ปริทนต์อักเสบ (peridontal disease: ปริ = รอบๆ; ทนต์ = ฟัน) เป็นโรคที่มีการอักเสบเรื้อรังของเยื่อรองรับฟัน(บริเวณที่ฟัน เหงือก และฐานรองรับฟันมาบรรจบกัน) ภาวะแทรกซ้อนที่ตามมาได้แก่ การสูญเสียฟันก่อนวัยอันควร
ปริทนต์อักเสบพบได้บ่อยขึ้นในคนไข้เบาหวาน โดยเฉพาะคนไข้เบาหวานที่ใช้ฟันปลอม และนับเป็นภาวะแทรกซ้อนสำคัญอย่างหนึ่งของเบาหวาน
เบาหวานทำให้เกิดปริทนต์อักเสบเพิ่มขึ้นจากระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้น อนามัยช่องปากไม่ดี เช่น ไม่แปรงฟันด้วยยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์(สำหรับคนที่มีฟันเหลืออยู่) ไม่ใช้ไหมขัดฟัน (dental floss) ฯลฯ
การตรวจช่องปากโดยทันตแพทย์อย่างน้อยปีละครั้งมีส่วนช่วยในการป้องกันและรักษาปริทนต์อักเสบได้ เช่น การตรวจหาฟันผุ การขูดหินปูน(ถ้ามี) ฯลฯ ทันตแพทย์อาจจะแนะนำอะไรดีๆ เช่น การแปรงฟันหรือใช้ไหมขัดฟันให้ถูกวิธี ฯลฯ
CDC (ศูนย์กลางควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ)ได้สำรวจคนไข้เบาหวานที่มีฟันปลอมต้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไปในปี 2547 พบว่า คนไข้เบาหวานที่มีฟันปลอมไปตรวจช่องปากกับทันตแพทย์ใน 12 เดือนที่ผ่านมาร้อยละ 67 % ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้อย่างน้อย 71 %
คนไข้เบาหวานที่ไปพบทันตแพทย์น้อยได้แก่ คนผิวดำ(สหรัฐฯ)ที่ไม่ได้มาจากอเมริกากลางหรืออเมริกาใต้ (hispanic) คนที่มีการศึกษาต่ำ คนจน และคนที่ไม่มีประกันชีวิต ซึ่งเป็นกลุ่มคนด้อยโอกาสในสังคม
คนไข้เบาหวานโดยเฉพาะคนที่ใช้ฟันปลอม(และมีฟันเหลืออยู่)มีความเสี่ยงต่อปริทนต์อักเสบมากกว่าประชากรทั่วไป ควรไปตรวจฟันกับทันตแพทย์ทุกปี เพื่อป้องกันฟันหลอ และโรคแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น เชื้อโรคปริทนต์อักเสบกระจายไปในเส้นเลือด ทำให้เยื่อหุ้นหรือลิ้นหัวใจติดเชื้อ ฯลฯ
พฤศจิกายนปีนี้ (2548) ผู้เขียนก็เพิ่งอุดฟันมา เนื่องจากฟันผุใต้ที่อุดฟันเดิม ผู้เขียนขอแนะนำว่า คนทุกคนที่ไม่ได้เป็นเบาหวานก็ควรไปตรวจฟันกับทันตแพทย์อย่างน้อยทุกปี ดีที่สุดคือ ทุก 6 เดือน ไม่มีทางที่เราจะตรวจช่องปากได้ดีเท่าทันตแพทย์
แหล่งข้อมูล:
ไม่มีความเห็น