คิดเรื่องงาน (7) : เมื่อลูกน้องบอกว่า "หัวหน้าครับ มาเบิ่ง - มาแนม นำกันแนเด้อ !"


มาเบิ่งมาแนม.... ในวิถีของผม ดำเนินไปโดยการรักษาระยะห่างของการทำงาน

เมื่อไม่นานมานี้   ผมมีโอกาสได้ทานข้าวกับบรรดาทีมงานในสังกัด   เราทานข้าวและพูดคุยถึงเรื่องการงานของเราไปด้วย  ....  การพูดเรื่องงานเป็นเสมือนเครื่องปรุงรสให้อาหารเที่ยงของวันนั้น  ดูมีรสชาติข้นเข้ม - อร่อยถูกปากอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

 

ผมถามเจ้าหน้าที่อย่างเป็นกันเองในทำนองว่า   "การที่ผมลงมาคลุกคลีใกล้ชิดในเวลาทำงานภาคสนามของลูกน้องนั้น   พวกเขาทั้งหลายรู้สึกอึดอัดกับการทำงานบ้างหรือไม่ ?"

 

ผมกล้าถามเช่นนั้น  เพราะเชื่อว่า   คนที่ตอบก็กล้าตอบอย่างไม่เกรงใจ  ซึ่งหมายถึง   กล้าให้ข้อคิดเห็นต่อกระบวนการของการทำงานอย่างไม่บิดเบือน ... ทั้งเขาและเราต่างให้เกียรติกันและกัน  และการให้คำตอบที่แจ่มชัดตามความเป็นจริง  คือ การให้เกียรติต่อบทบาทในการงานและสถานะทางมิตรภาพอันแน่นแฟ้นของเราด้วยเช่นกัน

 

"ดีครับ,  ทำอะไรสักอย่าง  พอหันไปเห็นผู้หลักผู้ใหญ่อยู่ด้วยก็รู้สึกอบอุ่นใจ  ดีกว่าทำ ๆ  กันไปแบบตัวใครตัวมัน   คนที่เข้าร่วมกับเราก็จะรับรู้ว่า   อย่างน้อยก็มีผู้หลักผู้ใหญ่มาใส่ใจ  มาให้เกียรติกับการงานนั้น ๆ "

 

นั่นคือ คำตอบที่ผมได้รับจากเจ้าหน้าที่ ...   ซึ่งผมก็เชื่อว่าเขาพูดด้วยความสัตย์จริงทุกประการ

 

ที่ผมต้องถามเช่นนั้น  เพราะสไตล์การทำงานของผมมักจะเป็นในวิถีนั้น   โดยผมมักจะลงไปเที่ยวเยี่ยมชม -  ด่อม ๆ  มอง ๆ  สังเกตการณ์  หรือแม้แต่ไปนั่งดูการทำงานของลูกน้องอยู่อย่างสม่ำเสมอ ... ดึกดื่นเที่ยงคืนก็ปักหลักอยู่กับพวกเขา .. บางทีก็ก้ม ๆ เงย ๆ  เก็บสัมภาระช่วยพวกเขาบ้างตามแต่สังขารจะอำนวย 

 

บางครั้ง,  ผมก็จะนำข้อสังเกตเหล่านั้นมาพูดคุยและหารือกับทีมงานในวันรุ่งขึ้น   เพื่อให้มีเวลาในการปรับแก้แนวทางได้อย่างทันท่วงที  ซึ่งนั่นก็คือ  ผลพวงของการเข้าไปดูแลในสไตล์ของผม

 

และจึงไม่แปลกในกิจกรรมที่ผมดูแลก็มักจะมีการถกเรื่องงานอยู่บ่อยครั้ง   เป็นการถกในเวทีที่ต้องการนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่า, มิใช่ปล่อยเลยตามเลยไปตามยะถากรรม  

 

เจ้าหน้าที่อีกคนพูดในทำนองว่า  การทำงานในแต่ละครั้งอยากให้ผู้หลักผู้ใหญ่  "มาเบิ่ง  มาแนม"   ซึ่งหมายถึง  การแวะเวียนมาเยี่ยมยามถามข่าว  หรือแม้แต่การแวะวนมาสู่พื้นที่ของการงานอย่างเป็นกันเอง และ  "ติดดิน"  

 

มาเบิ่ง มาแนม...  จึงเป็นข้อสรุปในวิถีการทำงานของทีมงานของผม  ที่ต้องการให้หัวหน้ามาดูแลใส่ใจ   มิใช่นั่งอยู่ในห้องหับอันฉ่ำเย็น, เซ็นแฟ้ม  และสั่งการผ่านเวทีประชุมสถานเดียว

 

มาเบิ่งมาแนม....  ในวิถีของผม  ดำเนินไปโดยการรักษาระยะห่างของการทำงาน   เพื่อมิให้ลูกน้องรู้สึกว่ากำลังโดนจ้องจับผิด...  แต่ในวิถีการทำงานแบบพี่และน้องก็ช่วยให้ทุกอย่างกลมกลืนเป็นทีมเวิร์ค

 

ผมไม่รู้ว่า  หากต้องเทียบเคียงกับศัพท์แสงของคำว่า  "มาเบิ่ง - มาแนม"   กับภาษาต่างประเทศ  จะหมายถึงคำใดกันแน่

 

รู้แต่ว่า   เย็นย่ำของวันนี้ต้องหอบลูกหอบเต้า  "ไปเบิ่ง  ไปแนม"  การจัดกิจกรรมถนนเด็กเดินในตัวเมือง... จากนั้นก็ต้องรีบกลับมาเตรียมตัวไปราชการอันยาวเหยียด

 

สำหรับผมแล้ว   มันไม่ใช่การไป  "ตรวจงาน"   ไม่ใช่ไปจับผิด   หรือเพราะไม่เชื่อในศักยภาพของลูกน้อง   แต่ผมก็แค่อยาก   "ไปเบิ่ง - ไปแนม"   ตามที่พวกเขาอยากให้ผม "มาเบิ่ง - มาแนม"   เท่านั้นเอง ,

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 97336เขียนเมื่อ 20 พฤษภาคม 2007 13:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 มิถุนายน 2012 17:50 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (26)
น้อๆงคงเข้าใจครับ ว่าเราไม่ได้มา "จับผิด" เพราะการที่จะทำอะไรแล้วไม่มีคนมาติ มาชม นั้นคงไม่ดีแน่ครับ ขาดกำลังใจครับ บ้างที่ถ้าเราทำอะไรคนเดียวนั้นเชื่อแน่ว่ามันต้องดีที่สุดแล้ว แต่ถ้ามีคนมาวิพากษ์บ้าง จะทำให้สมบูรณ์ที่สุดครับ พี่พนัส

"บางทีก็ก้ม ๆ เงย ๆ  เก็บสัมภาระช่วยพวกเขาบ้างตามแต่สังขารจะอำนวย ".....

จริงๆไม่ได้แก่ซักหน่อย เขียนซะดูอาวุโสมากๆเลยนะครับ

ตัวจริงหนุ่มฟ้อ หล่อเฟี้ยวอยู่เลยครับ

  • มาทักทายหัวหน้าเลอะดิน
  • เอยติดดิน
  • พิมพ์ผิดครับผม

น้องแจ๊ค ครับ

P

คนในกองกิจฯ  ส่วนใหญ่พบเจอกันในวิถีกิจกรรมมาก่อน  การทำงานจึงง่ายต่อการจะเข้าใจบุคลิกของแต่ละคน

แต่คนกองกิจฯ  ด้วยความที่เป็นคนทำกิจกรรมมาก่อน  ก็ดูจะกร้าว - กล้าอยู่พอควร  จนคนภายนอกมองว่าพวกเรา  ดิบ, กระด้าง ไปบ้าง

แต่จริง ๆ  ก็อ่อนไหว  และอ่อนโยนเหมือนกัน  นะขอรับ...

คุณเอก ..ครับ
P

"บางทีก็ก้ม ๆ เงย ๆ  เก็บสัมภาระช่วยพวกเขาบ้างตามแต่สังขารจะอำนวย ".....

จริงๆไม่ได้แก่ซักหน่อย เขียนซะดูอาวุโสมากๆเลยนะครับ

ตัวจริงหนุ่มฟ้อ หล่อเฟี้ยวอยู่เลยครับ

.....

ทั้งหมดนั้น  คุณเอกไม่ได้โฆษณาเกินจริงใช่ไหมครับ...

ใคร ๆ เขาก็ว่าผมแก่เกินวัยทั้งนั้นเลย

....

หลังอุบัติเหตุจากการเดินทางในช่วงไปราชการ  เอาชีวิตรอดมาได้   แต่สังขารก็เสื่อมทรุดก่อนวัยอันควร ครับ

ขอบคุณที่มาช่วยโฆษณา (ตามจริง) !  ขอบคุณครับ

อ่านแล้ว เห็นภาพ งานกิจการนักศึกษา เป็นงานที่ไม่ลงภาคสนามไม่ค่อยจะได้นะคะ

สวัสดีครับ อ.ขจิต

P

ผมเดินติดดิน  กินกลางทรายมาตลอดเวลาครับ 

จากทุ่งนา  มาสู่เมือง ...  โดยไม่ลืมรากเหง้าตนเอง

ตกลง  "มาเบิ่ง มาแนม"  ภาษาอังกฤษ  น่าจะใช้คำอะไรดีครับ

        Monitoring  หรือเปล่าครับ

สวัสดีครับคุณแผ่นดิน

   มาเบิ่ง มาแนม  น่าจะตรงกับคำว่า "Monitoring" รึเปล่าค่ะ

สวัสดีครับ

P

งานกิจกรรมนิสิต   เป็นงานที่ปฏิเสธงานภาคสนามไม่ได้  วันเวลาของการทำงานส่วนหนึ่งจึงจมไปกับงานภาคสนาม   ขณะที่งานในสำนักงานและห้องประชุมก็ตบเท้าเข้ามาอยู่อย่างต่อเนื่อง

หัวจิตหัวใจต้องแกร่ง  และครอบครัวก็ต้องเข้าใจด้วยเช่นกันครับ

ขอบพระคุณครับ

สวัสดีครับ พี่แป๊ด

P

ผมกำลังเคลียร์งานยกใหญ่  เพราะพรุ่งนี้มีราชการต้องเดินทางไปหลายวัน  ขอบพระคุณมากครับที่แวะมาให้กำลังใจ,

มาเบิ่ง มาแนม  น่าจะตรงกับคำว่า "Monitoring"....

ผมเห็นด้วยตามนั้นครับ !

   มาเบิ่ง มาแนม...เป็นการไปดูแล การทำงาน ...พี่คิดว่าเป็นสิ่งที่ดีค่ะ ยิ่งถ้าลูกน้องทำงานดีๆ แล้วเราไปดูเขายิ่งมีกำลังใจ ... แต่ถ้าเขาไม่ทำงานซิค่ะ...หนาวแน่...อิอิอิ

สวัสดีค่ะ

 ขออนุญาต ให้ความเห็นหน่อย

  • การไปเบิ่ง ไปแนม นั้นดีค่ะ แต่ระวังเรื่องระยะช่วงห่าง-gap-ระหว่างเขากับคุณนะคะ
  • ไม่แน่ใจว่า วิธีนี้ ควรมีpatternไหม เช่น ทุกเช้า ทุกบ่าย ทุกวันเว้นวัน ส่วนตัวเคยทำแบบนี้ แต่ไม่มีpatternค่ะ

สวัสดีครับ  อ.แป๋ว

P
paew 

ขอบพระคุณครับที่แวะมาให้กำลังใจในตอนเกือบดึก ..ผมนั่งทำงานอยู่ที่ห้องทำงานของสำนักงาน   พรุ่งนี้ต้องไปราชการตั้งแต่เช้ามืด

แต่งานวันนี้ที่จัดขึ้นในตัวเมืองก็ลุล่วงไปด้วยดี (ถนนเด็กเดิน)    แต่ลึก ๆ ผมว่ายังต้องปรับแก้อีกเยอะมาก    และอยากให้องค์กรทุกภาคฝ่ายของจังหวัดคุยและร่วมคิดเรื่องนี้กันอย่างจริงจังสักครั้ง 

น้องชายครับ

จะมีความสุขมากถ้า "นาย" ลงมาดู สารทุกข์ สุข ของลูกน้อง บ้าง

ทีคณะฯ กำลังหาวิให้ "นาย" ลงจากสวรรค์ เฮ้ย ลงมาดูลูกน้องบ้างจัง  ฮา......

แหม..น่าชื่นชมหัวหน้าที่ชอบมาเบิ่งมาแนม แต่ไม่ใช่มาเหน็บแนมลูกน้องค่ะ

มาเยี่ยม...คุณ

P

คำว่า  "มาเบิ่ง - มาแนม"   กับภาษาต่างประเทศ  จะหมายถึงคำใดกันแน่

จากคำนี้นึกถึงว่า...

ขั่นเจ้าได้ขึ้นขี่ซ่างกั้งฮ่มเป็นพะยา  อย่าสิลืมซาวนาผู้ขี่ควายคอนกล้า...เด้อ...ฮา ๆ เอิก ๆ

  • "มาเบิ่ง มาแนม" กันบ้างนะ ของพี่เช่นกัน พี่ทำไปเถอะ ไม่เคยดูแล แต่ผิดพลาดถูกซ้ำค่ะ
  • วันเสาร์ที่ผ่านมาพี่ได้รับโทรศัพท์ตอน 2 ทุ่ม นักศึกษาจองหอพักผ่าน web ไม่ได้
  • ไม่มี   Monitoring 
  • พี่นำ km เข้ากิจการนักศึกษา ปัจจุบัน เพิ่งคืบคลานนะ เพราะตัวหนึ่งที่ขาดคือ   Monitoring  ที่สำคัญเพราะลำพังพี่คนเดียว   Monitoring กิจการนักศึกษา 5 วิทยาเขตไม่ได้หรอก (เราบ่นหรือเปล่านะ?)

สวัสดีครับ 

P

ต้องขออภัยด้วยนะครับ  ที่เพิ่งมีโอกาสได้ตอบบันทึก  อันเนื่องจากเพิ่งกลับจากราชการเมื่อก่อนรุ่งสางนี่เอง

ขอบพระคุณมากนะครับเกี่ยวกับการไปเบิ่งไปแนมที่ต้องตระหนักถึงช่วงห่างระหว่างเรากับลูกน้อง  ซึ่งประเด็นนี้ผมก็ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก  และพยายามอยู่อย่างไม่ลดละในการกระทำเช่นนั้น

และโดยส่วนตัว  การที่จะไม่ไปเบิ่ง ไปแนม  ก็ไม่ใช่คุณลักษณะการทำงานของผม,  ผมจึงมีความสุขและมีสไตล์การไปเบิ่งไปนามร่วมกัลลูกน้องอยู่อย่างสม่ำเสมอ

สวัสดีครับ พี่สาวผู้สุดแสนจะใจดี
P

เมื่อมีงานภาคสนามเมื่อใด  หากผมไม่ได้ไปอยู๔ในบริบทนั้น ๆ  กับทีมงาน  ผมนอนไม่หลับแน่   เลยต้องหอบหิ้วครอบครัวไปใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ของการทำงานอย่างไม่เปลี่ยนแปลง

มีความสุขมากครับ

 

คุณพิชชา  ครับ
P

ผมมีทั้งมาเบิ่ง - มาแนม  และพ่วงแถม เหน็บแนมบ้างเหมือนกัน

ฮา....

สวัสดีครับ
P
umi 
.

ชัดเจนและประทับใจมาก ... ขออนุญาตนำมาแสดงซ้ำ นะครับ

ขั่นเจ้าได้ขึ้นขี่ซ่างกั้งฮ่มเป็นพะยา  อย่าสิลืมซาวนาผู้ขี่ควายคอนกล้า...เด้อ...ฮา ๆ เอิก ๆ

ขอบพระคุณครับ

ไม่โดดเดี่ยวนะครับ  ผมอีกคนที่เป็นคอเดียวกันและให้กำลังใจต่อพี่เสมอ ...  เสียดายไม่ได้ไปเจอที่ UKM  ไม่งั้นคงได้แลกเปลี่ยนกันอย่างใกล้ชิดมากกว่านี้

ช่องว่างด้านการติดตามงานในระดับหัวหน้ากับลูกน้อง  กลายเป็นปัยหาในระบบการทำงานที่น่าเป็นห่วงและไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง  

การมาเบิ่งมาแนมในแบบฉบับของผม  จึงเป็นเสมือนการไปให้กำลังใจกับทีมทำงานซะมากกว่า  และเป็นการไปเก็บข้อมูลการทำงานด้วยตนเองเป็นสำคัญ

สู้ ๆ  นะครับ....

        ค้าบผมก้อเชื่อเหมือนพี่เหมือนกันค้าบว่าคำตอบที่พี่ได้รับนั้นเป็นคำตอบที่มีแต่ความจริงใจใช่เสแสร้งแกล้งตอบเพื่อเอาใจ  เพราะว่าเท่าที่ผมได้รู้จักพี่ชายคนนี้พี่เป็นคนจริงใจและคนรอบข้างก้อรู้ดี  ดังนั้นคำตอบที่พี่ได้นั้นคงจะได้รับความจริงใจเท่าที่พี่จริงใจในการถามเช่นนั้นนั้นแหละค้าบ

 " เราให้เค้ามากขนาดไหน  เราก้อได้กลับเท่านั้น "

         ผมมีคำๆนึงที่ผมใช้สอนนัอง Staff  คณะของผมเสมอๆว่า

         " ฉันให้เธอแล้ว  แล้วเธอหละให้ฉันยัง "

สวัสดีครับ

ไม่มีรูป
น้องสภา

เป็นไงเจอกันในบล็อกบุคลิกพี่ต่างจากเจอตัวเป็น ๆ มากมั๊ย...

คนอย่างพี่สไตล์ดิบเถื่อน พันธุ์พื้นเมืองตัวจริงเสียงจริงทีเดียว...ตรงไป ตรงมา  ถึงลูกถึงคน โหด เลวดี มีครบครัน... นั่นคือวิถีการทำงานของพี่

ขอให้เรามีความสุขกับการเป็น "ผู้ให้"  เสมอไปนะครับ  ..น้องรัก

และให้ทำงานอย่างเต็มที่ ยึดความถูกต้องและเคารพมั่นต่อมวลชน ...พี่เบ่งแนม อยู่ตลอดเวลา...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท