พอลงจากรถเสร็จเดินเข้าไปในห้าง อากาศเย็นสบาย ผมยังนึกอยู่เสมอนะที่มันเย็นสบาย แต่รู้สึกว่าจะไม่ค่อยสบายกันเท่าไหร่ พนักงานยืนรอต้อนรับลูกค้าทั้งวัน ผมว่าเก่งนะพนักงานที่ยืนต้อนรับลูกค้าและพูดๆเสนอขายสินค้าทุกวัน วันๆหนึ่งต้องคอยตอบคำถามลูกค้า ผมไปยืนดูแล้วงานผมสบายกว่านั่งคลิ๊กทั้งวัน แต่ใช้ความคิดสร้สงสรรค์หน่อย พอตากแอร์เดินชมโน่นนี่นั่นเสร็จก็ไม่ได้ซื้ออะไรหรอกครับ งบน้อยก็อดทนกันไปก่อน ของมันไม่หมดหรอกในใจผมคิด วันๆหนึ่งที่ผมออกจากบ้านหรือที่ทำงานผมจะจดจำบรรยากาศนั้นๆ และคิดเป็นเรื่องเป็นราว เหมือนวันนี้ผมเอง จะมาเขียนเรื่อง แม่ค้าร้อยพวงมาลัยขาย ผมเดินลงมาจากBTSเดินลงมามีคนตาบอดมายืนรับบริจาคเงินเพืรอสมทบทุนผมไม่ได้ให้ผมคงไม่ผิดหรอกใช่ไหม ผมก็เดินต่อไป ได้กลิ่นหอมเหมือนกลิ่นดอกมะลิ ใช่เลยครับด้านหน้ามีแม่ค้าขายพวงมาลัยมีตระกร้าหาบมาขายทุกวัน ผมเห็นแล้วผมคิดถึงการหาเงินเลี้ยงชีพ มันก็ต้องอดทน และต้องทำกันต่อไปจะให้ไปทำอย่างอื่นคงจะไม่ถนัด อาชีพร้อยมาลัยจึงเป็นงานหัตถกรรม เป็นงานฝีมือ ที่ทุกวันนี้เด็กๆวัยรุ่นคงจะไม่สนใจ ที่อยากจะมาร้อยมาลัยแล้ว แต่ในสังคมไทยส่วนใหญ่เป็นสังคมพุทธ การบูชาหิ้งพระที่เคยบูชามาแต่โบราณ มาลัยจึงได้ขายอยู่ตลอดเวลา ผมเดินผ่านแม่ค้ามาลัยก็มองไปที่พ่อค้าหนุ่มวัยรุ่นขายขนมครกอยู่ริมฟุตบาท แสงไฟสลัวๆ ก็เป็นการหารายได้เสริทมด้วยความรัก ผมว่าการขายของแบบนี้ยังไม่สะดุดตาผู้เดินผ่านไปมาสักเท่าไร ผมว่าน่าจะมีอะไรที่ทำให้คนที่เดินผ่านไปมาสะดุดตา แล้วหยุดดูและชมสินค้านั้นอย่างสนใจจริงๆ ผมก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยตามประสาของผมพอเดินไปทำธุรเสร็จกลับมาที่ห้างหยอดเหรียญลงบริจาคสมทบทุนเป็นการทำบุญโดยไม่ต้องออกนาม ก่อนจะกลับก็แวะเข้าร้านหนังสือเพิ่มรอยหยักในสมองนิดหน่อย แล้วกลับมาขึ้นรถสองแถวกลับห้อง....



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
แมงโม่
เขียนเมื่อ

การเรียนรู้ทุกที่เป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับชีวิต



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
แมงโม่
เขียนเมื่อ

โชคก็คือตัวเราเอง จะโชคดีหรือโชคร้ายมันก็อยู่ที่ตัวเราเอง

จะโกรธ จะหายโกรธมันก็อยู่ที่ตัวเราเองคนอื่นไม่สามารถที่จะห้ามเราได้นอกจากตัวเราเองเท่านั้น

ทุกวันนี้ผมบอกกับตัวผมเองว่าจะคิดดี จะขอเจอแต่สิ่งดีๆ แล้วจะทำให้ดีที่สุด เรื่องราวดีๆจะได้เป็นของผมเสียที จะไปขอความดีจากใครเขาก็ให้ได้ แต่ถ้าเราเองทำดีเราจะได้มากกว่า เหมือนกับฝากความดีไว้ในธนาคารหรือบันทึกความดีทุกวันๆ ความดีนั้นก็จะเริ่มจากหนึ่ง เป็นสอง เป็นสาม สี่ห้า สิ้นปีเราคงใช้ความดีไม่หมดแน่ๆเพราะหมั่นทำดี เรื่องราวดีๆย่อมเกิดแก่ตัวเราเอง ไม่มีเงินเราก็ทำดีไว้ ไม่มีใช้ก็หาทางดีๆแก้ไข

ผมว่าการทำดีคือหนทางแรกที่จะนำเราไปสู่ความสำเร็จ อย่าลืมลงมือทำล่ะ คิดดี และก็ลงมือทำ พยายามคิดร้ายกับเจ้ากิเลสทำลายได้ทำลายไปเลย

ฝันดีครับ พรุ่งนี้เช้าขอให้พบเจอแต่เรื่องดีๆเข้ามาในชีวิต อย่าลืมคิดดีด้วยนะครับ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
แมงโม่
เขียนเมื่อ

ลลจะคิดจะขีดจะเขียน

จะเรียนจะรู้จะอ่าน

จำทำจะตั้งชชชชใจจะทำทำงาน

จะมีบ้านจะมีรถจะมีเงินทอง

บางครั้งเผลอไปที่สวยๆผมเองก็กลับเศร้าใจ หรือบางครั้งกำลังอยู่ในร้านเสียงดนตรีดังก้องหู ผมกลับนึกถึงใครคนหนึ่งที่อยู่ที่บ้านไม่เคยรับรู้เรื่องราวภายนอกมากนัก แต่ให้ความรัก ให้ความคิด ให้ความอบอุ่นเสมอ วันแล้ววันเล่า ที่หลายๆคนบอกกับเขาว่าไม่มีเวลาโทรหา แต่สำหรับผมก็ผิดที่เผลอสนุกไปโดยที่ยังมีเขาอยู่ที่บ้าน เฝ้าคิดถึงเราตลอดเวลา สวดมนต์วิงวอนขอพระพุทธองค์ทรงปกป้องคุ้มภัย อย่าให้เกิดภัยอันใดมาแผ้วผ่าน หลายๆครั้งที่เราเอง ผมเองสนุกจนลืมคิดว่าเขายังรอเราอยู่เสมอ คุณค่าของความห่วงใยมันช่างเป็นสิ่งมีพลังมากเสียเหลือเกิน ผมยังตอบแทนท่านไม่ถึงครึ่งเลยเป็นเพียงเศษเสี้ยวเท่านั้น

นี่คือส่งที่ผมหยุดคิดในเวลาที่เราได้ไปได้เจอสิ่งที่สวยงาม แต่ท่านได้แค่นึกเอาตามคำพูดที่เราได้บอกท่านเท่านั้นเอง...ฝันดีครับ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
แมงโม่
เขียนเมื่อ

ราตรีสวัสดิ์ครับ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
แมงโม่
เขียนเมื่อ

ทุกวันนี้ชีวิตของเยาวชน กระโดดข้ามชีวิตในวัยของตัวเองเร็วเกินไป ผมคงยังจำได้ถึงแม้ผมจะเป็นคนรุ่นใหม่ แต่ผมชอบเรื่องเก่า มากกว่าเรื่องใหม่ ชอบเขียนจดหมาย ชอบการละเล่นแบบไทยๆ คำว่าเชยมันคงจะใช้ได้ยากสำหรับผมเพราะ สิ่งที่ผ่านมาสิ่งได้เรียนรู้ ผมชอบเรื่องราวเก่าๆชอบมองรถไฟเก่าๆ รถเก่าๆ มันคงจะใช้มานาน ทุกวันนี้ภาพแห่งการละเล่นแบบไทยคงจะหาดูได้แค่หน้าเวที หรือตอนที่ จะจัดแสดงให้แค่ให้ผู้ที่สนใจเข้ามาชมแล้วก็เลิกราไป ผมแค่มองถึงเรื่องราวเก่าที่มันดีกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน มันไม่ใช่สิ่งที่สวยงามแต่มันคือการสมมุติ ว่ามันพัฒนา แต่สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดคือเรื่องราวที่ผ่านมา มันคือภาพที่งดงามสำหรับผม


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
แมงโม่
เขียนเมื่อ

ว๊า แย่จัง ว่าจะเข้ามาเขียนเรื่องราวที่อยู่ในใจ มาเจอการปรับปรุง ที่ปรับเปลี่ยนเพื่อความสะดวกในการใช้งานที่ง่ายขึ้น รูปแบบน่าสนใจใช้งานง่ายขึ้น ขอชื่นชม ครับ ปรบมือดังๆให้เลยครับผม


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท