พวกเราคงจะสงสัยว่า ทำไมคนเราทุกวันนี้ถึงได้มีโรคภัยไข้เจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ วันนี้มีข่าวดีจากอาจารย์ดอกเตอร์ฟิลิป บี. มอลเลนมาฝากครับ...
ท่านอาจารย์ดอกเตอร์ฟิลิป บี. มอลเลน แห่งมหาวิทยาลัยเวคฟอเรสท์ นอร์ธแคโรไลนา สหรัฐฯ ทำการทบทวนการศึกษาวิจัย 7 การศึกษาใหญ่ ซึ่งรวมกลุ่มตัวอย่างมากกว่า 285,000 คน ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ติดตามไป 6-15 ปี
ผลศึกษาสนับสนุนสมมติฐานที่ว่า โรคภัยไข้เจ็บของคนเราทุกวันนี้ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากการกินข้าวขาว แป้ง และน้ำตาลมากเกิน
กลุ่มตัวอย่างที่กินธัญพืช(ข้าว)ไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ฯลฯ อย่างน้อยวันละ 2.5 ส่วนบริโภค (servings / Sv) หรือประมาณ 2.5 ทัพพี มีส่วนลดโรคระบบหัวใจ-การไหลเวียนเลือด เช่น หัวใจวาย ฯลฯ ลงได้เกือบ 1 ใน 4
นอกจากนั้นยังลดโรคอ้วน โรคเส้นเลือดหัวใจอุดตันกำเริบ (heart attack) โรคเส้นเลือดสมองแตก-ตีบตัน (stroke) อัตราการเสียชีวิตจากระบบหัวใจ-การไหลเวียนเลือดล้มเหลว และโรคอ้วนไปพร้อมๆ กัน
ปัจจุบันคนอเมริกามากกว่า 40% ยอมรับว่า ไม่เคยกินธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ขนมปังโฮลวีท(สีรำ) ฯลฯ เลย (คนไทยคงจะกินข้าวกล้องน้อยกว่านี้ – ผู้เขียน)
อาจารย์มอลเลนกล่าวว่า ข้าวเป็นพืชมหัศจรรย์ที่มีองค์ประกอบสำคัญ 3 ส่วนได้แก่ รำข้าว (bran) จมูกข้าว (germ) และข้าว (endosperm)
รำข้าวและจมูกข้าวมีเส้นใย(ไฟเบอร์) แร่ธาตุ วิตะมิน และสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก โดยเฉพาะจมูกข้าวนับได้ว่า เป็นยอด "อาหารเสริม" ของโลกทีเดียว
ข้าวขาว แป้งข้าว และขนมปังขาวจะไม่มีส่วนรำข้าวและจมูกข้าว เนื่องจากถูกขัดสีออกไป ทำให้คนเราได้รับแป้งคราวละมากเกิน ส่งผลให้น้ำตาลในเลือดขึ้นเร็ว ตับอ่อนทำงานหนัก เนื่องจากต้องหลั่งอินซูลินออกมาเพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือดคราวละมากๆ
การหลั่งอินซูลินออกมาคราวละมากๆ ส่งผลทำให้น้ำตาลเข้าเซลล์เร็ว เกิดไขมันสะสมทั่วร่างกาย สะสมในอวัยวะภายใน เช่น ตับ(ทำให้ตับมีไขมันสูง เสี่ยงตับอักเสบ และตับแข็ง) ฯลฯ สร้างไขมันในเลือด(ไตรกลีเซอไรด์) ทำให้ไขมันในเลือดสูง และสะสมในช่องท้อง(ทำให้เกิดภาวะอ้วนลงพุง)
พิษร้ายจากข้าวขาว แป้ง และน้ำตาลอาจตามมาด้วยโรคอื่นๆ เช่น เบาหวาน ความดันเลือดสูง ไขมันในเลือด(โคเลสเตอรอล)สูงในที่สุด
ตรงกันข้าม... ข้าวกล้องทำหน้าที่คล้ายกับอะไรบ้าง
ข้าวกล้องทำหน้าที่คล้ายๆ แคปซูลยาที่ปล่อยยาออกช้าๆ (slow-release capsule) หรือฟองน้ำ (sponge) ที่ชะลอการย่อยให้ช้าลง ดูดซับน้ำตาลจากการย่อยไว้ และค่อยๆ ปล่อยเข้าไปในเลือดช้าๆ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นช้าๆ และเพิ่มขึ้นนาน
ข้าวกล้องทำหน้าที่คล้ายๆ เขื่อนที่กั้นน้ำไว้ยามน้ำบ่า (หลังอาหาร) ทำให้น้ำตาลในเลือดไม่เพิ่มขึ้นเร็ว และคล้ายเขื่อนที่ปล่อยน้ำออกมายามน้ำแล้ง ทำให้น้ำตาลในเลือดไม่ลดลงเร็ว และคงระดับอยู่ได้นานอย่างพอดี
การกินข้าวกล้องอย่างน้อยวันละ 2.5 ทัพพี มีส่วนช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดระดับโคเลสเตอรอล ลดระดับอินซูลิน สารต้านการอักเสบในข้าวมีส่วนช่วยลดการอักเสบ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เส้นเลือดเสื่อมเร็ว และช่วยให้เส้นเลือดทำงาน(ขยายตัว)ได้ดี ลดความเสี่ยงต่อโรคเส้นเลือดอุดตัน
ขอเรียนเสนอให้ท่านผู้อ่านลองแช่น้ำข้าวกล้องค้างคืนไว้ มีส่วนช่วยให้ข้าวกล้องเกิดกระบวนการ "งอก" คล้ายข้าวสาร จะทำให้มีวิตะมินเพิ่มขึ้น เช่น วิตะมินอี ฯลฯ เกิดสารที่ช่วยให้ระบบประสาททำงานได้ดีขึ้น เช่น คลายเครียด ฯลฯ
ข้าวแบบนี้มีจำหน่ายในญี่ปุ่นเรียกว่า "ข้าวกล้องงอก (germinated brown rice / GBR) " ใช้เป็นอาหารเสริมได้ดี และทำได้เองถ้ามีเวลาน้อย... การหุงข้าวโดยเติมน้ำมากหน่อยช่วยให้ข้าวกล้องนุ่มลงได้ การผสมข้าวกล้องกับข้าวขาวในช่วงแรก และค่อยๆ เพิ่มสัดส่วนข้าวกล้องทีละน้อยก็ช่วยได้มาก เมื่อคุ้นเคยแล้ว ค่อยกินข้าวกล้อง 100%
การพกข้าวกล้องกับผักที่ชอบไปกินร่วมกับกับข้าวซื้อในมื้อเที่ยงเป็นวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้กินข้าวกล้องได้อย่างน้อยวันละ 2.5 ทัพพีเหมือนกัน
ถ้าไม่ชอบข้าวกล้องจริงๆ... การกินข้าวโอ๊ตเสริม หรือการเติมจมูกข้าวสาลี (wheat germ) เสริมอย่างน้อยวันละ 2-3 ช้อนโต๊ะก็ช่วยได้มาก
ถ้าต้องการลดความอ้วน...
เมืองไทยเราผลิตข้าวกล้องได้ปีละมากๆ ถ้ามีการผลิต "จมูกข้าวอนามัย" และ "รำข้าวอนามัย" จำหน่ายเป็นอาหารเสริมได้น่าจะดีครับ...
ขอแนะนำ...
แหล่งที่มา:
ขอบพระคุณอาจารย์วัลลภมากครับ
ข้าวกล้อง น่าจะถูกเปลี่ยนชื่อเป็น ข้าวทิพย์ หรือ ข้าวอายุวัฒนะ นะครับ
หมอสุข
ขอขอบพระคุณอาจารย์หมอสุข...
ทีนี้ถ้าพิจารณาว่า คนอเมริกากินธัญพืชไม่ขัดสี (ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท ข้าวโอ๊ต ฯลฯ) กว่า 40% แล้ว
คนไทยเราเรียกข้าวที่หุงสุกแล้วว่าข้าวสวย อาจเป็นอีกประเด็นหนึ่ง ที่คนไทยผูกประเด็นของข้าวหุงสุก กับ ข้าวสวยเข้าด้วยกันว่า จะรับประทานข้าวสุก ต้องเป็นข้าวที่ขาวสวย
หมอสุข
สวัสดีค่ะ
ที่บ้านทานข้าวกล้องมานาน อ่านแล้ว ดีใจ ที่มาถูกทางค่ะ
ขอขอบพระคุณอาจารย์หมอสุข...
บางทีคนที่รณรงค์เรื่องข้าวกล้องอาจจะต้องหาคำใหม่ขึ้นมา เพื่อสร้างการยอมรับข้าวกล้องก็เป็นได้...
ขอขอบคุณอาจารย์ sasinanda...
เมืองไทยมีของดีอยู่แล้ว
ส่วนใหญ่เป็นคนต่างจังหวัดค่ะ คนกรุงเทพ และผู้รักสุขภาพไม่ว่าอยู่เมืองไหน จะทานข้าวกล้องค่ะ
ขอขอบคุณอาจารย์ sasinanda...
ปรากฏการณ์นี้คงจะคล้ายกับ "ตลาดมังสวิรัติ" ซึ่งจะเกิดขึ้นเต็มที่เมื่อเมืองใหญ่ขึ้น หรือคนมีการศึกษามากขึ้น