จากซางคำถึงหมาน้อย ( 10 )


ถวายสังฆทาน โดยใช้ปัญญา

      หมาน้อยเพื่อนรัก......                  

                      ตอนแรกว่าจะเล่าเรื่องตลาดนัดความรู้ศูนย์อนามัยที่ 5 ต่อ    แต่พอดีมีเหตุการณ์ที่อยากให้นายรับรู้      วันนี้เป็นวันวิสาขบูชา  ก็เป็นวันสำคัญของพุทธศาสนิกชนทุกคนที่ต้องไปทำบุญ     เราก็เช่นกัน .... นายก็รู้ข้าราชการแบบเรา โอกาสไปทำบุญมีน้อยมากยกเว้นวันสำคัญทางพุทธศาสนาหรือวันสำคัญในชีวิต เช่นวันเกิด   เราเตรียมตัวตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็น ไปตลาด  หาซื้อของนำไปถวายที่วัด   และทำกับข้าวไปถวายด้วย ซึ่งก็ได้ไก่บ้านมาตัวหนึ่ง มาต้มยำและได้ผลไม้ ดอกไม้ที่จะนำไปบูชา  ตอนเช้าตื่นตี 5 ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ก็มาหุงข้าว ทำกับข้าว และเตรียมตัวไปทำบุญที่วัด                   

                   หมาน้อยเพื่อนรัก.... วัดที่เราไปทำบุญอยู่ใกล้กับที่ทำงาน ชื่อ วัดหนองรังกา   เจ้าอาวาสเป็นนักปฏิบัติและนักพัฒนา จบปริญญาเอกจากประเทศอินเดีย   เราต้องขอโทษนายด้วยที่จำชื่อท่านไม่ได้    วันนี้มีคนมาทำบุญที่วัดรวมทั้งลูกเล็กเด็กแดงด้วยน่าจะมากกว่า 100 คน  หลังจากที่ท่านได้ดำเนินการตามศาสนกิจไปช่วงหนึ่งแล้ว  ท่านจะให้ฆราวาสทุกคนนั่งสมาธิแล้วท่านก็จะสอนถึงวิธีการปฏิบัติตนในชีวิตประจำวันอย่างไรให้มีความสุข ซึ่งตรงนี้เราก็คิดว่าคงมีหลายวัดที่มีกิจกรรมแบบนี้  แต่ก่อนที่จะกรวดน้ำก็มีฆราวาสประมาณ 7-8 คนต้องการถวายสังฆทาน  ท่านก็รับและให้ศีลให้พรบุคคลเหล่านั้น  เสร็จแล้วท่านก็ขออนุญาตพวกเราขอใช้เวลาไม่มากในการที่ จะทำให้พวกเราเกิดปัญญา  ท่านได้ถามฆราวาสที่ถวายสังฆทานว่าเคยแกะดูถังสังฆทานไหมว่าภายในถังประกอบไปด้วยอะไรบ้าง ทุกคนก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่เคย เพราะจะซื้อที่เขาทำไว้สำเร็จแล้ว มันง่ายดี สะดวกไม่ต้องไปหาซื้อของทีละชิ้นๆแล้วมาบรรจุ    ท่านก็เลยขอให้ฆราวาสที่ถวายสังฆทานทุกคนช่วยแกะถังสังฆทานของแต่ละคน แล้วดูว่ามีของอะไรบ้าง   มีของชิ้นไหนที่พระภิกษุสามารถนำไปใช้ได้บ้าง  คุ้มค่ากับเงินของพวกเราหรือปล่าว ของบางอย่างก็หมดอายุแล้ว บางชิ้นพระภิกษุไม่จำเป็นต้องใช้เลย   สุดท้ายท่านก็สรุปให้พวกเราฟังว่า ของที่ควรจะนำมาถวายพระควรเป็นของที่สามารถใช้ได้เลย เช่นสบู่ น้ำยาล้างจาน ผงซักฟอก เป็นต้น  ท่านบอกว่าสิ่งที่แสดงให้ดูในวันนี้อยากให้ พวกเราถวายสังฆทานโดยใช้ปัญญา แต่ถึงพวกเราจะทำบุญแบบไหนถ้าเป็นความตั้งใจของพวกเรา เราก็จะได้บุญทั้งนั้น แต่อยากให้มองอีกมุมหนึ่งว่าสิ่งที่เราจะนำไปมอบให้ใคร คนที่เขาได้รับของจากเราเขาได้นำของเหล่านั้นไปใช้ประโยชน์ได้หรือปล่าว      คุ้มค่ากับเงินที่เราสูญเสียไปหรือปล่าว  

                     นี่แหละ.... คือสิ่งที่เราอยากเล่าให้นายฟัง  การจัดการความรู้โดยพระสงฆ์    ตามความคิดของเรา  มันเยี่ยมมากเลย ทำให้เรามองย้อนถึงตัวเองเวลาทำอะไร มักจะมุ่งเน้นทำให้งานสำเร็จ  แต่ไม่เคยมองถึงผลลัพธ์จริงๆเลยว่า  งานที่เราทำเกิดประโยชน์แก่หน่วยงานในด้านใดบ้าง ต่อไปคงต้องใช้ปัญญาที่ได้จากท่านพระอาจารย์มาเตือนตนตลอดก่อนวางแผนทำงาน

                        แค่นี้ก่อนนะเพื่อน... คืนนี้อย่าลืมไปเวียนเทียนที่วัดหล่ะ.... สำหรับเราไม่พลาดอยู่แล้ว ยกเว้นฝนฟ้าไม่เป็นใจเพราะช่วงนี้ฝนชอบตกตอนเย็น     ถ้านายมีเรื่องเด็ดๆ   อย่าลืมมาเล่าให้เราฟังบ้างนะ ...........

                                                                            .......รักจ๊ะ   ......

                                                                                  ซางคำ    

หมายเลขบันทึก: 99811เขียนเมื่อ 31 พฤษภาคม 2007 11:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:49 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท