วันนี้ขออนุญาตมารำพึงรำพันเกี่ยวกับอายุสักนิดนะครับ
เพราะวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของผมครับ (14 พฤษภาคม) ขึ้นตัวเลข 69 ปี อีกเพียงสามปีก็จะมีอายุครบ 6 รอบนักษัตร (ถ้าอยู่ถึงนะ)
พูดถึงครบรอบปีนักษัตร ไม่ทราบว่าจะมีใครคิดแบบผมหรือเปล่าครับ เมื่อผมมีอายุครบปีนักษัตรแรก อายุ 12 ปีคงจะไม่มีความคิดอะไรหรอก เริ่มจะมามีความคิดเมื่อครบรอบปีนักษตรที่สอง ตอนนี้มีอายุได้ 24 ปีแล้ว ผ่านการบวชเรียนตามคตินิยมทางพุทธศาสนามาแล้ว เมื่ออายุขึ้นปีที่ 21 ปี
จากนั้นเป็นต้นมาผมจะรู้สึกตื่นเต้นและดีใจเมื่ออายุครบรอบปีนักษตรที่สาม สี่ ตื่นเต้นที่สุดก็ครบรอบปีที่ห้า เพราะอายุขึ้นเลข 60 ปี จำได้ว่าคุณพ่อของผมซึ่งเป็นคนไทยเชื้อสายจีน ท่านจัดงานครบรอบปีที่อายุ 60 ปีอย่างยิ่งใหญ่แบบที่เขาเรียกกันในหมู่คนจีนว่า "งานแซยิด"
ที่ผมตื่นเต้นเมื่ออายุครบ 60 ปีนั้นอีกประการหนึ่งก็คือ จะได้เกษียณงาน และมีความคิดในตอนนั้นว่า ดีแล้วจะไม่ต้องตื่นแต่เช้า แต่งตัวผูกไท ขับรถฝ่าจราจรที่เกือบจะจราจลไปทำงานแถวถนนสีลม ต้องแข่งกันขึ้นลิฟท์ไปทำงานที่ชั้น 38 อาคารยูไนเต็ดเซ็นเตอร์ ไม่ต้องทนนั่งประชุมหลังอาหารเช้าและอาหารกลางวัน บางครั้งงานชุกมีประชุมหลังอาหารเย็นด้วย
เมื่อเวลาเกษียณมาถึง ความคิดที่ว่าจะมีความสุขหลังเกษียณนั้น มีความสุขอยู่ได้ไม่เกินเจ็ดวัน จากนั้นความไม่แน่ใจว่าจะบริหารชีวิตในช่วงหลังเกษียณอย่างไรก็เข้ามารบกวนบ่อยๆ ถึงแม้ว่าผมจะเคยอ่านบทความของแพทย์ที่มีชื่อเสียงหลายท่านที่เคยเขียนแนะนำไว้บ้าง แต่ในความเป็นจริงแล้ว นั่นเป็นเพียงทฤษฏีเท่านั้นแบบหนังสือประเภท How To
เมื่ออายุผ่านไปตามลำดับจาก 60-61-62 มาถึงวันนี้เริ่มเข้า 69 ปี ผมก็พบสัจธรรมของผมว่า อายุจาก 60 ปีถือว่าเป็นช่วงเปลี่ยนแปลงของชีวิต เช่นเดียวกับที่เราผ่านการเปลี่ยนแปลงมาแล้วทุกคน เช่น จากวัยทารก มาสู่วัยเด็ก มาสู่วัยรุ่น มาสู่วัยหนุ่มสาว แล้วเปลี่ยนแปลงมาสู่วัยกลางคน สุดท้ายมาสู่วัยสูงอายุ เมื่อเราทำความเข้าใจได้เช่นนี้ วัยสูงอายุหรือวัยคนแก่ก็เป็นสัจธรรมที่หลีกเลี่ยงไม่พ้น
ผมจึงยึดสโลแกนประจำใจว่า "อายุเป็นเพียงตัวเลข" ถึงแม้จะมีหลายท่านมารณรงค์ใช้คำว่า "วัยทอง"
วัยสูงอายุนี้เป็นวัยที่ต้องใช้ศาสตร์และศิลป์ในการบริหารชีวิต เพราะเป็นวัยที่ร่างกายและอารมณ์เปราะบางที่สุด บางคนมีอาการซึมเศร้า สมองฝ่อ เป็นคนเจ้าอารมณ์จู้จี้จุกจิก โหยหาความเอาใจใส่จากคนใกล้ชิด เช่นคู่ชีวิต ลูกหลาน เป็นต้น
อักษรไทยตัว อ. มีอิทธิพลต่อชีวิตของวัยสูงอายุมากคือ
อ. อาหาร
อ.อารมณ์
อ.อากาศ
อ.ออกกำลังกาย
อ.(อย่า)อ่อนแอ
อ.(งาน)อดิเรก
ถ้าท่านมีวัยสูงอายุแล้วสามารถประยุกต์ตัวอักษร อ.มาใช้ในการบริหารชีวิตของท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว คำว่า "ชีวิตเป็นเพียงตัวเลข"
ก็เป็นเรื่องที่ไม่ไกลจากความจริงครับ และอย่ากลัวที่จะเป็นคนแก่ครับ ถ้าไม่อยากแก่ก็ต้อง ตาย ก่อน (ฮา)
สุขสันต์วันเกิดนะคะ อายุเป็นเพียงตัวเลขจริงๆค่ะ
5 อ. น่าสนใจมากทีเดียวค่ะ
เป็นบันทึกที่อ่านแล้วได้ข้อคิดมากๆค่ะ ทำให้ได้คิดเตรียมตัว และทำให้อยากอ่านประสบการณ์และแนวคิดต่างๆของคุณ หนุ่มร้อยปี ต่อๆไปค่ะ