BM.chaiwut
พระมหาชัยวุธ โภชนุกูล ฉายา ฐานุตฺตโม

พระแลโทรทัศน์ : ฟุตบอล


พระแลโทรทัศน์

สมัยเรียนมัธยมชั้นไหนแล้วก็จำไม่ได้แล้ว... วิชากีฬามีเรียนฟุตบอลอยู่ด้วยชั้นหนึ่ง โดยแบ่งทีมกันไปตามจำนวนนักเรียน ซึ่งผู้เขียนประจำอยู่ ๒ ตำแหน่ง.... กล่าวคือ ถ้าไม่เป็นตัวสำรองก็เป็นผู้รักษาประตูหรืออยู่โกล์ แต่ผู้เขียนก็สมัครใจเป็นตัวสำรองซะมากกว่า ....

แรกเข้า ม.ศ. ๑ (ประมาณ ๒๕๒๐) มีการสมัครชมรม... ผู้เขียนเลือกชมรมห้องสมุด ซึ่งมีหน้าที่ช่วยงานห้องสมุดในชั่วโมงว่าง และได้สิทธิพิเศษบางอย่างในการยืมหนังสือ.... ผู้เขียนพบว่าในหน้ากีฬาของหนังสือพิมพ์รายวันประจำวันจันทร์จะมีตารางเล็กๆ เป็นภาษาอังกฤษ จึงสงสัย ? ภายหลังทราบว่า เป็นผลการแข่งขันฟุตบอลอังกฤษประจำสัปดาห์ และผู้เขียนก็เริ่มติดตามฟุตบอลอังกฤษมาตั้งแต่นั้น....

สมัยนั้น มีแต่ตารางเท่านั้น รายละเอียดอื่นๆ ก็ยังไม่มี ประมาณ ๑-๒ ปีต่อมา จึงมีบทสรุปการแข่งขันประจำสัปดาห์เป็นภาษาไทย และหนังสือสตาร์ชอคเกอร์เริ่มวางจำหน่าย... เมื่อมานึกทบทวนอดีต ผู้เขียนอาจเป็นวัยรุ่นทั่วๆ ไป ยุคแรกของประเทศไทยก็ได้ที่สนใจฟุตบอลอังกฤษ ...

ผู้เขียนชอบทีมฟอเรสต์ และทีมไบรตันท์... ฟอเรสต์ยุคโน้นยิ่งใหญ่มากเคยได้แชมส์ยุโรเปี้ยนสองสมัยซ้อน... ส่วนไบรตันท์ ผู้เขียนสนใจเพราะเคยมีเซนเตอร์ ฮาฟท์ ที่แข็งมาก (ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกจะชื่อ สตีฟ ฟอสเตอร์) แต่ทั้งสองทีมล่วงไปจากพรีเมียร์หลายปีแล้ว ในฐานะแฟนเก่าแก่ ผู้เขียนก็ภาวนาอยู่เสมอว่า ขอให้ทั้งสองทีมนี้ ขึ้นมาเล่นพรีเมียร์อีกครั้ง... 

เมื่อมาบวช (๒๕๒๘) ฟุตบอลก็หายไปจากความคิดของผู้เขียน ยกเว้นได้คุยกับพระใหม่ในบางครั้ง ความทรงจำทำนองนี้ก็ค่อยๆ เรียกกลับคืนมา....  ตอนหลัง ผู้เขียนก็ดูฟุตบอลกับเค้าบ้างเป็นบางครั้งในนัดสำคัญหรือในยามว่างยามเบื่อ... เพิ่งมาหยุดไม่ดูเลยก็ตอนอยู่กรุงเทพฯ...

ประมาณสิบกว่าปีก่อนที่กรุงเทพฯ... ผู้เขียนก็ร่วมดูบอลกับพระ-เณรและเด็กวัด (จำไม่ได้ว่าบอลอะไร)... สถานีโทรทัศน์จะตัดเข้าโฆษณาทันทีเมื่อลูกออก ซึ่งทำให้ผู้เขียนหุดหงิดอย่างมาก จึงตัดใจลุกขึ้น ไม่ดูอีกต่อไป... และตั้งแต่นั้นมา ผู้เขียนก็เกือบจะไม่ดูบอลอีกเลย จนกระทั้งได้มีโอกาสซื้อโทรทัศน์ครั้งนี้ จึงเริ่มดูบอลอีกครั้ง...

ตามความเห็นส่วนตัว ฟุตบอลเปลี่ยนไปมาก...เช่น กรณีมาราโดน่า ทำให้การเสียบมาจากด้านหลังทำไม่ได้อีกต่อไป... จึงมีเทคนิคการเสียบด้านหน้าเข้ามาแทน.... เป็นต้น

สมัยก่อนจะต้องมีปีกซ้ายขวา ต่อมาระบบการใช้ปีกหมดไป เริ่มใช้แบคซ้ายขวาขึ้นมาเติมเต็มคล้ายๆ กับปีกในอดีต... แต่ปัจจุบันมีการใช้นักเตะบางคนมาเล่นริมเส้น ซึ่งคล้ายๆ กับปีกในอดีต... อีกครั้ง...

ประมาณสองเดือนมานี้ ผู้เขียนดูบอลถ่ายทอดเกือบทุกนัด (ก่อนหน้านี้ไม่เคยดูบอลดึกๆ อาจเพราะยังอยู่ในช่วงปิดภาคเรียนจึงมีเวลาว่างมาก)... มีความรู้สึกว่า อาชีพนักฟุตบอลปัจจุบันก็มีความแข่งขันสูงมาก ซึ่งในทีมยักษ์ใหญ่เช่น เชลซีหรือแมนยู นักแตะดังๆ อาจถูกจับนั่งเป็นตัวสำรองได้ง่ายๆ ถ้าเล่นได้ไม่สมตังใจของผู้จัดการทีม....

บอลไทย ก็เป็นจุดสนใจของผู้เขียนที่จะต้องดูเสมอ เมื่อมีโอกาส เพื่อจะสำรวจพัฒนการด้านฟุตบอลของเรา... ผู้เขียนสรุปได้ว่า บอลไทยคงจะก้าวหน้าไปสู่แนวหน้าของเอเชียได้ยากส์ (ไม่จำเป็นต้องเป็นระดับโลก).... เพราะแม้เราจะพัฒนาไปบ้าง แต่ความเร็วในการพัฒนายังน้อย คล้ายๆ ว่า รถคันหน้าเร่ง ๘๐ แต่รถของเราที่ตามอยู่เร่งเพียง ๖๐ ดังนั้น ยังไงๆ ก็ตามไม่ทัน ยิ่งไล่ตามก็ยิ่งคงห่างออกไปเรื่อยๆ.... ประมาณนั้น...

อนิจจัง คือ ความไม่เที่ยง ปรากฎอย่างชัดเจนในโลกของกีฬาฟุตบอล โดยประการฉะนี้

หมายเลขบันทึก: 98604เขียนเมื่อ 25 พฤษภาคม 2007 15:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 มิถุนายน 2012 07:15 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)
  • นมัสการเจ้าค่ะ แล้วตกลงว่าพระแลฟุตบอล ไม่อาบัติ ใช่ไหมเจ้าค่ะ (ขำๆน่ะเจ้าค่ะ)
P

คิดว่าเป็น อาบัติ แน่นอน

แต่เป็น อาบัติชั้นเล็กน้อย และน่าจะเป็น อาบัติมานอกปาฏิโมกข์ ... ประมาณนั้น

เจริญพร

นมัสการครับ นิมนต์ แวะมาอ่านเรื่องสถิติของฟุตบอล ปี 2550 ของผมที่ http://gotoknow.org/blog/tomKKU/97285

 

P

ขอบใจอาจารย์เป็นอย่างยิ่ง....

จะเข้าไปเยี่ยมชม...

เจริญพร

  • ผมว่าหลวงพี่ท่านสอนธรรมะด้วยฟุตบอล มากกว่าน้องแก่นจัง
  • หลวงพี่ท่านเอาไตรลักษณ์มาจับฟุตบอลทีเดียว
  • ฟุตบอลกลมๆย่อมเป็นอนิจจัง เปลี่ยนไปง่ายนัก
  • ถ้าทีมใดทนไม่ได้ ทุกขัง ก็ตกชั้นไป
  • ผู้จัดการทีมก็คงบอกว่า ไม่ใช่ของตนบังคับไม่ได้ เป็นอนัตตา น่ะโยม แก่นจัง
  • ขอบพระคุณหลวงพี่ที่เคยเข้ามาเยี่ยมผมตอนเขียนเรื่องพระพุทธเจ้า ครับ

 

P

อนุโมทนา คุณโยม ที่ช่วยเทศน์แทน...

อาตมาก็เล่าหรือบ่นไปเล่นๆ เท่านั้น... ทำนองที่เค้าว่า...

เด็กๆ มักจะอยู่กับปัจจุบัน

วัยรุ่นหนุ่มสาว มักจะอยู่กับอนาคต

คนแก่ มักจะอยู่กับอดีต

อาตมาเอง สองสามปีหลัง รู้สึกว่าจะแก่แล้ว เพราะมักจะคิดแต่เรื่องอดีต ไม่ค่อยคำนึงอนาคตมากนัก...

เจริญพร

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท