ประสาน26


มะเร็ง

13/12/48

               วันนี้ตอนเช้าไม่มีงานถ่าย แต่ในตอนเช้าที่ห้องทำการจัดห้องทำงานใหม่ก็เลยได้อยู่ทำงานดังกล่าว

               ในตอนบ่ายมีไปถ่ายงานที่ภาควิชารังสีวิทยา สัมภาษณ์อาจารย์ชนินท์ วันนี้ไปกันหลายคน มีทั้งพี่วิ พี่สัญชัย พี่เอ๋ พี่นเรศ พี่หนูและจุฑารัตน์ ใช้กล้อง 2 ตัว พี่หนูมาบอกให้ผมกับจุฑารัตน์ต่อสายกันเอง ยากครับสายไฟเยอะมาก ต่อจากกล้อง 2 ตัว ไปมอนอเตอร์ 2 ตัว ต่อผ่าน Switching มี Wireless อีก 2 ตัว สปอตไลต์อีก 2 ตัว พี่หนูก็จะสอนให้ไล่ทีละเส้น เริ่มจากการถ่ายสัมภาษณ์อาจารย์ชนินท์ ก่อนประมาณ 15 นาที ก็เสร็จ   วันนี้เป็นงานสัมภาษณ์ที่เกี่ยวกับการนวดให้กับผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ทำการฉายแสง อาจารย์ชนินท์ก็จะออกข้อห้ามว่า คนป่วยที่มีแผลเรื้อรัง แผลยังไม่แห้งไม่สมควรทำการนวด และอาจารย์ชนินท์ ก็บอกว่าการนวดที่มีคุณภาพที่ดีที่สุด คือคนที่เป็นคนนวดจะต้องมีความรัก ความรู้สึกที่ดี ที่จะนวดให้กับผู้ป่วย จะช่วยให้การนวดได้ผลดีมากขึ้น ซึ่งอาจารย์ชนินท์ก็บอกอีกว่า การนวดนั้นจะเป็นผลดีต่อผู้ป่วยมากกกว่าคนป่วยที่ไม่ได้ทำการนวดเลย  

 

                   Wireless ตัวใหม่ที่ทางหน่วยโทรทัศน์พึ่งจัดซื้อมา

 

  เป็นนายแบบการนวดหน้าท้องให้กับผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ทำการฉาย

              ส่วนการนวดนั้นก็ได้มีผู้ป่วยโรคมะเร็งมาเป็นตัวอย่างให้ดูด้วย  ซึ่งคุณป้าท่านมากับลูกสาวด้วย ลูกสาวคุณป้าเขาบอกว่าแม่เป็นมะเร็งหลายที่มากอยู่ในระยะที่ 3 (มะเร็งจะมีอยู่ 4 ระยะ ระยะที่ 1-2 ยังรักษาหายได้ ระยะ 3 ประคองเอาไว้ไม่ให้ไปถึงระยะที่ 4  ซึ่งระยะที่ 4 จะเป็นระยะสุดท้ายแล้ว) ฟังลูกสาวคุณป้าพูดแล้วทำให้ผมตกใจมากก็ คือ   คุณป้าเป็นมะเร็งมาแล้ว 20 กว่าปี พี่เขาก็เล่าให้ฟังว่าที่คุณแม่ของเขาอยู่ได้ คือ กำลังใจจากทุกคนในบ้าน โดยเฉพาะจากคุณพ่อ ทุกคนจะคอยให้กำลังใจคุณแม่ ไม่ทิ้งแม่อยู่เหงาคนเดียว แต่ตอนนี้คุณพ่อของพี่เขาก็เสียชีวิตไปแล้ว  ที่ตกใจมากก็เพราะว่า ทำให้แม่เขาอยู่ได้มาตั้ง 20 กว่าปี  แต่คุณพ่อของผมเองหมอบอกว่าอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน คุณพ่อก็เสียจริงๆ แต่คุณพ่อของผมเป็นระยะที่ 4 และเป็นมะเร็งลำไส้ ซึ่งผมเคยดูข่าวเขาบอกว่า มะเร็งที่ทำให้มีคนตายเป็นอันดับ 1 ก็คือ เป็นมะเร็งลำไส้  ผมก็เล่าให้พี่เขาฟัง เพราะแปลกใจที่คุณแม่พี่เขาอยู่มาได้ถึง 20 กว่าปี  โดยที่มะเร็งไม่ขยายตัว เพิ่มขึ้น พี่เขาก็บอกว่าเป็นเรื่องของใจ ก็กำลังใจดี ไม่ทุกข์ไม่คิดมาก มันก็จะไม่ขยายตัว แต่พอคุยกันไปซักพัก พี่เขาก็ต้องแปลกใจเกี่ยวกับคุณพ่อของผมบ้าง พี่เขาถามว่าคุณพ่อผมคงจะเจ็บและทรมานมากเลยใช่ไหม เพราะว่า พี่เขามีพ่อเพื่อนเป็นเหมือนกัน เพราะจวดท้องมาก คนป่วยจะร้องครวญคราง ผมก็บอกพี่เขาว่า คุณพ่อผมไม่เคยร้องครวญคราง คุณพ่อผมยังเดินไปไหนเองตลอดจนวันสุดท้ายที่ไปโรงพยาบาล คุณพ่อยังเดินขึ้นเองได้เลย พี่เขาก็ยังแปลกใจมากๆ เพราะคนป่วยมะเร็งลำไส้ในระยะที่ 4 นี้เขาไม่เคยเห็นใครเดินได้เลย ต้องนอนบนเตียงตลอด จากนั้นพี่เขาก็พูดว่า น้องนะโชคดีมากเลยนะคุณพ่อน้องมีความบุญมากเลยนะถึงได้ไม่ทรมาน เหมือนกับคนอื่นๆที่เป็น ฟังแล้วทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมากๆเลยครับ รู้สึกไม่ต้องเป็นห่วงคุณพ่อมากเหมือนที่เคยรู้สึก

            พอทำงานก็ลงไปแข่งเทนนิส ได้อย่างมีความสุขดี มากเลยครับ ชนะคู่ต่อสู้แบบสบายๆเลยครับ ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ ได้ในวันพฤหัสบดี ครับผม

คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 9675เขียนเมื่อ 15 ธันวาคม 2005 10:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:13 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท