ดอกไม้


นิทานของฉัน

dhuenram
เขียนเมื่อ
2,713
1
4
pk
เขียนเมื่อ
                                     ร้อนกาย อย่าร้อนใจ

ปัจจุบันสภาพภูมิอากาศในแต่ละส่วนของประเทศไทย มีอุณหภูมิสูงถึง 40 องศาเซลเซียส ซึ่งทำให้คนส่วนใหญ่หาวิธีคลายร้อนให้กับตนเอง เพราะช่วงฤดูร้อนทำให้เรามีอารมณ์หงุดหงิด แล้วก็มีข่าวมากมายที่เกิดจากความร้อน เช่น ข่าวทะเลาวิวาทหรือยิงกันเพราะบันดาลโทสะจากคำพูด หรือข่าวคนขับรถเมล์ในกรุงเทพฯ ลงจากรถเมล์เพราะผู้โดยสารกดกริ่ง 2 ครั้ง แต่ไม่มีใครลงจากรถ เขาก็เลยถามผู้โดยสารว่า "ถ้าไม่มีใครลง ผมจะลงเอง" แล้วเขาก็ลงจากรถไป ทิ้งให้ผู้โดยสารนั่งอยู่บนรถต่างก็ต่างงงไปตามๆกัน

จากสภาพอากาศที่ร้อนเรามาดูวิธีการคลายร้อนกันดีกว่า

1.เดินเล่นในห้างสรรพสินค้า ได้รับแอร์โดยไม่ต้องเปิดแอร์ที่บ้านเป็นการประหยัดค่าไฟ 2.ดูหนังสักเรื่องก็เป็นการผ่อนคลายและเย็นสบายอีกด้วย 3.เข้าห้องสมุดนั่งอ่านหนังสือรับแอร์เย็นๆ 4.ไปนั่งเล่นพักผ่อนใต้ต้นไม้ตามสวนสาธารณะ 5.ไปเที่ยวน้ำตกเล่นน้ำให้ชื่นใจ 6.เข้าวัดไปทำบุญเย็นกาย เย็นใจ 7.อาบน้ำบ่อยๆ นอนแช่น้ำคลายร้อนแล้วก็ทาแป้งเย็น 8.ดื่มน้ำหวานๆเย็นๆ 9.ทานไอศกรีมหรือหวานเย็นให้ชุ่มคอ 10.ใช้น้ำฉีดรอบๆบริเวณบ้านเพื่อลดอุณหภูมิ 11.ติดสปริงเกอร์ที่หลังคาบ้าน อุณหภูมิในบ้านจะได้ลดลง 12.ใส่เสื้อผ้าที่ทำจากใยธรรมชาติ งดผ้าที่ทำจากใยสังเคราะห์ เหล่านี้เป็นวิธีการคลายร้อนที่เราทุกคนสามารถทำได้ หรือใครมีวิธีอื่นก็แนะนำได้นะ เพราะหน้าร้อนนี้ "ร้อนกาย อย่าร้อนใจ"

8
1
ครูกลางคลอง 27
เขียนเมื่อ

คนไทยร่วมรักษ์ภาษา

"ในโลกนี้มีอะไรเป็นไทยแท้ ของไทยแน่นั้นหรือคือภาษา 

ทั้งคนมี คนจน แต่ต้นมา      ใช้ภาษาไทยทั่วทุกตัวตน"

จากบทกลอนนี้ เป็นสิ่งยืนยันได้ว่าภาษาไทยของเรานั้นมีคุณค่าและเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ ภาษาไทยเป็นมรดกตกทอดของบรรพบุรุษมาสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน  แต่เราทุกคนจะพบว่าในปัจจุบัน ภาษาไทยจะด้อยคุณค่าและมีความสำคัญน้อยลง ด้วยเหตุผลหลายประการ ไม่ว่าในเรื่องของวัฒนธรรมทางภาษาที่มาจากต่างประเทศ การลอกเลียนแบบค่านิยมต่างชาติ ทำให้เกิดคำหรือภาษาในกลุ่มคนที่เราเรียกว้า วัยรุ่น

ในปัจจุบันประเทศไทยของเรามีเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องมากมาย เป็นเครื่องอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน และสิ่งหนึ่งที่สำคัญ เทคโนโลยีกำลังกลืนภาษาไทยของเราโดยจะสังเกตได้จากพฤติกรรมการใช้ภาษาไทยของวัยรุ่น คือ ใช้ภาษาผิดเพี้ยนไปจากความถูกต้อง ไม่มีความไพเราะ สละสลวย มีแต่ความสนุก คะนองปาก เช่น "ม่ายเปนราย"(ไม่เป็นไร) "ไปเดก่า" ไปดีกว่า)  "ทามราย" (ทำอะไีร) "คริ คริ" หรือ พูดภาษาไทยปนกับภาษาอังกฤษ   "ฉันไม่มาย" พูดภาษาไทยออกเสียงตัวสะกดเป็นภาษาอังกฤษ (ส เป็นเสียง S) เราจะเห็นได้ว่า พฤติกรรมเหล่านี้ เป็นการลดคุณค่าและความสำคัญของภาษาไทย ไม่น้อยทีเดียว

  จากที่กล่าวมานั้นจะเห็นได้ว่า ภาษาไทยมีความสำคัญและคุณค่าน้อยลง ดังนั้นเราจะนิ่งเฉยคงเป็นไปไม่ได้ด้วยการที่เราเกิดมาเป็นคนไทยเราต้องรักษาและสืบทอดมรดกอันล้ำค่า นี้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะผู้ที่มีอาชีพเป็นครูผู้สอน ไม่ว่าจะเอกใดสาขาใด ก็ควรร่วมมือร่วมใจกันอนุรักษ์ภาษาไทยโดยการปลูกฝังให้เยาวชนหรือลูกศิษย์ของเราใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้องและสิ่งที่สำคัญที่สุด ตัวครูผู้สอนต้องเป็นแบบอย่างที่ดีเสียก่อน

          "เราพลังชาวไทยร่วมใจกัน   สู่ความมุ่งมั้นอนุรักษ์ภาษา 

        สืบทอดมรดกไทยตามเจตนา  ให้ประชาเขารู้สู่สากล"

5
0
ครูคานหาม
เขียนเมื่อ

"แรงบันดาลใจจากภูกระดึง"

          ในชีวิตที่ผ่านมาได้ไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ  ในต่างจังหวัด มีสถานที่ให้ได้ท่องเที่ยวมากมายที่มีความสวยงามของธรรมชาติ ระยะทาง ลักษณะภูมิอากาศที่แตกต่างกันไป ซึ่งก็มีความประทับใจในความทรงจำที่ต่างกัน

          สถานที่แห่งหนึ่งที่ยังคงประทับใจอยู่ในความทรงจำของการท่องเที่ยว ก็คือ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ที่จังหวัดเลย สถานที่แห่งนี้มีนักท่องเที่ยวมากมายในช่วงฤดูหนาวของทุกปี  ความประทับใจเริ่มต้นตั้งแต่ออกเดินทางจนถึงบริเวณจุดลงทะเบียนนักท่องเที่ยว และก้าวแรกที่มองเห็นด้านหน้า คือ ความสูงชันของภูเขา เพียงแค่นี้ก็ทำให้เพื่อนหลายคนเริ่มคิดว่า "เราจะกลับหรือเราจะสู้" แต่เพื่อนบางคนก็พูดว่า เมื่อมาถึงแล้วก็ต้องสู้ เพื่อไปให้ถึงจุดที่สูงที่สุดเหมือนกับคนอื่นที่กำลังเดินทางไปพร้อมกับพวกเรา ระหว่างทางก็มองดูธรรมชาติที่สวยงาม ที่ต้องบอกว่ายิ่งสูงก็ยิ่งสวย ที่สำคัญพวกเราได้มองเห็นชาวบ้านที่รับจ้างหาบสิ่งของต่างๆทั้งของนักท่องเที่ยวและแม่ค้าที่ต้องการจะขึ้นไปบนจุดที่สูงที่สุดของภูกระดึง ที่เขาเรียกกันว่า ลูกหาบ พวกเขาทำงานด้วยความยากลำบากด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย ทำให้พวกเรามีกำลังใจเดินทางจนถึงที่หมายด้วยความสำเร็จ อดทน เช่นเดียวกันกับ ลูกหาบ

          ซึ่งการทำงานที่สำเร็จของลูกหาบก็คือ ขนหาบสิ่งของสัมภาระนานาชนิดไปส่งนักท่องเที่ยวและแม่ค้าได้สำเร็จ เหตุการณ์เรื่องราวความประทับใจทั้งหมดที่เกิดขึ้นทำให้มองกับมาที่ตัวเองว่า "แม้เราจะทำงานยากเย็นแสนเข็ญแค่ไหน จะสำเร็จได้หากมีความอดทนต่ออุปสรรค เช่นเดียวกับลูกหาบ"

9
3
นางสาว สุวรรณา บำรุงจิตต์
เขียนเมื่อ

ทุเรียนของใคร?????บางคน เมื่อเอ่ยถึงทุเรียน มีคนหลายคนไม่ค่อยจะชื่นชอบกับมันซักเท่าไร ด้วยเหตุผลที่ว่า กลิ่นเหม็นบ้าง แพ้มันบ้าง ทานแล้วอ้วน เดี๋ยวเกิดโรคนั้นโรคนี้ ........ นั่นก็ขึ้นอยู่กับเหตุและผลของแต่ละคน .....แต่สำหรับคนอีกจำพวกหนึ่งชื่นชอบมันเป็นพิเศษ คิดดูเล่า จะเล่าให้ฟัง ขนาดมันมีหนาม ต้นอยู่ป่า ยอดอยู่สูง ราคาก็แพง แกะก็ยาก คนเรายังสรรหามาทานกันได้ ทุเรียนชอบออกหน้าร้อนบางคนทานแล้วจุกเสียดแน่น ตายบ้างก็มี แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นเพราะคนทานจะต้องระมัดระวัง.......ไม่ใช่สักแต่ทานจึงลืมว่าควรปฏิบัติอย่างไร...... ประโยชน์ของทุเรียนมีดังต่อไปนี้
เนื้อทุเรียน - รสหวานร้อน ทำให้เกิดความร้อน แก้โรคผิวหนัง ทำให้ฝี-หนอง แห้ง เนื้อทุเรียนมีฤทธิ์ขับพยาธิ
เปลือกหนามทุเรียน - รสเฝื่อน นำมาสับแช่ในน้ำปูนใสใช้ชะล้างแผลที่เกิดจากน้ำเหลืองเสีย แผลพุพอง หรือนำมาเผาทำถ่าน บดจนเป็นผง คลุกในน้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันงา ลดความบวมพองจากคางทูม และเผาเอาควันไล่ยุงและแมลง
ใบทุเรียน - รสเย็นและเฝื่อน ใช้ต้มน้ำอาบแก้ไข้ แก้ดีซ่านและเป็นส่วนผสมในยาขับพยาธิ
รากจากต้นทุเรียน – ตัดเป็นข้อ ๆ ต้มให้เดือด ดื่มบรรเทาอาการไข้และรักษาอาการท้องร่วง
แต่สำหรับผู้เขียน ชอบทานแบบห่ามๆๆๆๆๆๆ กลิ่นไม่ฉุนนัก จะเลือกทานเฉพาะหมอนทองเท่านั้น (แปรรูปก็ไม่ชอบทานน่ะ) ถึงจะมีราคาแพงก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะนานๆทีจะได้ซื้อทานไม่ใช่มีทุกหน้าตอนก็ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 60-70 บาท (80 บาท ก็ซื้อทานมาแล้ว)

6
1
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท