โครงการจัดทำแผนที่เดินทางและการสร้างเครือข่ายเศรษฐกิจพอเพียงระหว่างประเทศ


เป็นการค้นหาจุดร่วม การวิเคราะห์เปรียบเทียบในเชิงวิชาการ การเผยแพร่เพื่อสร้างความรู้ความ เข้าใจ ตลอดจนการสานเครือข่ายระหว่างประเทศเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนรถยนต์ประเทศต่าง ๆ เหล่านี้ ให้ไปสู่จุดหมายแห่งเดียวกัน เป็นจุดหมายที่มีความสมดุล พร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลง และก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์ บนถนนแห่งความพอเพียงเส้นนี้นั่นเอง

สถาบันการจัดการเพื่อชนบทและสังคม ร่วมกับ สกว. ระดมสมอง จัดทำ Road Map เศรษฐกิจพอเพียง เพื่อเป็นแนวทางการประยุกต์ใช้เศรษฐกิจพอเพียง สู่การกำหนดนโยบายเศรษฐกิจระดับชาติ ที่ประชุม เสนอจัดตั้งองค์การมหาชนเพื่อเป็นเจ้าภาพในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงอย่างต่อเนื่องและประสานงานกับหลายภาคส่วน ตลอดจนการกำหนดหลักสูตรเศรษฐกิจพอเพียง เน้นการปฏิบัติ    เปลี่ยนเป้าหมายการศึกษาเป็นการศึกษาเพื่อวิถีชีวิต ขณะเดียวกัน เร่งสร้างเครือข่ายเศรษฐกิจพอเพียงระหว่างประเทศ พร้อมกันไป หวังผลักดันสู่เศรษฐกิจทางเลือก แพร่หลายทั่วโลก

*****************   

เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม  2550 สถาบันการจัดการเพื่อชนบทและสังคม มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย  (สกว.)      มีการระดมสมอง ครั้งแรก เพื่อจัดทำแผนที่เดินทางเศรษฐกิจพอเพียง (Road Map) และการสร้าง     เครือข่ายเศรษฐกิจพอเพียงระหว่างประเทศ โดยผู้เข้าร่วม ประกอบด้วยตัวแทนหน่วยงานภาครัฐ       เอกชน  นักวิชาการ  ตัวแทนองค์กรอิสระ และภาคประชาสังคม  ประมาณ  110  คน

ศ.ดร.อภิชัย พันธเสน  ผู้อำนวยการสถาบันการจัดการเพื่อชนบทและสังคมกล่าวถึง             วัตถุประสงค์ และเป้าหมาย ในการจัดทำแผนที่เดินทางเศรษฐกิจพอเพียงว่า  ปัจจุบัน ยังไม่มีความ     ชัดเจนว่าสถานภาพของประเทศไทย จะพัฒนาไปสู่ทิศทางการเป็นเศรษฐกิจพอเพียงโดยมีเป้าหมายในระดับต่าง ๆ ณ จุดใด และขณะนี้ระดับความพอเพียงของประเทศอยู่ ณ จุดใด  หากจะก้าวต่อไปควรจะทำอย่างไร  เนื่องจากในปัจจุบัน ถึงแม้จะมีการกำหนดทิศทางการพัฒนาประเทศในสู่แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง แต่นโยบายดังกล่าวเป็นการดำเนินการที่ขาดขั้นตอนที่ชัดเจน  เป็นต้นว่า   ยังไม่เคยมีการตั้ง  คำถามว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่เป็นอุปสรรค หรือข้อท้าทายที่สำคัญในการพัฒนาประเทศให้ไปสู่ทิศทางเศรษฐกิจพอเพียงอย่างมีขั้นตอน อีกทั้งปัจจัยที่มีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยให้เกิดผลสำเร็จ (Critical success factors) มีอะไรบ้าง เนื่องจาก บุคลากรภาครัฐบางส่วน อาจยังไม่เข้าใจความหมายและเป้าหมายของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงดีพอ   นอกจากนี้ยังเกิดความสับสนจาก กรณี ที่มีผู้ไม่ได้ศึกษาและไม่  เข้าใจ มีการกล่าวโจมตีว่าเศรษฐกิจพอเพียงเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาในกระแสโลกาภิวัตน์  ซึ่ง     ตรงกันข้ามกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏในเป้าหมายของการพัฒนาตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอย่างสิ้นเชิง

ทั้งนี้  เป้าหมายของเศรษฐกิจพอเพียง ระบุชัด ว่า เพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์และ เพื่อให้พร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลง ยิ่งไปกว่านั้น ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงยังให้คำนึงถึงการสร้างระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอสมควรต่อการเปลี่ยนแปลงในกระแสโลกาภิวัตน์ เพื่อมิให้เป็นผลร้ายต่อเศรษฐกิจฐานรากในประเทศ   ด้วยเหตุนี้ ประเทศไทยจึงจำเป็นจะต้องมียุทธศาสตร์ที่ดี มีแผนที่เดินทาง (road map) ที่ชัดเจนเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการดำเนินนโยบาย   พร้อมกับการสร้างเครือข่ายและความเข้าใจระหว่างประเทศ  

สำหรับการจัดทำแผนที่เดินทาง จะมีการจัดประชุมระดมสมอง  3  ครั้ง  และมีทีมวิชาการที่  ทำวิจัยเพื่อสนับสนุนข้อมูลในการระดมสมอง   แผนที่เดินทางจะบอกแนวทางและเป้าหมายเศรษฐกิจพอเพียงในระดับประเทศ  ระบุวิสัยทัศน์และนำเสนอจังหวะก้าวใน 5 ปี ซึ่งข้อเสนออาจเป็นการปรับเปลี่ยนกฎระเบียบ กติกา  การจัดการความรู้และข้อมูล การจัดการระบบงบประมาณและการกระจายอำนาจ  องค์กรที่มีส่วนร่วม  การสร้างเครือข่ายความร่วมมือ   และระบุถึงปัจจัยที่มีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยให้เกิดผลสำเร็จ (critical success factors) ในแต่ละด้าน  โดยจะมีการจัดลำดับความสำคัญ  มีข้อเสนอที่เป็นรูปธรรม สามารถปฏิบัติได้เป็นขั้นตอน  เพื่อช่วยให้หน่วยงานกำหนดยุทธศาสตร์ระดับประเทศ หน่วยงานปฏิบัติอื่น ๆ  และภาคประชาสังคม มีความเข้าใจและเห็นแนวทางพัฒนาประเทศที่ชัดเจน พร้อมจะดำเนินงานพัฒนาไปในแนวทางเดียวกัน

ขณะที่ ดร.สุเมธ  ตันติเวชกุล   ที่ปรึกษาโครงการจัดทำแผนที่เดินทาง กล่าวว่า เป้าหมายใน การจัดทำแผนที่เดินทางเศรษฐกิจพอเพียง  เพื่อเป็นเครื่องนำทางให้กับประเทศไทยสามารถโลดแล่นบนถนนโลกได้อย่างมั่นคงปลอดภัย โดยเน้นให้เห็นว่า บนถนนสายนี้  ไม่ได้มีรถยนต์ประเทศไทยเพียงคันเดียวที่แล่นอยู่ แต่ยังมีรถยนต์อีกหลายคัน กำลังวิ่งไปในทางเดียวกัน เพียงแต่มีแผนที่ประจำรถ กันคนละภาษา  ซึ่งหมายความว่า ประเทศอื่น ๆ  ในโลกที่กำลังแล่นอยู่ในทิศทางนี้ ก็มีแผนที่เดินทางที่สอดคล้องกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเช่นกัน เพียงแต่ไม่ได้เรียกว่าเศรษฐกิจพอเพียงเหมือนประเทศไทย

ฉะนั้น โครงการจัดทำแผนที่เดินทางและการสร้างเครือข่ายเศรษฐกิจพอเพียงระหว่างประเทศ จึงเป็นการค้นหาจุดร่วม  การวิเคราะห์เปรียบเทียบในเชิงวิชาการ การเผยแพร่เพื่อสร้างความรู้ความ   เข้าใจ ตลอดจนการสานเครือข่ายระหว่างประเทศเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนรถยนต์ประเทศต่าง ๆ เหล่านี้ ให้ไปสู่จุดหมายแห่งเดียวกัน เป็นจุดหมายที่มีความสมดุล พร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลง และก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์ บนถนนแห่งความพอเพียงเส้นนี้นั่นเอง

การระดมสมองครั้งแรกนี้  ประกอบด้วยกลุ่มย่อยด้านเศรษฐกิจ ทุนและเทคโนโลยี  ด้านการเรียนรู้และสุขภาวะ  ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านการกระจายอำนาจ   มีข้อเสนอวิสัยทัศน์ภาพกว้างให้ประเทศไทยมีวิถีชีวิตและสังคมตามแนวทางพอเพียง  มีภูมิคุ้มกันที่ทำให้อยู่ได้อย่างมีความสุขและยั่งยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์   โดยมีความสมดุลใน 5 ด้าน คือ  การดูแลเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันในสังคม   การลดช่องว่างในสังคม   ความสมดุลทางเศรษฐกิจระหว่างการพึ่งพาทุนและเทคโนโลยีในประเทศและต่างประเทศ    ความสมดุลระหว่างสิ่งแวดล้อมกับการพัฒนา  และการมีสุขภาวะที่ดีทั้งร่างกาย    จิตใจ และสังคม

ขณะเดียวกัน ที่ประชุมกลุ่มย่อย ก็ได้เสนอประเด็นวิกฤติที่คล้ายคลึงกัน  คือ   ปัญหากลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงให้เกิดผลในทางปฏิบัติ    ปัญหาค่านิยมและสื่อ  ปัญหาการขาดความเข้าใจในเศรษฐกิจพอเพียง   ปัญหาทางนโยบายที่ไม่ต่อเนื่อง    ปัญหาทางการเมืองหรือความขัดแย้งที่บั่นทอนความเข้มแข็งของชุมชน และปัญหาความพร้อมของส่วนท้องถิ่นที่ต่างระดับกัน

ข้อสรุปในเบื้องต้นมีข้อเสนอแนะให้มีการจัดตั้งองค์การมหาชนเพื่อเป็นเจ้าภาพในการ         ขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงอย่างต่อเนื่องและประสานงานกับหลายภาคส่วน   การสร้างความเข็มแข็งให้กับภาคประชาชนผ่านกระบวนการศึกษาเรียนรู้และการจัดการความรู้ที่มีชุมชนเป็นศูนย์กลาง          มีหลักสูตรเศรษฐกิจพอเพียงที่เน้นการปฏิบัติ    เปลี่ยนเป้าหมายการศึกษาเป็นการศึกษาเพื่อวิถีชีวิต    รัฐจัดสวัสดิการขั้นพื้นฐานที่พอเพียงให้ทุกคนเข้าถึงได้    ให้มีกลไกการทำงานร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรมระหว่างรัฐ เอกชน และชุมชน  การพัฒนาองค์ความรู้ด้านการผลิตที่เกื้อกูลกับธรรมชาติ        ใช้พื้นที่และทรัพยากรน้อยลงโดยใช้ฐานความรู้ท้องถิ่นและการรองรับสิทธิชุมชน    การมีเกณฑ์ชี้วัดเพื่อใช้ตรวจสอบ กำกับดูแลการเลือกตั้งและการบริหารจัดการของรัฐ 

สำหรับ ข้อมูลที่นำเสนอในการระดมสมองครั้งแรกนี้  จะนำไปใช้ในการพิจารณาประเด็นวิกฤติและพัฒนาโจทย์วิจัยเพื่อสนับสนุนการทำแผนที่เดินทางประกอบการระดมสมองครั้งต่อไป      ซึ่งคาดว่าจะจัดขึ้นในอีก 2 เดือนข้างหน้า

  ข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ:สถาบันการจัดการเพื่อชนบทและสังคมมูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

โทรศัพท์ 02-579-7044

โทรสาร 02-941-3756

www.rasmi-trrm.org

 
หมายเลขบันทึก: 98897เขียนเมื่อ 27 พฤษภาคม 2007 07:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 พฤษภาคม 2012 16:28 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่าน


ความเห็น

ความสมดุลใน 5 ด้าน คือ  การดูแลเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันในสังคม   การลดช่องว่างในสังคม   ความสมดุลทางเศรษฐกิจระหว่างการพึ่งพาทุนและเทคโนโลยีในประเทศและต่างประเทศ    ความสมดุลระหว่างสิ่งแวดล้อมกับการพัฒนา  และการมีสุขภาวะที่ดีทั้งร่างกาย    จิตใจ และสังคม

     เรื่องความสมดุลนี้ดีมากเลยคะอาจารย์....หน่อยอยู่

ในชุมชน ก็พอมองเห็น ความสมดุลย์ ลักษณะนี้ ด้วย

ถ้าเห็นมากๆ แปรเป็นการปฏิบัติมากๆ...ความสมดุลก็จะมีไปในทุกที่นะคะ

   ระลึกถึงคะ
 

ขอบคุณมากค่ะที่เข้ามาเปิดประเด็นเป็นคนแรกเลย

หวังว่าคุณหน่อยคงสบายดีนะคะ

ความสมดุลเป็นเรื่องดีค่ะ  แต่พอจะบอกว่า ตรงไหนคือจุดสมดุล  ตรงนี้ละค่ะ คือความยาก  เพราะมีเรื่องของความจำเป็น เรื่องของค่านิยม และอื่นๆ  จริงๆแล้ว คนที่อยู่ ณ จุดนั้นเอง ปฏิบัติด้วยตัวเอง  จึงจะเป็นผู้สัมผัสได้ด้วยตัวเองค่ะ  แต่พอมองไกลออกมาเป็นระดับชุมชน ระดับประเทศ ที่เริ่มมีความหลากหลายมากขึ้น   การบอกจุดสมดุลย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย

ที่สำคัญคือ  ความสมดุล ถูกกระทบได้ตลอดเวลาโดยปัจจัยภายนอก    ตรงนี้ประยุกต์ได้ทั้งเรื่องจิตใจของเรา ไปจนถึงเรื่องสังคม     ตรงนี้ถ้าใจเราเข้มแข็ง  สังคมเข้มแข็ง  ก็ย่อมปรับตัวกลับเข้าสู่สมดุลได้ไม่ยากนัก   อาจเป็นจุดสมดุลจุดเดิม  หรือจุดสมดุลใหม่ .....  ความเข้มแข็งที่ว่า อาจโยงกับการพึ่งตนเอง การมีภูมิคุ้มกันค่ะ

การแสดงธรรมของท่านติช นัท ฮันห์ที่จะจัดที่ธรรมศาสตร์วันที่ 30 ถูกยกเลิกไป   น่าเสียดายมากเลยค่ะ   ตัวเองไม่มีโอกาสได้เข้าร่วมที่เวทีอื่นเสียด้วยสิ.... 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท